คอลัมน์ EYE ON SPORTS โดย กษิติ กมลนาวิน ราชวังสัน
แฟนบอลรายหนึ่งยิงคำถามมาหาผมว่า ในกรณีที่นักเตะอาชีพหายตัวไปนั้นมันเกิดจากสาเหตุใด ไม่มีการรายงานตัวตามระยะที่ต้นสังกัดกำหนด ไม่ว่าใครจะโทรศัพท์ตามตัวก็ไม่รับสาย หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยนานร่วม 1 เดือนเต็มแล้ว จนบางคนสงสัยว่า มันจะมีเรื่องการพนันเข้ามาเกี่ยวข้องหรือไม่
วันนี้ ผมจะให้คำตอบเท่าที่จะเปิดเผยได้ เริ่มที่นักเตะรายที่ว่านี้ เขาเป็นใครกัน คำตอบคือ เป็นนักเตะฝีเท้าจัดจ้านคนหนึ่งของไทยเลยทีเดียว เคยเล่นระดับลีกสูงสุดให้กับหลายสโมสร ในปัจจุบัน สังกัดทีมที่ประธานสโมสรเป็นเจ้าของสถานศึกษา มีตาแป๊ะเป็นโค้ช รายรับของนักเตะรายนี้เดือนละ 3 แสนกว่าบาทเชียว
เงินเดือนขนาดนี้ หากเข้าสู่วงการพนันก็น่าเสียดาย ใครๆที่ก้าวเข้าไปยุ่งกับวงการนี้ก็ล้วนตกเป็นทาสของมัน ถึงขั้นเสพติดจนถอนตัวยากมาก นักพนันมักคิดแต่ทางได้ต้องแทงถูกรับเงินก้อนใหญ่แน่นอน ไม่เคยคิดไว้ก่อนว่า แล้วถ้าแทงเสียขึ้นมา สูญเงินทุนไปหมดเลย ครั้งแล้วครั้งเล่า ทำเอาทรัพย์สินที่หามาได้จะมากมายขนาดไหนก็ต้องละลายหายไปหมดสิ้น แถมยังเป็นหนี้สินท่วมหัวจนหามาชดใช้ไม่ไหวอีก คราวนี้ก็ต้องหลบหนีไปเลย จะมาโผล่หน้าตามที่สาธารณะไม่ได้
ตั้งแต่ตอนเซ็นสัญญาแล้ว ทางสโมสรก็ต้องรอเวลานานกว่าปกติ เนื่องจากในยุคฟุตบอลอาชีพ นอกจากจะมีการระบุรายได้เป็นเงินที่แบ่งจ่ายรายเดือนให้นักเตะแล้ว ยังมีเงินก้อนที่มอบให้เป็นค่าเซ็นสัญญาด้วย ซึ่งก็มีเสียงบอกว่า นักเตะรายนี้รอเปรียบเทียบจำนวนเงินกับสโมสรอื่นด้วยว่า ใครจะเสนอเงินก้อนใหญ่กว่ากันเป็นค่าเซ็นสัญญา เนื่องจากกำลังร้อนเงิน (ก้อนใหญ่) อย่างที่สุด
เจ้าหนี้รายหนึ่งของนักเตะรายนี้ก็คือผู้ที่มีส่วนสำคัญในการดูแลตนนั่นเองในงานฟุตบอลระหว่างสถาบันประจำปี ซึ่งเป็นหนี้ด้วยจำนวนเงินนับแสนบาท ที่สำคัญเจ้าหนี้ที่ว่านี้ดันหากินด้วยการเปิดโต๊ะพนันบอลเป็นอาชีพหลักสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำให้ตนเอง แต่บังหน้าด้วยอีกอาชีพอื่นที่เกี่ยวกับฟุตบอล แอบก่อเวรก่อกรรมให้ทาสการพนันหลายคนมาเป็นระยะเวลานานแล้ว
