คอลัมน์ “ริงไซด์ ไฟต์คลับ” โดย “ลักษมณ์ นันทิวัชรินทร์”
มันส์สะใจแฟนๆ เลยทีเดียวสำหรับศึก One Fight Night 12 ที่ระเบิดขึ้นที่สังเวียนสนามมวยเวทีลุมพินี เมื่อเช้าตรู่วันเสาร์ที่ผ่านมา โดยรายการนี้มีนักมวยไทยขึ้นสังเวียน 2 รายด้วยกันและโชว์ฟอร์มแจ่มเจ๋วไม่ทำให้แฟนมวยผิดหวัง เริ่มจาก “ราชินีนักชก” เพชรจีจ้า ลูกเจ้าพ่อโรงต้ม ไล่ถล่มคู่ต่อสู้สาวสเปนพ่ายไปในเวลาแค่ 26 วินาที คว้าโบนัส 5 หมื่นเหรียญไปครองประเดิมสังเวียนรายการวันใหญ่ ส่วนคู่เอก ซุปเปอร์เล็ก เกียรติหมู่9 ฟอร์มดุไล่ประเคนอาวุธสารพัดจนคู่ชกจากรัสเซียแตกยับก่อนถูกจับพ่ายไปแค่ยก 2 แต่นักชกไทยชวดโบนัสไปอย่างน่าเสียดายเพราะทำน้ำหนักไม่ได้
โดยไฟต์ซุปเปอร์เล็กมา 135.25 ปอนด์ คือเกินพิกัดไปแค่ 0.25 ปอนด์เท่านั้น เอาจริงน้ำหนัก 0.25 ปอนด์นี่ลดได้สบายๆ แต่รายการของ One Championship นั้นมีการวัดค่าน้ำในร่างกายด้วย โดยค่าน้ำของนักชกไทยอยู่ที่ 1.015 อยู่แล้ว ถ้ารีดน้ำออกไปอีกค่าน้ำไม่ได้แน่ๆ งานนี้เลยต้องตกลงชกกันที่พิกัด “แคทช์เวท” โดยซุปเปอร์เล็กก็ต้องโดนหักค่าตัวไปให้คู่ชกด้วยตามระเบียบ แล้วพอชนะก็เลยชวดโบนัสไปด้วยอย่างน่าเสียดาย เรียกว่าทำเงินเฉียด 2 ล้านหล่นหายไปเพราะน้ำหนัก 0.25 ปอนด์หรือขีดนิดๆ เท่านั้น
เท่าที่สังเกตดู ตอนนี้เห็นนักมวยหรือนักสู้ MMA เริ่มทำน้ำหนักไม่ได้ตามพิกัดบ่อยขึ้น หลายคู่ที่ต้องเปลี่ยนมาเป็นพิกัดแบบ “แคทช์เวท” คือน้ำหนักพิเศษตามแต่จะตกลงกัน เอาจริงเรื่องการกำหนดพิกัดน้ำหนักนี่ก็เพื่อให้การต่อสู้เป็นไปอย่างยุติธรรมที่สุดสำหรับผู้ที่มีขนาดรูปร่างต่างๆ กัน รวมทั้งเรื่องของความปลอดภัย ที่จะไม่ให้คู่ชกรูปร่างต่างกันเกินไป แต่พอนักสู้หรือนักมวยมาแบบเกินพิกัด แล้วมาตกลงกันเป็นกรณีๆ ไปบ่อยๆ แบบนี้ ก็ดูไม่ดีกับวงการต่อสู้ อย่างกรณีของซุปเปอร์เล็กนี่ยังเกินมานิดเดียว น่าจะทำมาสุดๆ แล้วจริงๆ แต่บางกรณีเคยเห็นมาเกินหลายปอนด์บ้าง มาเกินไปถึง 7 ปอนด์หรือ 3 กิโลกว่าก็มี หรือเคยเห็นนักมวยที่มาเกินไปถึง 11 ปอนด์ก็มี ตอนนี้รายการ MMA พิกัดแต่ละรุ่นห่างกัน 10 ปอนด์ มาเกิน 7 ปอนด์นี่คือเกือบเต็มรุ่นถัดไปแล้ว ส่วนมวยนี้พิกัดแต่ละรุ่นห่างกัน 3%-5% ช่วงห่างแต่ละรุ่นก็ตั้งแต่ 3 ปอนด์ 4 ปอนด์ ไปจนถึง 7 ปอนด์ 8 ปอนด์ พอนักมวยมาห่างไปถึง 7 ปอนด์หรือสุดๆ คือ 11 ปอนด์นี่เท่ากับชกกันคนละรุ่นห่างกันถึง 2-3 รุ่นเลยทีเดียว
เอาจริงก็เข้าใจทั้งผู้จัด ที่ประกบมวยมาแล้ว ก็อยากให้ชกกัน ตัวนักมวยก็อุตส่าห์ซ้อมมา ก็อยากชกกัน แฟนมวยก็อยากดู แต่ถ้ามาห่างกันเยอะไป ก็อยากให้พิจารณาเรื่องความปลอดภัยด้วย รายการอย่าง “วัน เอฟซี” ให้ความสำคัญกับเรื่องความปลอดภัยอยู่แล้ว ถ้ามาเกินกันมากๆ ก็คงต้องพิจารณาครับ ส่วนตัวนักมวย ก็เข้าใจว่าทำน้ำหนักมันก็ทรมานมากอยู่แล้ว แต่ในฐานะนักมวยอาชีพ ก็อยากเห็นนักมวยที่มีระเบียบวินัย มีการเตรียมตัวที่ดี และมีน้ำใจนักกีฬาที่จะไม่เอาเปรียบคู่ต่อสู้ ทำน้ำหนักมาให้อยู่ในพิกัดเจอกันแฟร์ๆ ครับ