xs
xsm
sm
md
lg

ยิงสด "โตเกียวเกมส์ 2020" ครบทุกช่องทาง ร่วมเชียร์นักกีฬาไทยล่าเหรียญโอลิมปิก

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



"กสทช" จับมือพันธมิตรภาคเอกชน ประกาศความพร้อม ถ่ายทอดสดศึก “โตเกียวเกมส์ 2020” ครบทุกช่องทางมากที่สุดในประวัติการณ์ พร้อมชวนคนไทยทั่วประเทศ “วิ่ง 1 ล้านกิโลเมตร 1 ล้านบาท” เพื่อมอบเป็นกำลังใจถึงทัพนักกีฬาทีมชาติไทย และร่วมสนุกไปกับกิจกรรมสุดพิเศษมากมายตลอดทัวร์นาเมนต์



การกีฬาแห่งประเทศไทย โดยกองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติ ร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการกิจการ กระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) พร้อมพันธมิตรทุกภาคส่วน ประกาศความพร้อมต้อนรับศึกโอลิมปิกและพาราลิมปิก โตเกียว 2020 ที่ขยับมาแข่งขันในปี 2021 จากผลกระทบไวรัสโควิด-19 เตรียมยิงสดทุกช่องทางให้แฟนกีฬารับชมอย่างจุใจ พร้อมจัดกิจกรรมพิเศษเต็มอิ่ม ชวนคนไทยทั่วประเทศแสดงพลังเชียร์นักกีฬาไทย วิ่งผลัดธง ชาติไทย ทั่วประเทศและร่วมวิ่งสะสมระยะ 1 ล้านกิโลเมตร 1 ล้านบาท มอบเป็นกำลังใจถึงทัพนักกีฬาทีมชาติไทยในการเตรียมตัว เพื่อสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศในโอลิมปิกและพาราลิมปิกเกมส์โตเกียว 2020 โดยการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกจัดขึ้น ระหว่างวันที่ 23 กรกฎาคม ถึง 8 สิงหาคม พ.ศ 2564 และการแข่งขันกีฬาพาราลิมปิก จัดขึ้นระหว่างวันที่ 24 สิงหาคม ถึง 5 กันยายน พ.ศ 2564


ล่าสุดเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ 2563 กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยการกีฬาแห่งประเทศไทย ร่วมกับ คณะกรรมการกิจการ กระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.), กรรมการคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซี), คณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์, คณะกรรมการกีฬาพาราลิมปิก แห่งประเทศไทย , บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด และพันธมิตรภาคเอกชน ร่วมแถลงข่าว ประกาศความพร้อมการถ่ายทอดสด “การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกและพาราลิมปิก โตเกียว 2020” ภายใต้คอนเซ็ปต์ “THAI TEAM ชนะใจคนไทย” ซึ่งจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 23 ก.ค.64 ถึง 8 ส.ค.64 ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า มหกรรมกีฬาโอลิมปิก และพาราลิมปิกเกมส์ 2020 ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ที่ถูกเลื่อนเนื่องจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้กำหนดวันแข่งขันอย่างเป็นทางการมาแล้ว โดยคณะกรรมการโอลิมปิกสากล ยืนยันแล้วว่าจะ มีพิธีเปิดในวันที่ 23 ก.ค.64 และพิธีปิดการแข่งขันวันที่ 8 ส.ค.64 โดยคณะกรรมการจัดการแข่งขันเตรียมความพร้อมจัดการแข่งขันไว้ทุกสถานการณ์ ซึ่งประเทศไทยเองก็พร้อมแล้วเช่นกันที่จะสนับสนุนนักกีฬาไทยในการเดินทางไปแข่งขันและสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศในครั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็น การเตรียมความพร้อม ทั้งสภาพร่างกายและจิตใจของนักกีฬา แผนดูแลความปลอดภัยด้านสาธารณสุขให้กับนักกีฬาในการเดินทางไปแข่งขันต่างแดน การถ่ายทอดสดการแข่งขัน การจัดกิจกรรมพิเศษ ตลอดจนการสนับสนุนต่างๆ จากภาครัฐบาลและเอกชน ขณะที่กองเชียร์ชาวไทยก็สามารถร่วมส่งพลังใจเชียร์ทัพนักกีฬาไทยได้ด้วยการ ติดแฮชแท็ก #THAITEAM บนโซเชียลมีเดีย เพื่อแสดงพลังให้นักกีฬาได้รับรู้ว่าทุกคนคือฮีโร่ไม่ว่าจะชนะหรือแพ้การแข่งขัน แต่ด้วยความมุ่งมั่นฝึกซ้อมอย่างไม่หยุดยั้ง นักกีฬาเหล่านี้ก็ได้ชนะใจคนไทยทั้งประเทศแล้ว

คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล กรรมการคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซีเมมเบอร์) กล่าวว่า ทุกภาคส่วนในประเทศญี่ปุ่นยืนยันว่าการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ “โตเกียว 2020” ต้องเกิดขึ้นแน่นอน ประเทศญี่ปุ่นกำลังเดินหน้าอย่างสุดกำลังกับหลายหลากนวัตกรรมและมาตรการการป้องกันไวรัสโควิด-19 เพื่อให้ทุกคนทั่วโลกที่จะมาร่วมในมหกรรมกีฬาครั้งยิ่งใหญ่ในปีหน้านี้ปลอดภัยที่สุด โดย โธมัส บาค ประธานไอโอซี มีความมั่นใจเป็นอย่างมาก เพราะไอโอซีทำงานหนักร่วมกับประเทศเจ้าภาพมาโดยตลอด ขอให้มั่นใจว่าการแข่งขันจะประสบความสำเร็จ ขณะนี้เจ้าภาพกำลังพัฒนา "เครื่องมือในการรับมือกับโควิด" ที่จะทำให้ทุกคนร่วมการแข่งขันอย่างปลอดภัยมากที่สุด “กล่องเครื่องมือ” จะบรรจุเครื่องมือต่างๆ อาทิ สำหรับเรื่องการตรวจคนเข้าเมือง การกักตัว การตรวจหาเชื้อไวรัส COVID-19 ที่มีประสิทธิภาพสูงและรวดเร็วขึ้น วัคซีน การเว้นระยะทางสังคม เพื่อให้การจัดงานมีความปลอดภัยมากที่สุดทั้งสำหรับนักกีฬา เจ้าหน้าที่ ผู้ชม และทุกคนที่มีส่วนร่วมในการแข่งขัน ที่สำคัญการแข่งขันครั้งนี้ยังมีความพิเศษและความน่าสนใจหลายประการ ประเทศญี่ปุ่นเตรียมพร้อมที่จะโชว์นวัตกรรมด้านต่าง ๆ ให้ชาวโลกได้รับรู้ผ่านการเป็นเจ้าภาพมากมาย เช่น สนามแข่งขันที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เครื่องนอนในหมู่บ้านนักกีฬาที่ย่อยสลายได้ แสงสว่างในสนามจากพลังงานสะอาด 100 เปอร์เซ็นต์ เหรียญรางวัลที่ทำจากขยะอิเล็คทรอนิค 100 เปอร์เซ็นต์ โพเดี้ยมมอบรางวัลสร้างจากขยะพลาสติก ชุดนักวิ่งและคบเพลิงที่ทำจากขวดพลาสติก เทคโนโลยียานพาหนะเพื่อโอลิมปิกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เป็นต้น จะมีกีฬาคาราเต้, กีฬาสเกตบอร์ด, กีฬาโต้คลื่น และกีฬาปีนผา ถูกบรรจุเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์การแข่งขันโอลิมปิก การแข่งขัน baseball และ softball ที่เคยถูกยกเลิกที่ Beijing 2008 ได้ถูกนำกลับมาแข่งขันในครั้งนี้


ผศ.ดร. ภักดี มะนะเวศ รองเลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการ โทรคมนาคมแห่งชาติรักษาการเลขาธิการ (กสทช.) กล่าวว่า คณะรัฐบาลและกสทช. มุ่งมั่นที่จะให้คนไทย ได้ดู ได้เชียร์ และได้ลุ้น นักกีฬาไทยที่กำลังแข่งขันในศึกโอลิมปิกเกมส์อย่างเต็มอิ่มและทันท่วงที จึงได้ร่วมสนับสนุนการถ่ายทอดสดการแข่งขันมาให้แฟนกีฬาไทยได้ดูอย่างจุใจทางโทรทัศน์ภาคพื้นดิน ฟรีทีวี และการรายงานข่าวครบทุกสถานี โดยจะถ่ายทอดสดทางฟรีทีวี 6 ช่อง ประกอบด้วยช่อง 1) NBT ช่อง 2 2) ThaiPBS ช่อง 3 ) NEW18 ช่อง18 4) ทรูโฟร์ยู ช่อง24 5)ช่อง GMMTV ช่อง25 และ 6)ช่อง PPTV HD ช่อง 36 โดยร่วมมือกับการกีฬาแห่งประเทศไทย ถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ดาวเทียม T-Sport24s รวมถึงถ่ายทอดสดผ่านทาง Mobile Application ที่ AIS PLAY และ AIS PLAY BOX ครบทุกชนิดกีฬาอีก 12 ช่องรายการ คมชัดระดับ HD ตลอดทั้งวัน และยังสามารถรับชมถ่ายทอดสดพิธีเปิดและพิธีปิดการแข่งขัน เชื่อว่าแฟนกีฬาชาวไทยจะได้รับ ความสุข ความสนุก และร่วมลุ้นนักกีฬาไทย อย่างเต็มอิ่มแน่นอน นอกจากนี้การกีฬาแห่งประเทศไทย ยัง ได้ถ่ายทอดสดกีฬาพาราลิมปิก โตเกียว 2020 เพื่อให้คนไทยได้ชมและเชียร์อีกด้วย

ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ถึงวันนี้มีนักกีฬาไทยผ่านการ คัดเลือกเข้าแข่งขันในศึกโอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 32 รวมแล้ว 6 รายการกีฬาแข่งขัน จาก18 นักกีฬาตัวแทนชาติไทย โดยการกีฬาแห่งประเทศไทย นอกจากจะดูแลและเตรียมความพร้อมนักกีฬาอย่างเต็มที่ก่อนลงแข่งขันแล้ว ยังได้จับมือกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน จัดแคมเปญพิเศษ “THAI TEAM ชนะใจคนไทย” เพื่อให้คนไทย ได้ร่วมส่งพลังใจเชียร์ทัพนักกีฬาไทยสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไม่ว่าจะเป็น การจัดนิทรรศการและถ่ายถอดสดพิธีเปิดอย่างยิ่งใหญ่ผ่าน Olympic Live Experience ครั้งแรกในโลกผ่านทางจอดิจิทัลนอกบ้าน ทั่วประเทศกว่า 500 จอ ในวันที่ 23-25 ก.ค. 64 เพื่อให้ได้สัมผัสบรรยากาศของการแข่งขันผ่านนิทรรศการและการจำลองเกมส์กีฬา พร้อมเชิญตำนานฮีโร่ไทยมาร่วมเสวนาสร้างความสนุกสนานและสร้างแรงบันดาลใจแก่เด็กและเยาวชน, กิจกรรมวิ่งผลัดธงชาติไทย (National Flag Run) เพื่อนำธงไทยผ่านมือคนไทยทั่วประเทศไปโบกสะบัด ณ สนามโอลิมปิก โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น พร้อมทั้งเปิดช่องทางการวิ่งธงชาติไทยแบบ Flag Of Nation: Virtual Run ชวนคนไทยทั่วประเทศร่วมวิ่งเพื่อสะสมระยะทางร่วมกัน 1 ล้านกิโลเมตร ที่ทุก 1 กิโลเมตร พันธมิตรจะร่วมบริจาค 1 บาท เป้าหมาย 1 ล้านบาท ให้ทัพนักกีฬาไทย และเปิดโอกาสให้ประชาชนที่สนใจ สมัครเข้าร่วมกิจกรรมวิ่งผลัดธงชาติไทย “Flag Of Nation: National Flag Run” ซึ่งเปิดให้ประชาชนทั่วประเทศ ได้มีส่วนร่วมในการวิ่งผลัดธงชาติไทย พร้อมกับเหล่า ศิลปิน ดารา และนักกีฬา ด้วยการร่วมวิ่งคนละ 1 กิโลเมตร เป็นจำนวนรวม 4,606 กิโลเมตร หรือเทียบเท่าระยะทางจากกรุงเทพฯ ถึง โตเกียว ผ่าน 35 จังหวัด ในเวลา 60 วัน เพื่อแสดงพลัง ของประชาชนชาวไทย ส่งต่อกำลังใจถึงนักกีฬาทีมชาติไทยที่กำลังแข่งขัน ตลอดจนกิจกรรม Olympics Experience Roadshow 5 ภาค และกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย


สำหรับ นักกีฬาไทยที่ได้สิทธิ์เข้าแข่งขันในศึกโอลิมปิกเกมส์ครั้งที่ 32 แล้ว อย่างเป็นทางการ 18 คน ประกอบด้วย พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ (เทควันโด), เศวต เศรษฐาภรณ์ (ยิงเป้าบิน), กมลวรรณ จันทร์ยิ้ม (เรือใบ), ศิริพร แก้วดวงงาม (วินด์เซิร์ฟ), จุฑาธิป มณีพันธุ์ (จักรยาน), อิสรานุอุดม ภูริหิรัญพัชร์ (ยิงปืน), ณภัสวรรณ หย่างไพบูลย์ (ยิงปืน), ธันยพร พฤกษากร (ยิงปืน), สุธิยา จิวเฉลิมมิตร (ยิงเป้าบิน), อิศราภา อิ่มประเสริฐสุข (ยิงเป้าบิน), อาริย์ณัฎฐา ชวตานนท์ - กรธวัชสำราญ - วีรภัฎ ปิฏกานนท์ - ศุภณัฐ วรรณกุล (ขี่ม้า), ธิติสรรค์ ปั้นโหมด (มวยสากล) สุดาพร สีสอนดี (มวยสากล), ใบสน มณีก้อน (มวยสากล) และ ฉัตร์ชัยเดชา บุตรดี (มวยสากล)






กำลังโหลดความคิดเห็น