คอลัมน์ EYE ON SPORTS โดย กษิติ กมลนาวิน ราชวังสัน
งานฟุตบอลประเพณี ธรรมศาสตร์-จุฬาฯ ครั้งที่ 75 ที่น่าจะมีกำหนดจัดขึ้นแถวๆเดือนกุมภาพันธ์ 2564 หน้าที่ในการเป็นเจ้าภาพเป็นคิวของ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งจะเป็นครั้งสำคัญทีเดียว เพราะนับตั้งแต่หนแรกที่จัดขึ้นในปี พ.ศ. 2477 มาถึงตอนนี้ก็เป็นหนที่ 75 แล้ว ฝรั่งเรียกว่า Diamond anniversary แต่เมื่อวันที่ 9 ธันวาคมที่ผ่านมา เจ้าภาพออกประกาศ งดการจัดงาน ทางเผจ Thammasat University อย่างค่อนข้างเงียบฉี่ โดยให้เหตุผลสั้นๆว่า เนื่องจากสถานการณ์การระบาดของโคโรนาวายรัส (COVID-19)
เสน่ห์ของงานฟุตบอลประเพณีจุฬาฯ-ธรรมศาสตร์นั้น ในแง่ของการแข่งขันก็ถือเป็นเกมอันยิ่งใหญ่ เป็นศึกแห่งศักดิ์ศรี ใครมีโอกาสติดทีมได้เป็นนักเตะลงรับใช้สถาบันในวันนั้นก็นับเป็นเกียรติสูงสุดของชีวิตนิสิต นักศึกษาในรั้วมหาวิทยาลัยทั้ง 2 แห่ง ซึ่งทั้ง 2 ทีมมักจะมีนักเตะระดับทีมชาติร่วมอยู่ด้วย และนี่เป็นฟุตบอลนัดเดียว ต่างก็ใส่กันเต็มๆแน่นอน เร้าใจทุกนาที
นอกจากนั้น ยังมีการประชันกันด้านการเชียร์ โดยเฉพาะเชียร์ลีดเดอร์ของทั้ง 2 สถาบันที่ถูกเลือกเฟ้นมาอย่างดี ซุ่มซ้อมกันตั้งแต่เย็นยันดึกนานร่วม 2-3 เดือน ชุดแต่งกายถูกออแบบให้โฉบเฉี่ยว สะดุดตา ขนมาปะทะกันเพื่อวันนี้วันเดียว และงานนี้เป็นโอกาสให้ผู้นำเชียร์หลายคนเป็นที่สนใจและอาจมีก้าวย่างต่อไปเพื่อเติบโตในวงการบันเทิง
การแปรอักษรบนอัฒจันทร์อันตระการตาที่ฝรั่งเรียกว่า Card stunt อันนี้เริ่มขึ้นครั้งแรกในประเทศไทยตั้งแต่ปี พ.ศ. 2487 โดยครูจากโรงเรียนอัสสัมชัญนำมาเผยแพร่ ซึ่งต่อมาหลายสถาบันก็ได้ถือเป็นแบบอย่างนำไปจัดทำบ้าง สำหรับงานฟุตบอลประเพณี จุฬาฯ-ธรรมศาสตร์ นั้นเริ่มตั้งแต่ปี พ.ศ. 2500 มีทั้งภาพสวยงามและถ้อยคำแซวกันไปแซวกันมาทำให้น่าติดตามทุกครั้งทุกปีไป
และที่ขาดไม่ได้ก็คือ ขบวนพาเหรดล้อการเมือง ที่ประกอบด้วยหุ่นและป้ายข้อความล้อการเมืองต่างๆ โดยหยิบยกเรื่องราวที่เป็นประเด็นทางการเมืองในช่วงนั้นๆ ซึ่งที่ผ่านมาคนโกง ศรีธนญชัย คนค้ายาเสพติด รุกป่า รับสินบน ทุจริต ตักตวงผลประโยชน์ให้แก่ตนและพวกพ้องมักได้เถลิงอำนาจ เอาเปรียบไม่เห็นหัวประชาชน เลือกใช้และเลือกไม่ใช้กฎหมายตามใจตน
