ชื่อของ จอห์น เดลี นักกอล์ฟรุ่นเก๋าจากแคลิฟอร์เนีย อาจไม่คุ้นหูสำหรับแฟนกอล์ฟรุ่นใหม่ แต่หากย้อนหลังกลับไปยุค 90 นี่คือก้านเหล็กที่เปี่ยมไปด้วยฝีมือและคาแร็กเตอร์ที่ไม่เหมือนใคร มีดีกรีเป็นแชมป์เมเจอร์ 2 รายการ โดยปัจจุบันยังคงลงสนามแข่งขันอยู่ แต่อีกสิ่งหนึ่งที่เขาต้องต่อสู้ควบคู่ไปด้วยคือการใช้ชีวิตที่มีมะเร็งอยู่ในตัว
สมัยเป็นนักกอล์ฟบนสังเวียน พีจีเอ ทัวร์ จอห์น เดลี ได้ชื่อว่าเป็นผู้เล่นอารมณ์ศิลปิน คาดเดายาก เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย ช่วงเวลาแห่งความสำเร็จได้แชมป์เมเจอร์ พีจีเอ แชมเปียนชิพ ปี 1991 กับ ดิโอเพน ปี 1995 ทว่าแทนที่จะรักษาโมเมนตัมเพื่อต่อยอด กลับเดินเข้าสู่วงจรอบายมุข ดื่มเหล้า สูบบุหรี่จัด ยุ่งเกี่ยวการพนัน ไร้วินัยจนส่งผลกระทบต่อผลงานในสนามจนแข่งไม่จบหลายครั้ง โดยเฉพาะศึก ออสเตรเลียน โอเพน ปี 2008 ไปคุกคามช่างภาพในสนามจนถูกแบนใน พีจีเอ ทัวร์
ตัดภาพมาปัจจุบัน จอห์น เดลี วัย 54 ปี ยังอยู่ในวงการสวิง ลงแข่งขันรายการระดับ ทัวร์ แชมเปียนส์ และทัวร์อาวุโสรายการต่างๆ ชีวิตดูจะไม่มีปัญหาอะไรตามประสานักกอล์ฟรุ่นใหญ่ ออกรอบหาเงินรางวัลเล็กน้อยเข้ากระเป๋า ถ้าไม่เจอข่าวร้ายว่าเจ้าตัวกำลังป่วยเป็นมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ จนต้องเข้ารับการผ่าตัด ซึ่งนั่นทำให้ต้องตัดสินใจถอนตัวจากรายการแข่งขัน ชาร์ลส ชวาร์บ ซีรีส์ ที่มิสซูรี เมื่อเดือนสิงหาคม ที่ผ่านมา
หลังการผ่าตัดประสบความสำเร็จด้วยดี เดลี ที่ตอนแรกคิดว่าตัวเองเป็นแค่นิ่วในไตเฉยๆ ก่อนรู้ว่าเป็นมะเร็งแบบไม่คาดคิด ถือโอกาสออกมาขอบคุณทุกคนที่คอยส่งกำลังใจให้ผ่านช่องทางต่างๆ “ผมยังรู้สึกช็อกอยู่เลยกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่สิ่งที่ผมต้องทำก็คือพยายามเอาชนะมันให้ได้ ชีวิตของผมถูกเล่นงานมาแล้วบ่อยครั้งแต่นี่ก็ยังไม่ใช่เวลาที่ผมจะหยุดต่อสู้”
“ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบทางเดินปัสสาวะบอกว่าผมไม่ได้เป็นนิ่วในไต แต่เป็นมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ ที่น่าขำก็คือหลังจากเข้ารับการสแกน ผมเอื้อมมือไปหยิบโค้กมาดื่มแต่หมอรีบสั่งเลยว่าอย่าเด็ดขาด เราต้องรักษาคุณและกำจัดมะเร็งให้หมดไปจากตัว”
