คอลัมน์ “ริงไซด์ ไฟต์คลับ” โดย “ลักษมณ์ นันทิวัชรินทร์”
เพลี่ยงพล้ำไปไม่น้อยสำหรับรายการมวยที่หวังยกระดับมวยไทยอย่าง “RWS” หลังจากพยายามทุ่มทุนจัดศึกมวยรอบพร้อมถ่ายทอดสดช่วง “ไพรม์ไทม์” คืนวันศุกร์เมื่อปีที่แล้วทางช่องเวิร์คพอยท์ 23 ถือว่าจุดกระแสติดระดับหนึ่ง แต่ปีนี้โดน “วัน ลุมพินี” มาชนจนต้องย้ายเวลาหลบมาค่ำวันเสาร์แทน แม้จะได้มวยจากค่ายเพชรยินดีมาเสริมทัพ และเพิ่มรางวัลมวยรอบในปีนี้ให้อลังการ เรตติ้งก็ยังพ่ายแบบไม่น่าเชื่อ ขนาดแพ้รายการมวยเช้าวันเสาร์ด้วยซ้ำ
ล่าสุดทาง RWS ก็มีข่าวดีที่ยกระดับรายการไปได้อีกขั้น ด้วยการได้เซ็นสัญญาถ่ายทอดสดแบบ “สตรีมมิ่ง” ผ่านค่ายดังระดับโลกอย่าง “ดาโซน” หรือ DAZN ไปยังกว่า 200 ประเทศทั่วโลก น่าจะทำให้มีเม็ดเงินไหลเข้าพอสมควร ประเดิมกันไปในรายการเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา พอดีกับคิวรายการมวยรอบของ RWS รุ่นซูเปอร์เวลเตอร์เวท 154 ปอนด์ ที่มีนักชกชื่อดังคับคั่ง ทั้งเพชรมรกต เพชรยินดีอคาเดมี่ ที่กำหนดเจอกับยอดมวยไทยอย่างยอดวิชา ภ.บุญสิทธิ์พอดี แถมด้วยชาโด้ สิงห์มาวิน แดเนียล ซินบี่มวยไทย ที่ชกมวยไทยมาเกือบ 40 ไฟต์ไม่เคยแพ้ใคร เรียกว่ารายการมวย RWS เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา คู่มวย “ขายได้” สุดๆ แถมทางรายการยังเพิ่มรางวัล “น็อกเอ๊าท์แห่งรายการ” เพิ่มเป็น 5 แสนบาทเลยทีเดียว เรียกว่ากะสู้กับรายการ “วัน ลุมพินี” เต็มที่ ซึ่งธนัญชัย ศิษย์สองพี่น้อง ก็ยิงศอกเต็มดั้งจมูกเรซ่า วีนั่มมวยไทย มวยอิหร่านชั้นดีพ่ายน็อกไปในยกสาม ฟาดรางวัลพิเศษไปเรียบร้อย ถือว่าคู่มวยไทยในรายการเมื่อคืนวันเสาร์ ไม่ทำให้แฟนๆ ผิดหวัง
และทาง RWS ยังจัดมวยคู่พิเศษกะฟันเรตติ้งเต็มที่ ด้วยการเอาหนุ่มหน้าหล่อ “โคตะ มิอูระ” มาขายอีกที หลังจากจัดมาเจอกับ “พี่บัว” บัวขาว บัญชาเมฆ ไปเมื่อปีที่แล้ว และเรียกเสียงกรี๊ดได้สุดๆ มาคราวนี้ทาง RWS จัดให้โคตะ พบกับมวยสาย “สตรีทไฟต์” อย่าง “เหยิน โจ๊กเกอร์” ที่มีสีสัน และมีแฟนคลับติดตามไม่น้อย