เมื่อเร็วๆนี้ นักเตะรายนี้ยังออกปากหยิบยืมเงินจากเพื่อนจำนวน 2,000 บาทเลย ทำไมคนมีรายได้มากมายขนาดนั้น แค่กดเงินจากตู้เอทีเอ็มที่มีตั้งอยู่ทั่วไปก็น่าจะได้เงินสดมาใช้แล้ว นี่แสดงว่า เขาไม่อาจกระทำเช่นนั้นได้ เพราะไม่มีเงินในบัญชีเพียงพอ แล้วมันหายไปไหนหมด
พูดถึง Work from Home คือ การทำงานจากที่บ้าน กลายเป็นคำฮิทในยุคที่มีโคโรนาวายรัส (COVID-19) ที่ทำให้ทุกคนต้องระมัดระวังการใกล้ชิดกับผู้อื่น การฝึกซ้อมกีฬาก็เป็น 1 ในการทำงานที่ต้องดำเนินต่อไป แต่ได้รับการมอบหมายงานให้แต่ละคนไปปฏิบัติที่บ้านของตนเอง ซึ่งย่อมมีกระบวนการตรวจสอบความมีวินัยของลูกทีมด้วยการรายงานตัวทางออนลายน์เป็นระยะ คำถามเกิดขึ้นว่า นักเตะรายนี้กำลังทำ โซเชี่ยล ดิ๊สแทนซิ่ง (Social Distancing) เว้นระยะห่างทางสังคมอย่างลึกมากถึงขนาดกบดานเพื่อหลบหนี วายรัส หรืออะไรกันแน่
ฝรั่งเศส มี Work from Home มาตั้งแต่ปี 1970 แล้ว เรียกว่า เตเลตราไวย (Télétravail) แปลว่า การทำงานระยะไกล โดยการทำงานทางโทรศัพท์เพื่อลดค่าใช้จ่ายและสะดวกในการระดมการทำงานอันเป็นแนวทางการบริหารจัดการและการประสานงานแบบใหม่ หลังจากนั้นอีก 2 ปีต่อมา แจ๊ค ชิฟ (Jack Schiff) นักหนังสือพิมพ์ได้เขียนในคอลัมน์ของตนลงในหนังสือพิมพ์ วอชิงเติ้น โพ้สท์ (Washington Post) โดยใช้คำว่า telework (เทเลเวิ้ร์ค) ซึ่งก็มีความหมายว่า การทำงานระยะไกล เป็นครั้งแรก แล้วในปี 1975 จึงเกิดมีผู้ป้อนงานตามกระบวนการ เทเลเวิ้ร์ค เป็นเรื่องเป็นราวในอีกชื่อหนึ่งว่า telecommuting เขาคือ แจ๊ค นายล์ส (Jack Nilles) จนได้รับการขนานนามว่าเป็น บิดาแห่งการทำงานระยะไกล พูดมาถึงตอนนี้ เราอาจลืมไปว่า Work from Home อีกชนิดที่มีมานานแล้วและสามารถก่อหนี้สินขนาดหนักอย่างสาหัสเลย แค่โทรศัพท์สั่งการ ก็คือ การแทงพนัน นั่นเอง
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่านักเตะจะติดการพนันจนทำให้เสียงาน เสียการ หมดสิ้นเงินทองทรัพย์สมบัติที่หามา แถมยังมีหนี้สินรุงรัง หาทางออกไม่ได้ ผมก็ถือว่าเขายังไม่ได้เป็นคนเลวอย่างที่สุด แค่เป็นผู้ป่วย เสพติด มัวเมา จมปลัก จนถอนตัวไม่ขึ้นเท่านั้น แต่ทันทีที่เขาก้าวข้ามไปอีกขั้นด้วยการทำลายศักดิ์ศรี ความซื่อสัตย์ในอาชีพของตน นั่นคือ ล้มบอล นั่นแหละ เข้าขั้นเลวอย่างที่สุดแล้วครับ