คอลัมน์ Buzzer Beat โดย MVP
คำพังเพยของวงการกีฬาและชีวิตจริงระบุว่า “ไม่มีสิ่งใดแน่นอน” เมื่อ 1 ปีที่แล้ว เมมฟิส กริซซ์ลีส์ จุดประกายความหวังว่า พวกเขาอยู่บนจุดเริ่มต้นของการสร้างความยิ่งใหญ่ กระทั่งถูก โกลเดน สเตท วอร์ริเออร์ส แชมป์เก่า เขี่ยตกรอบรองชนะเลิศ สายตะวันตก 2-4 เกม (แข่งระบบ 4 ใน 7 เกม) ทว่าความปราชัยครั้งนั้น เปรียบเสมือนการเรียนรู้มากกว่าพลาดโอกาส
ตอนนี้ท่ามกลางกระแส จา มอแรนท์ ซูเปอร์สตาร์แฟรนไชส์ หมดสิทธิ์ลงเล่นอย่างน้อย 2 เกม ข้อหาชักปืนออกไลฟ์สดบนเพจ “อินสตาแกรม” สื่อสังคมออนไลน์ ที่ไนท์คลับแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่รัฐโคโลราโด และนำไปสู่การกล่าวของโทษ ซึ่งเขาแถลงว่า “ขอเวลาเว้นวรรคเพื่อขอความช่วยเหลือ และเรียนรู้ทางออกที่ดีกว่าสำหรับเผชิญความตึงเครียด และสุขภาพจิตที่ดี” เป็นเหตุให้เส้นทางสู่ความยิ่งใหญ่ของ เมมฟิส เต็มไปด้วยความยากลำบาก
แบรนดอน คลาร์ก ผู้เล่นคนสำคัญคนหนึ่งของ กริซซ์ลีส์ บาดเจ็บเอ็นร้อยหวายปิดเทอมเรียบร้อยแล้ว มอแรนท์ การ์ดแม่ทัพ ซึ่งถูกจับตามองว่าจะเป็นผู้นำแฟรนไชส์ ด้วยรางวัล “รุกกี้ ออฟ เดอะ เยียร์ (ดาวรุ่งยอดเยี่ยม)” และ ผู้เล่นพัฒนาฝีมือยอดเยี่ยม (MIP) กลับสร้างปัญหาจนถูก ลีกบาสเกตบอล เอ็นบีเอ (NBA) และฝ่ายบังคับใช้กฎหมายสอบสวน หลังเกิดข่าวฉาวชกต่อยวัยรุ่นคนหนึ่งตรงศีรษะ 12-13 ครั้ง และข่มขู่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของห้างสรรพสินค้า
ก่อนถูกแบนช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา จิม แทนเนอร์ เอเยนต์ส่วนตัว มอแรนท์ ชี้แจงว่าคดีความทุกคดีเชื่อมโยงกับการพกอาวุธปืนกำลังดำเนินการสอบสวนอย่างเต็มที่ และไม่สามารถสรุปได้ ประเด็นนี้รวมถึงการสอบสวนของ NBA เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งไม่พบหลักฐานแน่ชัด กรณีชี้เลเซอร์สีแดงจากอาวุธปืนใส่คณะเดินทางของ อินเดียนา เพเซอร์ส และกรณีทะเลาะวิวาทกับวัยรุ่นคนหนึ่ง ที่สนามบาสเกตบอลหลังบ้าน โดยพกปืนไว้ที่สายคาดเอว เป็นการกระทำเพื่อป้องกันตัว 100 เปอร์เซ็นต์ โดย มอแรนท์ ไม่ได้ถูกดำเนินคดีอาญา ถึงแม้ยอมรับว่าเป็นคนออกหมัดก่อน
กริซซ์ลีส์ ตอบสนองด้วยการลงโทษ ซึ่งแฟรนไชส์ที่มีตลาดเล็กๆ แทบไม่เคยปฏิบัติต่อซูเปอร์สตาร์ และยังไม่มีใครทราบว่า มอแรนท์, เพื่อนร่วมทีมและโค้ชของเขาจะตอบสนองอย่างไร หากสถานการณ์ยังคงเป็นเช่นนี้ต่อไป ลำพังแค่เจ้าของสถิติทีมป้องกันดีสุดของ NBA อาจไม่เพียงพอผลักดัน เมมฟิส เข้าเพลย์ออฟลึกกว่าซีซันที่แล้ว ตอนนี้มันยังเร็วเกินกว่าตัดสินว่า สิ่งที่เกิดขึ้นคือการตกจากจุดสูงสุด แต่ไม่ได้เร็วเกินไปที่จะคิดว่า ชะตากรรมนี้อยู่ในขอบเขตของความเป็นไปได้ระหว่าง มอแรนท์ กับ กริซซ์ลีส์
สำหรับเหตุการณ์ที่รัฐโคโลราโด การพกปืนไม่ใช่สิ่งผิดกฎหมายตราบใดที่อาวุธถูกซุกซ่อนไว้ แต่มีข้อยกเว้นว่าประการหนึ่งว่า ต้องไม่พกปืนขณะอยู่ภายใต้อิทธิพลของแอลกอฮอล์ ถึงแม้ตามหลักฐานคลิปวิดีโอ ไม่สามารถระบุได้ว่า มอแรนท์ อยู่ในอาการมึนเมา แต่เห็นได้ว่าบุคคลรอบข้างต่างอยู่ในอาการมึนเมา งานนี้ต้องรอการสรุปสำนวนของตำรวจ
ส่วนกฎของ NBA ห้ามผู้เล่นทุกคนพกปืน ขณะอยู่ในอาคารสถานที่ของแฟรนไชส์ หรือเดินทางบนรถบัสประจำทีม แม้ว่า มอแรนท์ จะรอดพ้นการดำเนินคดีที่รัฐโคโลราโด แต่เขามีสิทธิ์ถูกเล่นงาน เนื่องจากฝ่าฝืนกฎการพกปืนของ NBA
และตามข้อตกลงระหว่าง NBA กับ สมาคมผู้เล่น NBA ซึ่งระบุว่า ผู้เล่นไม่ได้รับอนุญาตให้พกปืน หรืออาวุธที่อาจเป็นอันตรายถึงชีวิต เมื่อใดก็ตามที่ผู้เล่นเดินทางลงแข่งขันตามโปรแกรม NBA ทั้งในฐานะตัวแทนของแฟรนไชส์, ลีก หรือประกอบกิจกรรมของลีก กรณีผลการสอบสวนพบว่าผิดจริงตามข้อกล่าวหา มอแรนท์ อาจถูกแบนหรือปรับเงิน
พิจารณาดูแล้วบทลงโทษของลีกอาจยังไม่น่ากลัวเท่าการดำเนินคดีของตำรวจรัฐโคโลราโด เนื่องจาก มอแรนท์ อาจต้องคดีอาญา ส่งผลกระทบต่ออนาคตที่กำลังรุ่งโรจน์ของเขาและแฟรนไชส์ แต่บทลงโทษทางกฎหมายจะรุนแรงแค่ไหน ถึงจุดนี้ต้องรอผลการสอบสวน และการตั้งข้อหาต่อไป
