ผอ.ร.ร.พันท้ายนรสิงห์ แจงดรามา “ยึดรถรับส่ง-นักเรียนนอนวัด”

จากกรณีที่มีการเปิดเผยในโลกออนไลน์ว่า นักเรียนโครงการฟุตบอลสู่ความเป็นเลิศโรงเรียนพันท้ายนรสิงห์วิทยา จังหวัดสมุทรสาคร จำนวนประมาณ 200 คน ไม่มีรถไปโรงเรียน เนื่องจากผู้อำนวยการโรงเรียนมีคำสั่งยึดรถโดยสารที่ใช้รับ-ส่งนักเรียนไปโรงเรียนคืน อีกทั้งด้วยสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ทางจังหวัดให้นักเรียนอาศัยอยู่ในโรงเรียนได้ไม่เกิน 40 คน ทำให้นักเรียนจากต่างภูมิลำเนาต้องไปอาศัยอยู่ที่วัดเป็นการชั่วคราว ส่งผลให้เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 3 กันยายน 2563 กลุ่มนักเรียน และผู้ปกครองมีการประท้วงถือป้ายตำหนิการทำหน้าที่ของผู้อำนวยการ พร้อมให้มีการย้ายออกจากพื้นที่นั้น

นางกรองแก้ว พูลเพิ่มพันธ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนพันท้ายนรสิงห์วิทยา ได้ชี้แจงว่า ในเรื่องนี้ตนเองทำตามหน้าที่และระเบียบของทางราชการทุกอย่าง ส่วนที่ต้องให้นักเรียนออกไปพักอาศัยอยู่ข้างนอกสถานศึกษาก็เพราะเป็นไปตามมาตรการป้องกันโควิด-19 ในช่วงที่มีการแพร่ระบาด ซึ่งทุกฝ่ายก็รับทราบและยินยอมในข้อตกลงร่วมกัน

ต่อมาทางสถานศึกษาได้ปรับปรุงเรื่องที่พักอาศัยในโรงเรียนและให้นักเรียนเข้าพักได้ 40 คน แต่ไม่สามารถรับเด็กกลับเข้ามาได้ทั้งหมด เพราะโรงเรียนพันท้ายนรสิงห์ฯ เป็นเพียงโรงเรียนปกติ ไม่ใช่โรงเรียนกีฬาจึงไม่สามารถนำนักเรียนเข้ามาอยู่ได้ ซึ่งก็ได้มีการพูดคุยกับทางผู้บริหารอะคาเดมีแล้ว และทางผู้บริหารก็พร้อมที่จะสร้างที่พักสำหรับนักกีฬาเหล่านี้

ส่วนเรื่องของรถบัสนั้น ตนเองไม่ได้กลั่นแกล้งใคร แต่เพราะตนเพิ่งมาตรวจพบว่ารถบัสคันนี้ พ.ร.บ.ขาดมาเป็นเวลานานแล้ว อีกทั้งสภาพก็เก่าไม่พร้อมที่จะนำไปใช้งาน หากเกิดอุบัติเหตุกับนักเรียนแล้วใครจะรับผิดชอบ ตนก็ห่วงความปลอดภัยของนักเรียน จึงได้ขอให้รถบัสหยุดการรับส่งนักเรียนเป็นเวลาชั่วคราวก่อน เพื่อรอให้มีการซ่อมแซมและต่อ พ.ร.บ.ให้ถูกต้อง โดยได้ทำหนังสือชี้แจง และเรียกผู้บริหารอะคาเดมีมารับทราบเพื่อดำเนินการจัดหารถมารับส่งนักเรียนแทน ขอยืนยันว่าที่ทำทุกอย่างนั้นเป็นไปตามระเบียบราชการ และเพื่อความปลอดภัยในชีวิตของนักเรียนทุกคน

ด้านนายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ก็ได้ประชุมร่วมกับโรงเรียนพันท้ายนรสิงห์วิทยา ผู้ปกครองนักเรียน ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสมุทรสาคร อำเภอเมืองสมุทรสาคร สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 10 เพื่อหาทางออกร่วมกัน ซึ่งทางด้านผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครก็ได้สั่งการให้ทางโรงเรียนพันท้ายฯ นำรถไปชำระภาษีให้ครบถ้วน ส่วนเรื่อง พ.ร.บ.ให้ทางอะคาเดมีเป็นผู้ดำเนินการ เพื่อเป็นการแก้ปัญหาในเบื้องต้นก่อนจะได้ไม่กระทบต่อตัวเด็กนักเรียน และในวันที่ 8 กันยายนนี้จะมีการประชุมหาทางออกในเรื่องทั้งหมดอีกครั้ง