อย่างไรก็ตาม ในความโชคดีก็ยังมีความโชคร้าย เมื่อแพทย์ที่ลงมือผ่าตัดรักษาชีวิตให้เขา บอกว่านี่คือมะเร็งที่ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ “หมอบอกผมว่ามีโอกาสถึง 85% ที่มันจะกลับมา แล้วผมมีนัดต้องกลับมาพบหมอในอีก 3 เดือนข้างหน้าเพื่อผ่าตัดอีกครั้ง เพราะมะเร็งมันอาจกลับมาอีกใน 3 เดือนโดยที่คุณไม่รู้ตัว โชคดีที่พวกเขาตรวจเจอก่อนจะสายไป”
แน่นอนว่ามีคำถามตามมาถึงสาเหตุว่าทำไมแชมป์เมเจอร์ 2 สมัย ถึงเป็นโรคมะเร็ง ปัจจุบันการเป็นมะเร็งนั้นมีปัจจัยหลายอย่างแต่สิ่งที่ เดลี เชื่อมั่นว่าเป็นตัวการคือพฤติกรรมการดื่มและสูบบุหรี่ที่เกินขอบเขตคนอายุเกิน 50 ปีทำกัน รวมถึงสารตกค้างต่างๆ ที่สะสมมาตั้งแต่เป็นวัยรุ่น เช่นดื่มโค้กไดเอ็ท วันละ 28 กระป๋อง รวมถึงสูบบุหรี่ 40 มวนต่อวัน ทำเอา เดลี ถึงกับบ่นถอนหายใจเมื่อคิดถึงเรื่องในวันวานว่า “ปาฏิหารย์เท่านั้นที่จะทำให้ผมหายเป็นปกติ”
อันที่จริง เดลี มีอาการป่วยเป็นระยะตั้งแต่ปี 2015 เป็นต้นมา โดยระหว่างแข่งขัน แชมเปียนส์ ทัวร์ ปีดังกล่าว นักกอล์ฟชาวอเมริกัน อยู่ๆก็ทรุดตัวลงกับพื้นจนแข่งต่อไม่ไหว ก่อนจะยื่นเรื่องกับทาง ยูเอส พีจีเอ เพื่อขอให้รถเข็นขณะแข่งขันเป็นกรณีพิเศษ เนื่องจากอาการเจ็บหัวเข่าทำให้เดินเหิรไปหลุมต่างๆ ไม่สะดวก แต่ปัจจุบันก็กลับมาเดินได้ตามปกติแค่ไม่ว่องไวเท่าเดิมตามประสาคนอายุมากขึ้น
ปกติแล้วคนที่ป่วยเป็นมะเร็งและยังรักษาไม่หายขาด มักตกอยู่ในภาวะซึมเศร้า ไร้พลังจะดำเนินชีวิตต่อไป แต่นั่นไม่ใช่กับคนอย่าง "ลอง จอห์น" ที่ถึงยอมรับจะปรับปรุงพฤติกรรมการกินดื่ม แต่ก็ขอใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ให้เต็มที่แบบไม่มีอะไรให้ต้องเสียดาย เพราะอย่างไรเสียคนเราเกิดมาก็ต้องตายอยู่แล้วไม่ว่าช้าหรือเร็ว
“รู้อะไรไหม ผมบอกทุกคนเสมอว่าผมเคยผ่านชีวิตที่อยู่ในขุมนรกมาแล้ว ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นบอกเลยว่าความตายไม่ใช่สิ่งที่ผมหวาดกลัวเลยสักนิด มันคงเป็นเรื่องดีถ้าหากผมจะลงแข่งขันด้วยสุขภาพที่ดีขึ้นกว่า 7-8 ปีที่ผ่านมา หรือตลอดชีวิตการเล่นของผม แต่สิ่งที่จะบอกก็คือเฮ้ย ผมยังมีชีวิตอยู่ และยังอยากทำอะไรอีกตั้งมากมาย ผมยอมรับความท้าทายนี้และไม่เคยหวาดกลัวต่อมัน” เดลี กล่าวทิ้งท้ายตามสไตล์