คอลัมน์ Buzzer Beat โดย MVP
ใครๆ ที่อ่านข่าวตาม โซเชียล มีเดีย วันที่ 1 เมษายน ต้องใช้วิจารณญาณมากเป็นพิเศษ ตามกระแส “April Fools” หรือ วันโกหก ของเมืองตะวันตก โดยเฉพาะประเด็นร้อนอย่าง “โควิด-19” ซึ่งอาจสร้างความแตกตื่นแก่คนใกล้ชิด หรือไม่แน่ว่า คุณอาจจะเห็นเรื่องหลอกๆ เช่น การแข่งขันกีฬาลีกอาชีพต่างๆ กลายเป็นโมฆะ
ย่างเข้าเดือนเมษายน ซึ่งลีกฟุตบอลยุโรป หยุดพักมาราว 1 เดือน เนื่องจากภัยโรคระบาด นักวิเคราะห์วิจารณ์ที่แสดงความเห็น หรือเพจกีฬาแชร์ข่าว พรีเมียร์ ลีก ต้องยกเลิกผลการแข่งขันทั้งหมดของฤดูกาล 2019-20 คงต้องปรบมือด้วยความชื่นชมในความกล้าเล่นกับไฟ หรือ แกว่งเท้าหาเสี้ยน เพราะคุณจะเผชิญคอมเมนต์ก่นด่าของแฟนๆ ลิเวอร์พูล ที่รอแชมป์มา 30 ปี ด้วยอาการหัวร้อน นับพันนับหมื่น
หากกองเชียร์กลุ่มนั้นคิดบวกสักนิด สโมสรเงินถุงเงินถังอย่าง เชลซี คว้าแชมป์ลีกครั้งเดียว ฤดูกาล 1954-55 กระทั่งชายที่มีชื่อว่า โชเซ มูรินโญ นั่งเก้าอี้ผู้จัดการทีม คว้าแชมป์ลีกสมัยที่ 2 ฤดูกาล 2004-05 หรือ แมนเชสเตอร์ ซิตี คว้าแชมป์ลีก 2 สมัย ฤดูกาล 1936-37 กับ 1967-68 ต่อมาถึงสมัยที่ 3 ฤดูกาล 2011-12
หรือจะเอาให้นานกว่านั้น ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ คว้าแชมป์ลีกครั้งสุดท้าย ฤดูกาล 1960-61 จนถึงทุกวันนี้ ก็ยังรอคอยกันอยู่ ตามตัวอย่างที่ยกมานั้น นานแค่ไหนลองบวกลบดู แล้วเหล่า “เดอะ ค็อป” จะรู้ว่าแค่ 3 ทศวรรษ มันยังเด็กๆ เพียงแต่ไม่มีใครหยิบมาล้อเท่านั้นเอง 555 ผมไม่รู้หรอกว่าบรรยากาศชาวเมืองลิเวอร์พูลเป็นอย่างไร แต่ถ้าต้องดำเนินชีวิตท่ามกลางความหวาดระแวง โควิด-19 พวกเขาคงไม่คิดเรื่องการฉลองแชมป์หรอก คงมัวแต่ห่วงว่า เมื่อใดจะกลับสู่ภาวะปกติเสียทีมากกว่า
เกริ่นมาเสียยืดยาว จริงๆ แล้ว ความเคลื่อนไหวของวงการกีฬา สหรัฐอเมริกา ไม่ค่อยมีอะไรโดดเด่น ตั้งแต่ ทอม เบรดี ย้ายไปขว้างบอลให้ แทมปา เบย์ บัคคาเนียร์ส แบบฟรีเอเจนต์ และจะได้สวมเบอร์ 12 ตามเดิม โดย คริส ก็อดวิน ปีกนอกเพื่อนใหม่ จะเปลี่ยนมาใช้เบอร์ 14 แทน ขณะที่ บาสเก็ตบอล เอ็นบีเอ (NBA) มีข่าวดี เหล่าผู้เล่นติดเชื้อ อาทิ รูดี โกแบร์ กับ โดโนแวน มิตเชลล์ 2 ซูเปอร์สตาร์ ยูทาห์ แจซซ์ และ มาร์คัส สมาร์ท การ์ด บอสตัน เซลติกส์ รวมถึง 2 ผู้เล่น แอลเอ เลเกอร์ส ไม่ระบุชื่อ ต่างหายป่วยแล้ว
