อบต.พันท้ายนรสิงห์ สมุทรสาคร เผยผลการตรวจสอบ “หอพักป้าเยี่ยม” ทรุดตัว เกิดจาก “การวิบัติของฐานราก” พบหลังอาคารติดกับแอ่งน้ำ ฐานรากทรุดตัวทันทีทันใด ทำโครงสร้างอาคารด้านหน้าเกิดการดึงรั้ง ก่อนฐานรากส่วนที่เหลือทรุดตัวลงมาทั้งหมด เตรียมนัดถกรื้อถอนจันทร์นี้ พร้อมสั่งห้ามเข้าอาคารเด็ดขาด หลังทรุดตัวเกินมาตรฐาน มากถึง 8 มม.ใน 24 ชั่วโมง
จากกรณีที่ “หอพักป้าเยี่ยม” อาคารเป็นแบบยกเสาลอยสูงจากพื้นดินประมาณ 1 เมตร ความสูง 3 ชั้น จำนวน 30 ห้อง ตั้งอยู่เลขที่ 125/10 หมู่ที่ 2 ต.พันท้ายนรสิงห์ อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร เกิดการทรุดตัวลงมาทำให้ตัวอาคารทั้งหมดเอนเอียงไปทางด้านหลังซึ่งเป็นพื้นที่บ่อน้ำ ผู้พักอาศัยเกือบ 60 รายต้องวิ่งหนีตายเอาชีวิตรอดอย่างจ้าละหวั่น โชคดีที่ไม่มีผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิต แต่ได้รับความเดือดร้อนเนื่องจากไม่สามารถหยิบเอาทรัพย์สินที่มีอยู่ในหอพักออกมาได้ อีกทั้งจักรยานยนต์ที่จอดอยู่หน้าหอพักได้รับความเสียหาย เหตุเกิดเมื่อเวลา 19.08 น. ของวันที่ 19 ส.ค.ที่ผ่านมา
เมื่อวันที่ 21 ส.ค. นายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร พร้อมด้วย น.ส.วันนา แตงมณี รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) พันท้ายนรสิงห์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เปิดเผยผลการตรวจสอบอาคาร พบว่าขณะนี้อาคารทรุดตัวลง เกินกว่ามาตรฐานที่วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมป์ (วสท.) กำหนด ซึ่งค่ามาตรฐานคือในเวลา 24 ชั่วโมง ต้องทรุดตัวไม่เกิน 6 มิลลิเมตร แต่ตอนนี้ค่าที่ตรวจสอบได้มากถึง 8 มิลลิเมตร อีกทั้งยังพบรอยแตกร้าวที่ผนังอาคารชั้น 2 เพิ่มมากขึ้นด้วย ถือว่าเป็นอันตรายอย่างมาก ดังนั้น ทาง อบต.พันท้ายนรสิงห์ จึงได้ประกาศห้ามเข้าตัวอาคารเด็ดขาด และยุติการเคลื่อนย้ายของออกจากห้องพักไปเมื่อเวลา 18.00 น. ของวันที่ 20 ส.ค. ที่ผ่านมา
ส่วนสาเหตุของการทรุดตัวนั้น จากการตรวจสอบของคณะกรรมการชุดเฉพาะกิจ และข้อสรุปของสำนักควบคุมและตรวจสอบอาคารฯ บ่งชี้ว่า สาเหตุไม่น่าจะมาจากเรื่องของการก่อสร้าง แต่เกิดจาก “การวิบัติของฐานราก” คือ จากข้อเท็จจริงพบว่า ฐานรากบริเวณด้านหลัง ของอาคาร ซึ่งอยู่ติดกับแอ่งน้ำ เกิดการทรุดตัวอย่างทันทีทันใด ทำให้เกิดการดึงรั้งของโครงสร้างอาคาร บริเวณด้านหน้า ส่งผลให้ฐานรากอาคารส่วนที่เหลือทรุดตัวลงมาทั้งหมด ส่วนการวิบัติของฐานรากจะเกิดจากอะไรนั้น ก็ต้องทำการตรวจสอบต่อไปหลังจากที่รื้อถอนอาคารแล้ว
นายธีรพัฒน์ กล่าวว่า สำหรับการดำเนินการต่อไปของอาคารหลังนี้ได้มอบหมายให้ อบต.พันท้ายนรสิงห์ ออกหนังสือคำสั่งรื้อถอนอาคาร จากนั้นในวันที่ 24 ส.ค. ให้เจ้าพนักงานของ อบต.พันท้ายนรสิงห์ (นายก อบต.) เรียกเจ้าของอาคารมารับทราบหนังสือคำสั่งรื้อถอน เพื่อให้เจ้าของอาคารเร่งหาวิศวกรประเมินงาน กับผู้รับเหมาจัดทำออกแบบพร้อมนำเสนอแผนการรื้อให้ อบต.พันท้ายนรสิงห์ ทราบ เพื่อให้ความเห็นชอบในการรื้อถอนต่อไป ส่วนการรื้อถอนจะมีขึ้นเมื่อไหร่และใช้ระยะเวลารื้อถอนภายในกี่วันนั้น ต้องเป็นไปภายหลังจากที่มีการเสนอแบบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ ตนได้กำชับต่อทาง อบต.พันท้ายนรสิงห์ ว่า แบบที่รื้อถอนนั้น นอกจากจะต้องสร้างความปลอดภัยต่ออาคารหรือบ้านเรือนที่อยู่ข้างเคียงแล้ว ยังควรที่จะต้องสามารถให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้าไปนำทรัพย์สินของผู้เช่าอาศัย ที่ยังคงติดค้างอยู่ภายในออกมาได้ด้วย
