นครสวรรค์ - นักการเมืองหนุ่มปากน้ำโพ เดินหน้าชน-เปิดตัวแรง..หอบหลักฐานแจ้งความผู้การตำรวจ-ผกก.โรงพักกองเมืองนครสวรรค์ ตาม ม.157 ปล่อยผับขาใหญ่เปิดเกินเวลาบางคืนยันตีสี่ แถมมีเยาวชนใช้บริการจนเกิดเรื่องทะเลาะวิวาทซ้ำ
วันนี้ (7 มี.ค. 66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายศิระ อวยศิลป์ อายุ 40 ปี หัวหน้าพรรคไทยเป็นหนึ่ง ซึ่งพักอาศัยในเขตเทศบาลนครนครสวรรค์ อ.เมืองนครสวรรค์ ได้นำตัวเยาวชนชาย วัย 19-20 ปี เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์คดีโดนรุมทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บ ที่บริเวณหน้าสถานบันเทิงชื่อดังแห่งหนึ่งในพื้นที่เขตเทศบาลเมืองนครนครสวรรค์
พร้อมกับแจ้งความ พล.ต.ต.ชาญวิทย์ กนกนาก ผบก.ภ.จว.นครสวรรค์ พ.ต.อ.เสฎฐวุฒิ รอดจันทร์ ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ รวมถึง พ.ต.ท.เขมณัฏฐ์ ภักดิ์แจ่มจรูญ รอง ผกก.ป. และ สวป.สภ.เมืองนครสวรรค์ ตาม ป.อาญามาตรา 157 ฐานปล่อยให้สถานบันเทิงเปิดบริการเกินเวลาตามที่กฎหมายกำหนด และมีเยาวชนเข้าไปใช้บริการหลายคนเป็นเหตุให้มีการทะเลาะวิวาททำร้ายร่างกายกัน
นายศิระ หัวหน้าพรรคไทยเป็นหนึ่ง เปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวว่า เรื่องราวดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา กลุ่มวัยรุ่นที่ตนเองรู้จักได้ไปเที่ยวสถานบันเทิงดังแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่บริเวณริมอุทยานสวรรค์ เขตเทศบาลนครนครสวรรค์ แล้วเกิดไปมีเรื่องมีราวทะเลาะวิวาทกับขาใหญ่ที่มาเที่ยว ทำให้โดนกลุ่มขาใหญ่ยกพวกรุมทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บ
หัวหน้าพรรคไทยเป็นหนึ่งอ้างว่าเหตุการณ์ในวันนั้นเกิดขึ้นเวลา 02.23 น. แต่สถานบันเทิงดังกล่าวยังคงเปิดให้บริการ ซึ่งถือว่าเปิดเกินเวลาตามที่กฎหมายกำหนด ประกอบกับน้องๆ กลุ่มนี้ ได้มาร้องทุกข์กับตนด้วย จึงได้รวบรวมหลักฐานทุกอย่างก่อนจะพาน้องๆ เดินทางมาแจ้งความในคดีถูกทำร้ายร่างกาย ส่วนตนก็ตัดสินใจแจ้งความเอาเรื่องตำรวจ จ.นครสวรรค์ ด้วย
นายศิระระบุว่า สถานบันเทิงนี้ถือเป็นผับครบวงจรชื่อดังของเมืองนครสวรรค์ ที่คนทุกระดับมักเข้าไปใช้บริการเที่ยวยามราตรีเป็นจำนวนมาก ซึ่งก็เปิดให้บริการมาประมาณเกือบ 1 ปี แต่ชื่อเสียงโตเร็วและมีกิตติศัพท์ในนครสวรรค์ ที่สามารถเปิดได้เกินเวลาตามที่กฎหมายกำหนด โดยเรื่องนี้ ตนมีหลักฐานบันทึกภาพถ่ายในเรื่องปิดเกินเวลา ที่เปิดได้ยาวไปจนถึงเวลา 03.00 น. และบางคืนก็เปิดได้ยัน 04.00 น.
