xs
xsm
sm
md
lg

“เน็ตส์” ตามรอย “เบิร์ด โมเดล” วัดฝีมือ “สตีฟ แนช” โค้ชรุกกี้ / MVP

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



คอลัมน์ Buzzer Beat โดย MVP

ขอย้อนความไกลเล็กน้อย สำหรับสัปดาห์นี้ เชื่อว่าแฟนบาสเกตบอล เอ็นบีเอ (NBA) หลายท่าน น่าจะยังพอนึกออกว่า บรูกลิน เน็ตส์ ที่ถูกเขี่ยตกรอบแรก เพลย์ออฟ เพิ่งแต่งตั้ง สตีฟ แนช การ์ดจ่ายระดับตำนาน รับตำแหน่งเฮดโค้ช ช่วงต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา จริงๆ อยากให้ฤดูกาล 2019-20 จบลงเสียตอนนี้เลย เพราะอยากเห็นฝีไม้ลายมือของสุดยอดผู้เล่นคนหนึ่ง ที่ผันตัวมาคุมทีมว่า จะเป็นอย่างไร

ข่าวคราวราว 2 สัปดาห์ก่อน ถือว่าน่าประหลาดใจอย่างยิ่ง ตามกระแสข่าวลือเกี่ยวกับเฮดโค้ชคนใหม่ เน็ตส์ จะเป็น เกร็กก์ โพโพวิช แห่ง ซาน อันโตนิโอ สเปอร์ส, ไทรอนน์ ลู ผู้ช่วย แอลเอ คลิปเปอร์ส หรือดัน ฌัคส์ วอจ์น ทำหน้าที่แบบถาวร บ้างล่ะ สุดท้ายกลับพลิกโผกลายเป็น สตีฟ แนช เสียอย่างนั้น ราวกับล็อตเตอรีออกรางวัลที่ 1 เลข 999997

เปรียบดั่งวงการฟุตบอล (Soccer) บางสโมสรหันมาใช้งานโค้ชวัยหนุ่ม แล้วประสบความสำเร็จ อาทิ เป๊ป กวาร์ดิโอลา กับ ซีเนอดีน ซีดาน กวาดแชมป์มากมาย, มิเกล อาร์เตตา เริ่มคุม อาร์เซนอล ด้วยแชมป์ เอฟเอ คัพ กับ คอมมูนิตี ชิลด์, แฟรงค์ แลมพาร์ด พา เชลซี ติดพื้นที่ ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก ทั้งๆ ไม่ได้ซื้อผู้เล่นเพิ่ม และล่าสุด ยูเวนตุส ช็อกแฟนๆ แต่งตั้ง อันเดรีย ปิร์โล ที่ไม่เคยมีประสบการณ์กุนซือ คุมทีมชุดใหญ่

หันมามองNBA แลร์รี เบิร์ด ก้าวออกจากบทบาท ฟรอนท์ ออฟฟิศ บอสตัน เซลติกส์ ตอบรับคุม อินเดียนา เพเซอร์ส ปี 1997 คว้ารางวัล โค้ช ออฟ เดอะ เยียร์ 1998 และเข้ารอบชิงชนะเลิศ ปี 2000 โดยไม่มีประสบการณ์ หรือวันที่ สตีฟ เคอร์ เข้ามาสานต่องานของ มาร์ค แจ็คสัน ช่วง 2 ซีซันแรก คงไม่มีใครคาดคิดว่า โกลเดน สเตท วอร์ริเออร์ส จะกลายเป็นทีมที่ไร้เทียมทาน กระทั่งปัจจุบันถึงเวลาที่ แนช ต้องพิสูจน์ฝีมือบ้าง

ฝ่ายสตาฟฟ์โค้ชของ เน็ตส์ รวมตัวกันตามสูตรที่อาจเรียกได้ว่า “แลร์รี เบิร์ด หรือ เพเซอร์ส โมเดล” แรกเริ่ม แนช ทำงานอยู่เบื้องหลัง ก้าวสู่เบื้องหน้าโดยไร้ประสบการณ์ จึงจัดตั้ง วอจ์น เฮดโค้ชขัดตาทัพ กับ อดัม แฮร์ริง ตัน ทำหน้าที่ผู้ช่วย เหมือนกับสมัย เบิร์ด คุม เพเซอร์ส ก็มี ริค คาร์ไลส์ อัจฉริยะเกมบุก กับ ดิค ฮาร์เตอร์ ทำหน้าที่กำกับเกมรับ

แฮร์ริงตัน คือ ผู้ชักนำให้ แนช กับ เควิน ดูแรนท์ รู้จักกันเมื่อ 8 ปีที่แล้ว เคยร่วมงาน แนช ที่ดัลลัส และรับหน้าที่ Shooting Coach ของ ดูแรนท์ คว้ารางวัลผู้เล่นทรงคุณค่า (MVP) ฤดูกาล 2013-14 ถือว่าสัมพันธไมติ๊ดแน่นแฟ้นกับทั้ง 2 ฝ่าย ขณะที่ วอจ์น ถือว่าฝีมือไม่เลว ในบทบาทโค้ชรักษาการณ์ เข็น บรูกลิน ที่มีปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บ และติดไวรัสโคโรนา รักษาพื้นที่เพลย์ออฟ และเกือบเขี่ย ปอร์ตแลนด์ เทรล เบลเซอร์ส หลุดท็อป 8 สายตะวันตก

บรูกลิน ภายใต้การคุมทีมของ แนช ใกล้เคียงกับ เจสัน คิดด์ ชุดปี 2013 นำโดย เควิน การ์เน็ตต์ กับ พอล เพียร์ซ 2 ฟอร์เวิร์ดจอมเก๋า เพียงแต่ความคาดหวังของแฟนๆ สูงกว่า เนื่องจากขุมกำลังวัยหนุ่ม รายล้อมดูโอซูเปอร์สตาร์อย่าง เควิน ดูแรนท์ ฟอร์เวิร์ด กับ ไครี เออร์วิง การ์ดจ่าย แกร่งกว่ายุค 7 ปีก่อน อาทิ คาริส เลเวิร์ต, โจ แฮร์ริส, จาร์เร็ตต์ อัลเลน และ สเปนเซอร์ ดินวิดดี

สถิติซีซันนี้ ระบุ เน็ตส์ เป็นทีมที่เล่นรวดเร็ว รั้งอันดับ 7 ของลีก ด้านเปอร์เซ็นต์ชู้ตก่อนหมด shot clock ราว 15-18 วินาที บวกกับ แนช ช่วงพีกสุดขีด จัดว่าเป็นแกนหลักของสูตร Run & Gun ของ ไมค์ ดี'แอนโทนี สมัยคุม ฟีนิกซ์ ซันส์ เปลี่ยนจากรับเป็นรุกรวดเร็ว, ถือบอลปั้นเกมแบบไม่เห็นแก่ตัว และลูกยิง 3 แต้มอันแม่นยำ คาดว่า อาจเห็นเกมรุก เน็ตส์ แบบสายฟ้าแล่บ และการถ่ายบอลที่ไหลลิ่น แค่นึกภาพก็ชักตื่นเต้นกับโค้ชรุกกีคนนี้เสียแล้ว กังวลเพียงอย่างเดียวแค่ สภาพร่างกายของ “เคดี” กับ เออร์วิง นี่แหละ
กำลังโหลดความคิดเห็น