คอลัมน์ Buzzer Beat โดย MVP
เหลือระยะเวลาไม่ถึง 2 สัปดาห์ ศึกบาสเกตบอล เอ็นบีเอ (NBA) กำลังจะเริ่มฤดูกาลปกติ 2023/24 สิ้นสุดการรอคอยอันยาวนานประมาณ 3-4 เดือน โดยมีหลายๆ สิ่งที่ปลุกความคึกคักของแฟนๆ ตั้งแต่วันที่ 24 ตุลาคม (ท้องถิ่น) เป็นต้นไป ครั้น ซูเปอร์สตาร์ของแต่ละทีม ก้าวลงสนามแย่งชิงความเป็นเลิศ
พิจารณาข้อเขียนเหล่านี้เสมือนการไกด์ไลน์จุดที่เราต้องโฟกัส ก่อนเริ่มซีซันอันเกินกว่าจะหยั่งรู้และน่าตื่นเต้น เริ่มจากผู้เล่นคนโปรดของผมยุคนี้ คริส พอล ตำแหน่ง พอยน์ต ก็อด เอ้ย!!! พอยน์ต การ์ด ต้องมารับบทสำรอง สตีเฟน เคอร์รี, เคลย์ ธอมป์สัน, แอนดรูว์ วิกเกินส์, เดรย์มอนด์ กรีน และ เควอน ลูนีย์ 5 ตัวจริงดีสุดของ โกลเดน สเตท วอร์ริเออร์ส เพื่อโอกาสสุดท้ายของอาชีพสำหรับล่าแชมป์
ซีพีทรี (CP3) เป็นตัวจริงมา 1,363 เกม รวมฤดูกาลปกติ และเพลย์ออฟ ตลอดอาชีพ 15 ซีซัน ความปรารถนาลุกจากม้านั่งของเขาอาจไม่ได้รับการตอบสนอง ถึงแม้ให้สัมภาษณ์ตามสคริปต์เกี่ยวกับบทบาทของตัวเองว่า ยอมทำอะไรก็ได้เพื่อช่วยให้ทีมชนะ
ท้ายที่สุด ตัวสำรองระดับคุณภาพมีความสำคัญมากกว่า 5 ตัวจริงที่ดัสุด พิจารณาตามอายุผู้เล่นกระดูกสันหลังของ วอร์ริเออร์ส การมีผู้เล่นดีกรีตัวจริงทีมอื่นๆ สักคนหนึ่ง คอยเปลี่ยนเข้า-ออก ไม่ใช่เรื่องเสียหาย เมื่อถึงเวลาคนใดคนหนึ่งจำเป็นตัองพัก โดยส่งผลกระทบต่อทีมน้อยสุด หาก พอล ยอมรับหน้าที่สำรอง หรือแกนนำของทีมชุด 2 ซึ่งต้องการคนที่พึ่งพาได้ ทั้งการทำเกมหรือทำสกอร์ อาจถึงเวลาปลดล็อกแชมป์ของเขาก็เป็นได้
ข้ามมา ฟิลาเดลเฟีย เซเวนตีซิกเซอร์ส เจมส์ ฮาร์เดน กำลังสร้างปัญหาแก่แฟรนไชส์ หลังการเจรจาสัญญาใหม่ล้มเหลว และส่วนจัดการปฏิเสธเทรดเขาไปยังปลายทางที่ต้องการ "เคราเฟิ้ม" กลับเข้าเทรนนิง แคมป์ หลังหายตัววันพบสื่อ (media day) แต่ไม่มีอะไรห้ามเขาป่วนทีมตัวเอง ซึ่งเขาเคยทำมากกว่า 1 ครั้ง
