“โรล็อง การโร้ส” แบบที่คุณต้องรู้ไว้บ้าง / กษิติ กมลนาวิน ราชวังสัน

คอลัมน์ EYE ON SPORTS โดย กษิติ กมลนาวิน ราชวังสัน

โรล็อง การโร้ส (Roland-Garros) การแข่งขันเท็นนิสบนขอร์ทดินของ ฝรั่งเศส ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกและถูกนับเป็น 1 ใน 4 รายการระดับ แกรนด์ สแลม (Grand Slam) ที่เริ่มมาตั้งแต่ปี 1891 ถึงตอนนี้เข้าสู่ปีที่ 129 แล้ว ซึ่งปกติจะจัดกันในเดือนพฤษภาคม แต่จากการแพร่ระบาดของ โคโรนาวายรัส (COVID -19) ทำให้ต้องเลื่อนแล้วเลื่อนอีก จนในที่สุดก็มาจัดขึ้นระหว่างวันที่ 27 กันยายน - 11 ตุลาคมนี้

ความจริงมันก็คือ เท็นนิส เฟร้นช์ โอเพิ่น (French Open) ซึ่งเรียกอย่างเป็นทางการภาษาฝรั่งเศสว่า แองแตรนาซิอ็อนโน เดอะ ฟร้องส์ เดอะ เต็นนิส (Internationaux de France de tennis) และเนื่องจากทำการแข่งขันในสนาม โรล็อง การโร้ส (Stade Roland Garros) ที่มีบริเวณกว้างใหญ่ถึง 85,000 ตารางเมตร และตั้งชื่อเป็นเกียรติแก่นักบินขับไล่เรืองนามของ ฝรั่งเศส ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 แฟนกีฬาเจ้าถิ่นจึงนิยมเรียกการแข่งขันรายการนี้ว่า โรล็อง การโร้ส

หลังจากที่มนุษย์เราเริ่มตระหนักถึงเรื่องการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดอ๊อกไซด์ที่เป็นตัวขับเคลื่อนหลักของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลกที่คุกคามผู้คนและระบบนิเวศทั่วโลก ผมมีตัวเลขมาให้ทราบว่า กีฬาชนิดต่างๆทำร้ายโลกของเราขนาดไหน โดยข้อมูลที่ได้จาก เลอ ชูรนัล ดู ดีม้องช์ (Le Journal du Dimanche) หนังสือพิมพ์ขนาดแท้บลอยด์ของ ฝรั่งเศส บอกว่า การแข่งขันแรลลี่ ดาการ (Dakar Rally) ปล่อยก๊าซคอร์บอนไดอ๊อกไซด์ประมาณ 42,000 ตัน

การแข่งขันรถสูตรหนึ่ง (Formula One) รายการ เบ็ลเจี้ยน กร็องปรี (Belgian Grand Prix) ที่ สนามสปา-ฟร็องกอรช็อง (Circuit de Spa-Francorchamps) ประเทศเบ็ลเจี้ยม ปล่อยก๊าซ 24,000 ตัน การแข่งขันรักบี้ชิงแช้มพ์โลก ปล่อย 570,000 ตัน กีฬายอดนิยม ฟุตบอลโลก นั้น ทะลุไปถึง 2,700,000 ตัน ส่วน โรล็อง การโร้ส ตัวเลขอยู่ที่เพียง 156,000 ตัน เท่านั้น

เราอาจสงสัยว่า คาร์บอนไดอ๊อกไซด์ออกมากจากเครื่องยนต์กลไกหรือไร ทำไมแต่ละชนิดกีฬาจึงมีตัวเลขแปลกๆผิดจากความน่าจะเป็น อันนี้ เขาอธิบายว่าสาเหตุหลักนั้น คาร์บอนไดอ๊อกไซด์ เกิดจากการเคลื่อนย้าย เดินทางของผู้ชมครับ ซึ่งทาง สหพันธ์เท็นนิสฝรั่งเศส ก็กำลังหามาตรการปรับปรุงให้การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดอ๊อกไซด์ลดลงอีก เพื่อให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมยิ่งขึ้น

