คอลัมน์ EYE ON SPORTS โดย กษิติ กมลนาวิน ราชวังสัน
ในขณะที่ฟุตบอลลึกสูงสุดของชาติต่างๆในทวีปยุโรปกำลังจะกลับมาแข่งกันต่อเพื่อให้จบฤดูกาล 2019-20 นั้น ลีก เอิง (Ligue 1) ของ ฝรั่งเศส ถูกประกาศตัดจบไปแล้ว แต่เมื่อปี่กลองเริ่มส่งเสียงเขย่าหัวใจแฟนๆเมืองน้ำหอม มันทำให้บางทีมที่ได้รับความเสียหายถูกปรับตกชั้นตัดสินใจออกมาร้องต่อศาลเพื่อให้ ลีกฟุตบอลอาชีพ (Ligue de football professionnel - LFP) ตัดสินใจใหม่โดยไม่ปรับทีมใดตกชั้น
ลีก เอิง แต่ละปีนั้นต้องแข่งกัน 38 นัด แต่ฤดูกาลนี้แข่งได้แค่นัดที่ 28 โดยมีเพียงคู่ สตร๊าสบูรก์-ปารี แซ็ง แชรแม็ง คู่เดียวที่ไม่ได้แข่งเพื่อเลี่ยงปัญหาการแพร่ระบาดของ โคโรนาวายรัส (COVID-19) นอกนั้นแข่งกันครบ และหลังจากที่ เอ็มมานูเอ็ลมาครง (Emmanuel Macron) ประธานาธิบดีของฝรั่งเศส แถลงทางโทรทัศน์เรื่องมาตรการการต่อสู่กับ โกโรนาวีรุส เมื่อวันที่ 12 มีนาคม ที่ผ่านมา ลีก เอิง และ ลีก เดอ จึงประกาศหยุดเตะในวันรุ่งขึ้น จนเมื่อวันที่ 28 เมษายน ที่ผ่านมา เอดูอาร ฟีลิป (Édouard Philippe) นายกรัฐมนตรี แถลงต่อสภาผู้แทนราษฎรว่า การแข่งขันกีฬาอาชีพใน ฝรั่งเศส สำหรับฤดูกาล 2019-20 ไม่สามารถดำเนินการต่อได้ อีก 2 วันต่อมา สภาบริหารของ LFP จึงโหวทให้ ลีก เอง และ ลีก เดอ จบฤดูกาลอย่างเป็นทางการ
เมื่อตัดจบก็ต้องมีการคำนวณแต้มโดยคำนึงถึงการแข่งขันจำนวนนัดที่น้อยกว่าของ สตร๊าสบูรก์ กับ เปแอ๊สเช ด้วย อย่างไรก็ตาม แช้มพ์ ลีก เอิง ปีนี้ถูกยกให้ เปแอ๊สเช ที่มีคะแนนนำโด่ง 68 คะแนน เหนือ โอแล็งปิ๊ก เดอ มารแซ็ย (Olympique de Marseille) ทีมอันดับ 2 ที่มี 56 คะแนน ในขณะที่ 2 ทีมตกชั้นคือ อาเมียง (Amiens SC) อันดับ 19 มี 23 คะแนน และ ตูลู้ส (Toulouse FC) ทีมบ๊วยที่มีเพียง 13 แต้ม ส่วน นีม โอแล็งปิ๊ก (Nîmes Olympique) ที่รั้งอันดับ 18 มี 27 คะแนน ไม่ต้องลุ้นต่อให้เมื่อยแข้ง รอดการตกชั้นสบายไป
