xs
xsm
sm
md
lg

ดรามายิ้มละ 500! เคสยายใต้สะพาน อบต.โต้ชาวเน็ตยันดูแลอย่างดี ควักเงินซื้อที่ดินสร้างบ้านให้อีก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



คนไทยดรามาแห่สงสารยาย หลังหนุ่มสำนักสักยันต์ถ่ายรายการ “ยิ้มละ 500” แจกเงิน 4,000 ถ่ายคลิปเรียกน้ำตา พบความจริงอีกด้าน ยังมีตาอีกคนไม่อยู่ในคลิป นายอำเภอเผย อบต.ดูแลแล้ว จะสร้างบ้านใหม่แต่ตากลับไม่ยอมไป อยากอยู่ใกล้คลอง นักพัฒนาชุมชนบอกช่วยตลอด นายก อบต. ควักเงินส่วนตัวซื้อที่ดินเตรียมสร้างบ้านให้แล้ว วอนชาวเน็ตหยุดโจมตี เพราะคนพื้นที่ทำงานหนักตลอด

จากกรณีที่ นายนัฐพงษ์ เฉียบแหลม เจ้าของสำนักสักยันต์ อาจารย์มอล์ทนครปฐม โพรงมะเดื่อ (องค์ดำ โสฬส) ผลิตรายการผ่านเฟซบุ๊ก “เช็คอิน กินกับสามพราน” และยูทูป “นักบุญเลือดเย็น” โดยใช้ชื่อว่า “ยิ้มละ 500” ใช้วิธีเข้าหาผู้ไร้บ้าน และผู้ยากไร้เพื่อแจกเงินคนละ 500 บาท โดยพบว่ามีหญิงชรารายหนึ่ง อาศัยอยู่ใต้สะพานข้ามคลองสหกรณ์ สาย 2 ถนนพระราม 2-ศาลพันท้ายนรสิงห์ ต.พันท้ายนรสิงห์ อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร พร้อมกับหลานอีก 2 คน มานาน 2 ปี หลานระบุว่า พ่อเสียชีวิต แม่ทอดทิ้ง ไม่ได้เรียนหนังสือตั้งแต่ชั้น ป.2 เพราะไม่มีรถ หุงหาอาหารก็ใช้เตาฟืน ไม่มีเงินกินข้าว มีแต่คนเอามาให้ กระทั่งมีสายตรวจ สภ.โคกขาม ผ่านเข้ามา ก่อนจะมอบเงินให้หญิงชรา 1,500 บาท และฝากเงิน 2,500 บาท ให้ตำรวจยศสิบตำรวจเอกนายหนึ่ง ซึ่งคาดว่าเป็นสายตรวจอยู่ในท้องที่ของสถานีตำรวจภูธรโคกขาม ดูแลเงินก้อนนี้ และสัญญาว่าจะจัดหาสิ่งของไปให้ กลายเป็นคลิปที่ชาวเน็ตแห่แชร์ และพยายามส่งต่อคลิปไปยังหน่วยงานต่างๆ ในจังหวัดสมุทรสาคร เพื่อขอความช่วยเหลือ



ปรากฏว่า เมื่อวันที่ 14 พ.ค. นายวุฒิพงษ์ สุภัควนิช นายอำเภอเมืองสมุทรสาคร พร้อมด้วย พ.อ.วินัย บุตรรักษ์ รอง ผอ.กอ.รมน.จังหวัดสมุทรสาคร หัวหน้าบ้านพักเด็กสมุทรสาคร เจ้าหน้าที่ สนง.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ปลัด อบต.พันท้ายนรสิงห์ และเจ้าหน้าที่กองสวัสดิการสังคม อบต.พันท้ายนรสิงห์ ลงพื้นที่บริเวณใต้สะพานแถวตลาดน้ำพันท้ายนรสิงห์ เพื่อพบกับครอบครัวดังกล่าว พบว่า มีอยู่ 4 คน คือ นางสมจิตต์ กันประตูยอด อายุ 67 ปี, นายประจวบ มาประชุม อายุ 49 ปี, เด็กหญิง ยลฤดี กลิ่นรอด อายุ 14 ปี และ เด็กชาย ภานุกร กลิ่นรอด อายุ 5 ปี จากการสอบถามนายประจวบ ทราบว่า เด็กไม่ได้เรียนหนังสือเลย แต่จากการพูดคุย อบต.พันท้ายนรสิงห์ ได้ดูแลครอบครัวนี้มาโดยตลอด ตั้งแต่เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ การให้ข้าวสารอาหารแห้งทุกเดือน และจะสร้างบ้านให้ใหม่ แต่นายประจวบไม่ยอมให้ไป เนื่องจากต้องการอยู่ใกล้คลอง

ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่รัฐ จะได้ประสานที่ดินแปลงที่เป็นของญาติของตา เพื่อที่จะขอให้พื้นที่ในการสร้างบ้าน โดยทางปลัด อบต.จะนำเสนอมูลนิธิพันท้ายนรสิงห์ เพื่อของบประมาณในการก่อสร้างบ้าน โดยกำนันตำบลพันท้ายนรสิงห์ ในฐานะประธานคณะกรรมการพัฒนาคะณภาพชีวิตระดับตำบล จะเป็นผู้ประสานทีมงานในการก่อสร้างต่อไป ส่วนเด็กทั้ง 2 คน ทางบ้านพักเด็ก จะประสานในการนำเด็กทั้ง 2 คน ไปอยู่ที่บ้านพักเด็กสมุทรสาคร เพื่อให้มีคุณภาพชีวิต ความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น มีการได้เรียนหนังสือต่อไป ทั้งนี้ ทาง รอง ผอ.กอ.รมน.จังหวัดสมุทรสาคร ได้มอบข้าวสาร และทางสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสมุทรสาคร ได้มอบข้าวสาร อาหารแห้ง และทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู ได้นำข้าวสาร นม อาหารแห้ง ให้กับครอบครัวอีกด้วย



อย่างไรก็ตาม ในโลกโซเชียลกลับออกมาโจมตีองค์การบริหารส่วนตำบลพันท้ายนรสิงห์ (อบต.) เจ้าของพื้นที่ว่าออกมาช่วยเหลือครอบครัวนี้จริงหรือไม่ ทำไมถึงมีชีวิตความเป็นอยู่แบบนี้ ต้องอาศัยอยู่ใต้สะพาน ทำให้ น.ส.วรุจิรดา จินดาน้อย นักพัฒนาชุมชนปฏิบัติการ ฝ่ายสังคมสงเคราะห์ อบต.พันท้ายนรสิงห์ ยืนยันว่า ครอบครัวนี้ดูแลมาตลอด พยายามทุกวิธีที่จะให้ทั้งครอบครัวได้เข้าถึงสวัสดิการของรัฐทุกประเภท รายชื่อของทุกคนในครอบครัวนี้จะถูกส่งเพื่อขอเงินสงเคราะห์กับทุกหน่วยงานของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สลับเปลี่ยนตามคุณสมบัติ และส่งขอรับเงินสงเคราะห์มาตลอด 2 ปี และก่อนหน้านั้น เราก็ทำมาตลอด ส่วนเรื่องการเรียน นายนิรุตน์ แก้วนิล ประธานสภา อบต.พันท้ายนรสิงห์ ออกค่าใช้จ่ายทุกอย่าง แม้กระทั่งค่าวินมอเตอร์ไซค์ไปส่งที่โรงเรียนสหกรณ์กสิกรรมชายทะเล และมีเงินให้กินขนมทุกวัน แต่ล้มเหลวเพราะเด็กไม่ยอมไปโรงเรียน เรื่องนี้สามารถสอบถามผู้อำนวยการโรงเรียนได้

ส่วนเรื่องที่อยู่อาศัย ได้จัดทำโครงการบ้านประชารัฐตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง และมีรายชื่อครอบครัวนี้อยู่ในบัญชีลำดับต้นๆ ที่จะได้รับความช่วยเหลือ ซึ่งดำเนินการออกแบบ ขออนุญาตและทำโครงการเตรียมไว้หมดแล้ว แต่ด้วยข้อจำกัดของการก่อสร้างไม่สามารถดำเนินการได้ เพราะโครงการไม่ผ่านประชาคมเรื่องการขอใช้ที่ดิน ซึ่ง นายวัฒนา แตงมณี นายก อบต.พันท้ายนรสิงห์ พูดมาตลอดว่า ต้องการสร้างบ้านให้คนยากไร้ ก็หาที่ดิน มีการปรึกษาหารือ ขอใช้ที่ดินของสหกรณ์นิคมบ้านไร่ เพื่อสร้างพยายามมาตลอดจริงๆ และวันนี้นายวัฒนาก็ใช้เงินส่วนตัวซื้อที่ดิน ยืนยันว่า เงินที่ได้มาเป็นเงินบริสุทธิ์ จึงวอนชาวเน็ตขอความยุติธรรม หยุดโจมตีท้องถิ่น นายก อบต. และหน่วยงานของรัฐที่ดูแลและทำงานกันอย่างหนักมาตลอด ทำตลอดเวลา คนทำงานจะได้มีกำลังใจ เพราะมีหลายเคสที่น่าสงสารเหมือนยาย ซึ่งใน ต.พันท้ายนรสิงห์ มีอีกเยอะจริงๆ
















กำลังโหลดความคิดเห็น