การปรับตัวในสภาวะโรคระบาด โคโรนาวายรัส ทำให้การแข่งขันหนนี้ นอกจากจะยกเลิกการแข่งขันประเภทคู่ผสมและคู่ตำนานไปแล้ว ทางผู้จัดก็ยินยอมให้มีผู้ชมในสนามไม่เกิน 1,000 คนต่อวันเท่านั้น กระนั้นก็ยังมีนักเท็นนิสทั้งหญิง-ชายขอถอนตัวกันไปไม่น้อย

สำหรับเงินรางวัลปีนี้ก็ยังคงยอดรวมอยู่ที่ 42,661,000 เออโร เช่นเดียวกับปีที่แล้ว ซึ่งหญิงและชายจะได้รับเท่ากัน โดยผู้ที่ได้ผ่านเข้าสู่รอบเมนดรอว์ รอบแรก ได้รับ 46,000 เออโร รอบสอง 87,000 เออโร รอบสาม 143,000 เออโร รอบ 16 คน 243,000 เออโร รอบ 8 คน 415,000 เออโร รอบรองชนะเลิศ 590,000 เออโร รองแช้มพ์ 1,180,000 เออโร และแช้มพ์รับเงินก้อนใหญ่ 2,300,000 เออโร หรือประมาณ 83,582,000 บาท นี่ยังไม่รวมกับเงินค่าจ้างให้ไปปรากฏตัวที่ทางผู้จัดการแข่งขันต้องจ้างให้เข้าร่วมการแข่งขันที่เรียกว่า Appearance Fee อีกไม่รู้เท่าไรนะครับ จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับความดังของนักหวดแต่ละราย

ส่วนคะแนนสะสมนั้น เนื่องจากเป็นรายการระดับ แกรนด์ สแลม จึงมีคะแนนสูงที่สุด มากกว่ารายการระดับอื่นๆ โดยนักเท็นนิสที่ได้เข้าสู่รอบเมนดรอว์ รอบแรก เก็บไป 10 คะแนน รอบสอง 45 คะแนน รอบสาม 90 คะแนน รอบ 16 คน 180 คะแนน รอบ 8 คน 360 คะแนน รอบรองชนะเลิศ 720 คะแนน รองแช้มพ์ 1,200 คะแนน และแช้มพ์รับ 2,000 คะแนนเต็มๆครับ

แฟนๆเท็นนิสที่สนใจไปชมที่สนามก็ต้องรับทราบว่า ทางผู้จัดการแข่งขันออกประกาศเตือนให้เผื่อเวลาเดินทางเยอะๆ เพราะจะต้องเสียเวลาตรวจตราก่อนเข้าสนามนานแน่นอน ทั้งมาตรการความปลอดภัยและป้องกัน โคโรนาวายรัส อีก พวกสัมภาระไม่จำเป็น โดยเฉพาะกระเป๋าที่มีความจุเกิน 15 ลิตรก็ไม่อนุญาตให้นำเข้าไป ไม่เช่นนั้นต้องโดนบังคับฝากไว้ด้านนอก คำแนะนำของเจ้าหน้าที่เรื่องความปลอดภัยเป็นเรื่องเด็ดขาด อย่าร้อนวิชาหรือหาเรื่องครับ และเขาขอให้ช่วยกันแจ้งเตือนเมื่อพบเห็นพฤติกรรมที่น่าสงสัยหรือกระเป๋าถูกทิ้งไว้โดยไม่มีเจ้าของ อีกเรื่องที่เขาขอเตือนเลยคือ สุนัขตรวจระเบิด ใครเห็นแล้วเกิดเอ็นดูก็อย่าไปแตะต้องเขานะครับ งับมือขาดเลย