โจเอล เอ็มบีด เคยมีประสบการณ์รับมือสื่อเกี่ยวกับประเด็น เบน ซิมมอนส์ หายตัวช่วงเพลย์ออฟ ราว 2 ปีก่อน และพอเจอปัญหาของ ฮาร์เดน ก็อาจสร้างความหงุดหงิดแก่เขาอีกเช่นกัน ดังนั้นหาก ดาริล มอรีย์ ไม่สามารถหาข้อเสนอเทรดที่เหมาะสม หรือปล่อยให้สถานการณ์ของ ฮาร์เดน ยืดเยื้อ ส่งผลให้ เอ็มบีด วัย 29 ปี ต้องล้มเหลวอีก เขาย่อมมีสิทธิ์ขอเทรดเพือหาความสำเร็จ แม้กระทั่งผู้เล่นที่รับใช้แฟรนไชส์แห่งหนึ่งมายาวนานอย่าง เดเมียน ลิลลาร์ด หรือ แบรดลีย์ บีล ยังมาถึงจุดแตกหักได้เช่นกัน
การแข่งขันสายตะวันตกอันดุเดือดเร้าใจ เดนเวอร์ นักเก็ตส์ แชมป์เก่า กับ ฟีนิกซ์ ซันส์ ต่างถูกยกขึ้นหิ้ง แต่ 13 ทีมที่เหลือ น่าจะซัดกันมันกว่าเดิม โดย 7 ทีมแข็งมีราคาพูลชนะ 44.5-46.5 อาทิ แอลเอ คลิปเปอร์ส, ดัลลัส มาเวอริกส์, นิว ออร์ลีนส์ เพลิแกนส์, ซาคราเมนโต คิงส์, โอกลาโฮมา ซิตี ธันเดอร์, เมมฟิส กริซซ์ลีส์ และ มินเนโซตา ทิมเบอน์วูล์ฟส ขณะที่ แอลเอ เลเกอร์ส กับ วอร์ริเออร์ส ไม่ได้ห่างไกลจากทีทเหล่านี้เช่นกัน
โปรดอย่ามองข้าม ฮุสตัน ร็อคเก็ตส์ ยุคใหม่, ยูทาห์ แจซซ์ ซึ่งชนะ 37 เกม ตลอดฤดูกาล 2022/23 หรือแม้กระทั่ง ซาน อันโตนิโอ สเปอร์ส ยุค วิคเตอร์ เวมบานยามา ดราฟต์เบอร์ 1 ปี 2023 และ เดวิน วาสเซลล์ หากสามารถตอบแทนสัญญา 5 ปี 146 ล้านเหรียญ อย่างคุ้มค่า โดยทีมๆ เดียวที่อาจหลุดจากการไล่ล่าสถิติชนะ 40 เกม อาจเป็น ปอร์ตแลนด์ เทรล เบลเซอร์ส แม้ว่าจะมี ดีอังเดร เอย์ตัน, สกูต เฮนเดอร์สัน และ แชดอน ชาร์ป แต่ก็น่าจะเป็นรากฐานสำหรับการสร้างทีมขั้นต่อไปมากกว่า
ปิดท้ายด้วยการสูญพันธุ์ของ "ซูเปอร์ทีม" NBA ออกนโยบายลงโทษทีมที่ทุ่มเงินสร้างทีมมหาศาลอย่าง ซันส์ ซึ่งใช้จ่ายเกิดอัตราขั้นที่ 2 ซึ่งตั้งไว้ให้มูลค่ารายจ่ายเกินภาษีฟุ่มเฟือย 17.5 ล้านเหรียญ โดยอาจส่งผลต่อการเงิน, เจรจาแลกเปลี่ยนผู้เล่น และข้อจำกัดต่างๆ เกี่ยวกับสิทธิ์ดราฟต์ ไม่ว่า ซันส์ จะจบซีซันนี้ด้วยความล้มเหลวหรือคว้าแชมป์ อาจเกิดผลลัพธ์ที่ไม่สู้ดีนักต่ออนาคตของแฟรนไชส์ สุดท้ายก็ต้องระเบิดทีมทิ้ง แล้วปั้นใหม่