พูดถึงงบประมาณทำทีมในฤดูกาลนี้ เปแอ๊สเช เป็นทีมที่อัดเงินลงไปมากที่สุดถึง 637 ล้าน เออโร ขนาด โอแล็งปิ๊ก ลิอ็อนเน (Olympique lyonnais) ใช้เงินมากเป็นอันดับ 2 ยังมีจำนวนแค่ครึ่งเดียวคือ 310 ล้าน เออโร เท่านั้น และแค่รั้งอันดับที่ 3 แต่ ลิล (LOSC Lille) ซึ่งจบที่อันดับ 2 จัดงบประมาณปีนี้เพียง 120 ล้าน เออโร ถือว่าใช้เงินได้คุ้มค่าจริงๆ ทีมที่ละลายเงินทิ้งอย่างโง่ๆน่าจะเป็น โมนาโก (AS Monaco FC) หมดไป 220 ล้าน เออโร ได้แค่อันดับ 17 เกือบตกชั้นเอา นอกนั้นทีมอื่นๆส่วนใหญ่จะจัดงบทำทีมอยู่แถวๆ 30-40 ล้าน เออโร
สำหรับตำแหน่งดาวซัลโวประจำฤดูกาลนี้เป็นของ คีเลียน อึมบั๊ปเป (Kylian Mbappé) กองหน้าทีมชาติฝรั่งเศส วัย 21 ปี แห่ง ปารี แซ็ง แชรแม็ง ที่ซัดไป 18 ประตู แม้จะเท่ากับ วิสซัม เบ็น เย็ดแดร (Wissam Ben Yedder) กองหน้าทีมชาติฝรั่งเศส เลือดตูนีเซีย วัย 29 ปี แห่ง โมนาโก แต่หลักเกณฑ์การพิจารณาว่าใครเหนือกว่าในกรณีทำประตูได้เท่ากันของ ลีก เอิง นั้น เขาให้นับจำนวนประตูที่ทำในเกมที่ไม่ใช่การยิงลูกโทษที่จุดโทษ ซึ่งในกรณีนี้ อึมบั๊ปเป กดไป 18 เต็มๆ ส่วน เบ็น เย็ดแดร ทำได้เพียง 15 ประตู
ล่าสุด แบรนาร โชอันแน็ง (Bernard Joannin) ประธานสโมสร อาเมียง ทีมที่ต้องตกชั้นกะทันหันจากการตัดจบของ ลีก เอิง ได้ยื่นฟ้องต่อศาลขอให้สั่งยกเลิกการตกชั้น โดยอ้างว่า การตัดจบฤดูกาลหลังการแข่งขันเพียง 28 นัดนั้นไม่เป็นธรรม การแข่งผ่านไปเพียง 2 นัด 4 นัด หรือ 6 นัด ก็ล้วนเหมือนกับ 28 นัด คือไม่ครบ 38 นัด แล้วจะมาประกาศตัดสินผลการแข่งขันของฤดูกาลได้อย่างไร เป็นการตัดสินใจที่เร็วเกินไปซึ่งไม่สมเหตุผลและไม่เป็นธรรม
เขาชี้ให้เห็นว่า ทีมของตนมีแต้มน้อยกว่าทีมที่อันดับ 18 เพียง 4 คะแนน และในประวัติศาสตร์ของสโมสรก็เคยเลื่อนชั้นสู่ ลีก เดอ ด้วยผลการแข่งขันในนัดสุดท้ายของฤดูกาล และที่ได้เลื่อนชั้นมาเล่นใน ลีก เอิง นี่ก็ด้วยการทำประตูได้ในวินาทีสุดท้ายของเกมด้วยซ้ำ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงจิตวิญญาณของการต่อสู้ ซึ่งงานนี้มีบุคคลในวงการฟุตบอลไม่น้อยที่ออกมาให้การสนับสนุนการเรียกร้องของเขา เช่น โลร็อง บล็อง (Laurent Blanc) อดีตกองหลังแช้มพ์โลก 1998 และอดีตโค้ชทีมชาติฝรั่งเศส รวมทั้ง นักเตะรายอื่นๆอีกไม่น้อย แต่ผลของการใช้สิทธิ์ทางศาลจะออกมาอย่างไร ไม่ต้องตกชั้นโดยเพิ่มเป็น 22 ทีม หรือ จบอย่างนี้เหมาะสมแล้ว หรือ อาจมีการเปลี่ยนใจย้อนกลับมาจัดแข่งกันต่อแบบชาติอื่นๆก็เป็นไปได้ รอผลเท่านั้นครับ