“ผับเปิดเกินเวลาทุกวัน ทำไมตำรวจนครสวรรค์ โดยเฉพาะผู้การจังหวัดฯ ถึงปล่อยปละละเลยให้เป็นเช่นนี้”
หัวหน้าพรรคไทยเป็นหนึ่งยังระบุต่อว่า สำหรับผับแห่งนี้อดีตเมื่อหลายปีก่อนเคยเปิดเป็นสถานบันเทิงเพลงเพื่อชีวิต แต่ก็ถูกคำสั่งของกระทรวงมหาดไทยสั่งปิด และไม่อนุญาตให้เปิดกิจการ เพราะปล่อยให้เยาวชนเข้าไปเที่ยวมั่วสุมเป็นเหตุให้เกิดการทะเลาะวิวาท อีกทั้งการก่อสร้างผับดังกล่าว ยังมีเรื่องผิดที่ไม่ได้มีการขออนุญาตในการก่อสร้างตั้งแต่ต้น รวมถึงมีแค่ใบประกอบกิจการแค่ร้านอาหารเท่านั้น แต่ก็ยังเปิดให้บริการเป็นสถานบันเทิงได้ ลองคิดดูแล้วกัน ถ้าไม่มีอิทธิพลเป็นขาใหญ่จริง คงเปิดไม่ได้
เมื่อผู้สื่อข่าวถามนายศิระว่าเคยเข้าไปใช้บริการผับแห่งนี้ และเคยไปมีเรื่องทะเลาะวิวาทกันหรือไม่ เจ้าตัวยอมรับว่าเคยไปใช้บริการ และเคยไปมีเรื่องกับแฟนสาวของรอง ผกก.คนหนึ่งจริง ซึ่งเรื่องก็เกิดก่อนหน้านี้ไม่นาน แต่เหตุการณ์ดังกล่าวตนก็ได้เคลียร์ปรับความเข้าใจจนจบไปแล้ว กระทั่งมาปล่อยเยาวชนอายุไม่ถึงเข้าไปเที่ยวแล้วเกิดเรื่องทะเลาะวิวาทอีก ตนจึงตัดสินใจนำเรื่องมาแจ้งความให้ดำเนินคดีต่อตำรวจนครสวรรค์ ที่ปล่อยปละละเลย ไม่ยอมทำตามหน้าที่ในการรักษากฎหมายบ้านเมือง และปล่อยให้ผับแห่งนี้เป็นแหล่งซ่องสุมขาใหญ่ผู้มีอิทธิพลทั้งหลายในพื้นที่นครสวรรค์ และจังหวัดใกล้เคียง
“หลังจากที่ได้เดินทางไปลงบันทึกประจำวันไว้กับตำรวจ สภ.เมืองนครสวรรค์ ก่อนหน้านี้ ปรากฏว่าได้มีบุคคลผู้ทรงอิทธิพลที่สุดในพื้นที่มาพบ พร้อมอ้างว่าเป็นคนของอดีตนักการเมืองดังที่ตอนนี้อยู่ในคุก มาพูดคุยเจรจาขอให้หยุด พร้อมกับรับปากว่าจะไม่ให้มีเหตุการณ์เช่นนี้อีก และหากมีเขาจะเป็นคนปิดเอง แต่ผมไม่สน ไม่กลัวอิทธิพลมืด หากกลัวคงไม่เดินทางมาเอาเรื่องตำรวจนครสวรรค์”
นายศิระกล่าวพร้อมระบุถึงวันที่ไปมีเรื่องกับแฟนของรอง ผกก. ว่ามีความคับแค้นใจ นักเลงขาใหญ่คนหนึ่งที่อ้างว่าเป็นเด็กของผู้การฯ นครสวรรค์ ซึ่งทำตัวเป็นนักเลง เดินเข้ามาถามหาเรื่องตนว่า “มึงเป็นใครใหญ่มาจากไหน มันบอกว่ามันเด็กผู้การฯ มันไม่กลัวหรอก มันจะกระทืบให้เละเลย” จึงอยากขอให้ผู้การจังหวัดช่วยตรวจสอบด้วย ว่านักเลงคนนี้เป็นใคร แล้วมาอ้างว่าเป็นเด็กท่านได้อย่างไร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มเยาวชนวัยรุ่นที่เดินทางมาพร้อมนายศิระ เพื่อแจ้งความดำเนินคดีที่ถูกนายเนย นักเลงขาใหญ่ยกพวกรุมทำร้ายร่างกายที่ผับดังกล่าวนั้น ไม่ได้เผยรายละเอียดถึงเหตุการณ์ที่ไปทะเลาะวิวาทมากนัก ระบุเพียงว่าต้องการเอาเรื่องนักเลงกลุ่มนี้ให้ถึงที่สุด ส่วนนายศิระ หัวหน้าพรรคไทยเป็นหนึ่ง ได้นำหลักฐานเป็นคลิปเสียงการสนทนากันระหว่างนักการเมืองรายหนึ่ง ที่ออกมาแฉว่า นายเนยนักเลงขาใหญ่ที่ชอบหาเรื่อง อยู่ในกลุ่มแก๊งทำธุรกิจฟอกเงินด้วย
ด้าน พล.ต.ต.ชาญวิทย์ กนกนาก ผบก.ภ.จว.นครสวรรค์ ระบุว่า นายเนยที่มีการร้องเรียนว่าอ้างตัวสนิทกับตน ทำตัวเป็นขาใหญ่นั้น ยืนยันว่าเวลาตนไปนั่งรับประทานอาหารกับใครที่ไหน ก็มักจะมีคนไม่รู้จักมากหน้าหลายตาเข้ามาขอถ่ายรูปด้วยตลอด เขาอาจนำรูปพวกนี้ไปแอบอ้างได้ ซึ่งในส่วนของตนขอยืนยันหนักแน่นในเรื่องลูกน้องของตนว่าไม่มีใครเป็นอาชญากร นักเลง หรือมิจฉาชีพอย่างแน่นอน
แต่เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงเรื่องกรณีที่มีผับเปิดเกินเวลา ปรากฏว่าผู้การฯ นครสวรรค์ กลับพูดถึงเรื่องนโยบายในการทำงานของตำรวจ ในเรื่องการเคร่งครัดการเปิดปิดสถานบันเทิง ซึ่งสุดท้ายก็ไม่ได้ระบุถึงเรื่องที่มีสถานบันเทิงในนครสวรรค์เปิดเกินเวลาตามที่กฎหมายกำหนดแต่อย่างใด