คู่นี้ก่อนชกดูแล้วชื่อชั้นโจ๊กเกอร์เป็นรอง เพราะไม่เคยหัดไม่เคยฝึกซ้อมแบบมืออาชีพจริงๆ มาก่อน แต่เอาจริงหนุ่มหล่อโคตะนั้น ก่อนหน้ามาชกกับ “พี่บัว” ก็เคยชกมวย MMA รายการ “ไรซิน” มาแค่ครั้งเดียวในปี 2021 น็อกคู่ต่อสู้ได้ในยก 1 พอปี 2022 ชกกับบัวขาวเราครั้งเดียวซึ่งเป็นการชกโชว์ จากนั้นก็ได้ขึ้นชกอีก 2 ครั้งเท่านั้นในปี 2023 แบบ MMA ในรายการ “ไรซิน” เช่นเดียวกัน ชนะ 1 ด้วยการจับล็อกในท่า “อาร์มบาร์” ในยกแรก แพ้ 1 แบบโดนน็อกยก 1 สรุปเคยชกจริงๆ มา 3 ไฟต์ถ้วน ชนะ 2 แพ้ 1 ชกแต่ละครั้ง ไม่เคยเกิน 1 ยก รวมเวลาบนเวทีทั้ง 3 ไฟต์ 8 นาทีนิดๆ พอขึ้นเวทีจริงๆ แม้โคตะจะได้ใหญ่กว่าเยอะ แต่มวยคู่นี้เลยกลายเป็นสูสีแบบ “มวยวัด” โคตะนั้นพอจะมีเบสิคในการออกหมัดบ้าง ทิ่มโจ๊กเกอร์จนหน้าบวมปูด แต่ชกแล้วแทนที่จะออกหมัดต่อ ซึ่งแบบนั้นโจ๊กเกอร์น่าจะยุ่งแน่ กลับพยายามเข้ากอดทำ “เทคดาวน์” ตลอดการชก แถมหมดแรงเห็นๆ ตั้งแต่ยก 2 ส่วนโจ๊กเกอร์อาศัยใจและความอึดยืนอยู่ได้ ส่วนฝีมือก็ตามแบบสตรีทไฟต์ เหวี่ยงหมัดเรี่อยๆ การ์ดหลวม หลบหมัดไม่เป็น ครบ 3 ยกไม่มีการตัดสิน งานนี้ถือว่า “เหยิน โจ๊กเกอร์” ได้เกิด เพราะมีสีสันใช้ได้ ใจสู้ ปั้นต่อได้ ส่วนโคตะนั้นเสียรังวัดไปเยอะ พยายามออกตัวเรียบร้อยว่าถนัด MMA มากกว่า แบบนี้ถ้า RWS จะดึงมาชกคิกบ๊อกซิ่งอีก แฟนคลับน่าจะยังกรี๊ดความหล่อได้ แต่แฟนๆ ที่จะดูมวยก็คงเข็ดไม่น้อย จะจัด MMA ก็ไม่ใช่ทางของ RWS งานนี้น่าจะชงต่อยากละ
จากศึกนี้ ก็คงมีคำถามว่า “RWS” จะไปทางไหน จะยกระดับวงการมวยไทย หรือเน้นเรียกเรตติ้งด้วยมวยโปรโมท งานนี้ยอมรับว่าประสบความสำเร็จ เพราะชงจนคนติดตามดูเยอะมาก เรตติ้งรายการนี้น่าจะดีพอสมควรเพราะได้กลุ่มแฟนคลับของโคตะกับโจ๊กเกอร์ แต่แฟนมวยจริงๆ ที่ดูมวยจริงๆ ก็คงงงๆ ระยะยาวจะยั่งยืนแค่ไหน แฟนมวยต่างชาติที่ติดตามดูทาง DAZN จะคิดยังไง ภาพลักษณ์ของมวยไทยในเวทีศักดิ์สิทธิ์แบบนี้จะเป็นยังไง แถมภาพการชกแบบนี้ออกรายการประเดิมของ DAZN ไปทั่วโลกซะด้วย สุดท้ายจะขายได้จริงหรือไม่ กาลเวลาเท่านั้นที่จะเป็นผู้ตอบ