นอกจากนั้น เรื่องการแก้ปัญหาต่างๆของรัฐบาลที่ไร้ผล ไร้ปัญญา โง่เขลา เต่าถุย เชื่องช้า ทำเศรษฐกิจทรุด เรื่องเหล่านี้ย่อมต้องถูกหยิบยกมาวิพากษ์วิจารณ์ ตำหนิ กระตุกเตือน ว่ากล่าว ผ่านการเดินพาเหรดขบวนล้อการเมือง สะท้อนความคิดเห็นของนักศึกษา โดยกลุ่มอิสระล้อการเมืองของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ อันถือเป็นเสน่ห์ของงานฟุตบอลประเพณี จุฬาฯ-ธรรมศาสตร์ มาทุกยุคทุกสมัย ไม่ว่าจะเป็นในยุครัฐบาลประชาธิปไตยครึ่งใบหรือรัฐบาลเผด็จการก็ตาม
ยิ่งในช่วงเวลาที่ผ่านมา นักเรียน นิสิต นักศึกษา ประชาชนเรือนแสน หรือหากนับกันทั่วประเทศก็หลายล้านคนไม่ยอมนิ่งเฉยอยู่ภายใต้อำนาจอีกแล้ว พวกเขาเริ่มแสดงความเห็นอย่างไม่เกรงกลัวอะไรอีกต่อไป จัดการชุมนุนกันเป็นระยะ เพดานที่เคยเป็นแนวกดทับการแสดงออกนั้นถูกฝ่าทะลุออกไปอย่างไม่มีขีดจำกัด ยิ่งในปัจจุบัน ด้วยความเจริญทางเท้คน็อลอจี้มันทำให้ทุกคนเข้าถึงข้อมูลได้อย่างเท่าเทียมกัน เจ้าของประเทศรุ่นนี้จึงไม่สนใจต่อสิ่งที่ถูกป้อนใส่สมองของพวกเขามาตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาในรูปหลักสูตร หลักคิด อีกต่อไป เจ้าของอนาคตของชาติตัวจริงเพียรพยายามเรียกร้องให้แก้ไข ปรับปรุงหลายสิ่งหลายอย่าง แต่ผู้ครองอำนาจไม่เคยคิดฟังเสียงเหล่านั้น กลับหาทางสกัดกั้นการแสดงความเห็น ซ้ำจัดปฏิบัติการทางข้อมูลข่าวสารเสียอีก
แล้วมันจะมีโอกาสไหนอีกล่ะครับ ถ้าไม่ใช่ งานฟุตบอลประเพณี ธรรมศาสตร์-จุฬาฯ ครั้งที่ 75 ที่จะมีนิสิต นักศึกษา คณาจารย์ ปัญญาชน และที่สำคัญ ผู้แทนพระองค์ มาปรากฏตัวอยู่ในสถานที่แห่งเดียวกันพร้อมๆกันรวมหลายหมื่นคน อย่างเป็นทางการซะด้วย แถมถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ให้ปรากฏต่อสายตาประชาชนที่ในปัจจุบันย่อมรับชมได้จากทั่วโลกอีกด้วย การแสดงออกในงานนี้คงสวนทางกับบทเพลง “I Will Follow Him” ที่ร้องโดย Little Peggy March อย่างแน่นอน งั้นก็ต้องรีบๆประกาศงดไปเลย นี่ต่างหากที่ผมว่า มันคือเหตุผลที่แท้จริง ไม่ใช่เหตุผลง่อยๆอย่างที่บอกมาอย่างเงียบๆครับ งานนี้เขาจะคิดเองหรือใครช่วยคิดให้ ไม่รู้ แต่มันเป็นการตัดโอกาสทางกิจกรรมกีฬาของหลายคนไปแล้ว ก็ไหนว่าอยากให้พวกเขาแสดงออกในสถานที่ที่ไม่เกะกะใคร อย่างเช่น ในสนามกีฬา จะได้ไม่ต้องลงถนนไงครับ