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ โควิด-19 ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ยังคงน่าเป็นห่วง พิจารณาแค่ มหานคร นิว ยอร์ก ที่ตั้งแฟรนไชส์ของ นิว ยอร์ก นิกส์ กับ บรูกลิน เน็ตส์ แห่งเดียว ตัวเลขทะลุหลัก 50,000 คน มีความเป็นไปได้ว่า NBA คงจะขยายเวลาพักแข่งต่อจากกำหนดเดิม 1 เดือน
เกิดกระแสเล็กๆ ว่า NBA อาจขยับกำหนดปิดซีซันมาไว้ช่วง โอลิมปิก 2020 ซึ่งถูกเลื่อนไป 1 ปี หรือแข่งแบบปิดจนจบ แต่จะต้องหารือกับรัฐบาล และหน่วยงานควบคุมโรคระบาด เสียก่อน จึงจะได้รับไฟเขียว หรือจะกลับมาแข่งแบบปิด คงมิอาจการันตีเช่นกันว่า เชื้อโรคจะไม่ติดต่อจากนักกีฬาด้วยกันเอง เนื่องจากแต่ละเกมมีทั้งเหย้าและเยือน การเดินทางแต่ละครั้ง ย่อมเกิดความเสี่ยง
เส้นทางของ NBA ยังอีกยาวไกล ตอนนี้เพิ่งจะแข่งกันราว 65เกม การตัดสินแชมป์ยังต้องว่ากันต่อช่วงเพลย์ออฟ ดังนั้นหากสถานการณ์ไม่เอื้ออำนวย ก็มีโอกาสที่จะสรุปให้เป็นโมฆะได้ง่ายกว่า ส่วนเรื่องธุรกิจอาจใช้วิธีลดแลกแจกแถมเกี่ยวกับลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด เพื่อชดเชยแก่สถานีโทรทัศน์ค่ายต่างๆ ได้
ส่วน NFL ที่ยังดื้อดึงอยู่ว่า จะเปิดฤดูกาล 2020 ตามปกติ นั่นก็เพราะยังเหลือเวลาอีก 4 เดือน กว่าจะถึง เทรนนิง แคมป์ กับ พรีซีซัน บวกกับการระบาด โควิด-19 ต้องติดตามแบบรายวัน ซึ่งก็เป็นแนวทางปฏิบัติเหมือนกับ โตเกียว เกมส์ , เทนนิส แกรนด์ สแลม และ กอล์ฟเมเจอร์ต่างๆ ดังที่เรียนว่า หากยังมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ สุดท้ายเดี๋ยวก็เลื่อน และแผนการเพิ่มทีมเพลย์ออฟ อาจต้องชะลอไปก่อน
ประเด็นสำคัญ “อเมริกัน เกมส์” ไม่มีเลื่อน-ตกชั้น แตกต่างจากฟุตบอลลีกยุโรป เพราะบรรดาลีกรองๆ ต่างต้องการแย่งชิงผลประโยชน์จากการโปรโมตสู่ลีกสูงสุด ตรงจุดนี้ทำให้สาวก “หงส์แดง” ทั่วโลก พอมีความหวังเล็กๆ ว่า สถิติที่ทำไว้ทั้งหมดตลอดซีซัน 2019-20 จะไม่ถูกล้มเลิกง่ายๆ เพราะยังมีสโมสรที่ต้องการโควตา ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก และความอยู่รอด ช่วยคัดค้านไม่ให้จบแค่นี้ แต่สุดท้ายก็ต้องถามว่า “โควิด-19” จะปรานีแฟนๆ ที่รอแชมป์ลีกมาตั้งแต่ปี 1990 หรือไม่