เผยยอดผู้ติดเชื้อ “โควิด-19” ทั่วโลกจ่อแตะหลักล้านคน มากกว่า 2 แสนคนอยู่ในสหรัฐฯ ขณะที่จำนวนผู้เสียชีวิตใกล้ทะลุ 5 หมื่นราย “องค์การอนามัยโลก” ห่วง “โควิด-19” ระบาดทวีคูณ เสียชีวิตเพิ่มเท่าตัว ห่วงมาตรการล็อกดาวน์ที่ทำให้คนแตกตื่นซื้ออาหาร ส่วนไทยพบติดเชื้อรายใหม่ 104 ราย ตายเพิ่ม 3 ราย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (2 เม.ย.) เมื่อเวลา 21.00 น. ตามเวลาประเทศไทย worldometers เว็บไซต์รวมสถานการณ์โรคโควิด -19 แบบเรียลไทม์ ได้เผยแพร่ข้อมูลผู้ติดเชื้อทั่วโลกว่า มีจำนวนเพิ่มขึ้นตลอดเวลา โดยพบผู้ติดเชื้อรวม 961,725 คน และเสียชีวิต 49,165 คน รักษาหาย 203,190 คน โดยยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ทั่วโลกของวันที่ 1 เม.ย.อยู่ที่ 26,528 คน
โดยที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ถือเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อมากที่สุดเป็นอันดับ 1 ของโลก จำนวน 215,395 คน และมีผู้เสียชีวิตในสรัฐฯแล้ว 5,113 ราย
ขณะที่ประเทศอิตาลียังเป็นชาติที่พบผู้เสียชีวิตมากที่สุดในโลก ด้วยจำนวน 13,155 คน จากผู้ติดเชื้อ 110,574 คน ตามมาด้วยประเทศสเปน ที่เสียชีวิตแล้ว 10,003 ราย จากผู้ติดเชื้อ 110,238 คน ซึ่งเพิ่มขึ้นเมื่อวันที่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมา ถึง 6,120 คน และเสียชีวิตในวีนเดียวกัน 616 ราย
ส่วนประเทศจีน มียอดผู้ติดเชื้อรวม 81,589 คน โดยเป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 35 คน ยอดเสียชีวิตอยู่ที่ 3,318 ราย เพิ่มจากเดิม 6 ราย
รายงานข่าวแจ้งว่า รัฐนิวยอร์กเป็นศูนย์กลางของสหรัฐฯ ในการต่อสู้กับโรคระบาดใหญ่ หลัง แอนดรูว์ คูโอโม ผู้ว่าการรัฐเผยว่าในรัฐแห่งนี้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 1,900 คน ทั้งนี้ชาวอเมริกันราว 8 ใน 10 คน เวลานี้อยู่ภายใต้คำสั่งกักตัวเองอยู่แต่ในบ้าน โดยเจ้าหน้าที่ทั้งในระดับรัฐและท้องถิ่น ในความพยายามยับยั้งการแพร่ระบาด
อย่างไรก็ตามมีรายงานจาก ทำเนียบขาว ที่ประเมินว่าท้ายที่สุดอาจมีผู้ที่อาศียในสหรัฐฯ เสียชีวิตจากวิกฤตการณ์ครั้งนี้ถึง 240,000 คน ซึ่ง ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แถลงยอมรับว่า สถานการณ์จะต้องเลวร้ายลงไปอีก แต่ยืนยันว่า คนอเมริกันจะไม่สิ้นหวังหรือพ่ายแพ้ให้แก่ความหวาดกลัว
หนึ่งในผู้เสียชีวิตล่าสุดคือ ทารกวัย 6 สัปดาห์ที่ถูกนำส่งโรงพยาบาลในรัฐคอนเนตทิกัตเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
จากที่เคยเชื่อกันว่า ไวรัสโคโรนาจะเป็นอันตรายอย่างยิ่งสำหรับผู้สูงวัยและผู้ที่มีโรคประจำตัว แต่จากหลายเคสล่าสุดตอกย้ำว่า ไวรัสร้ายสามารถคร่าวีวิตทุกเพศทุกวัย
ในบรรดาเหยื่อที่มีอายุน้อย มีอาทิ เด็กวัย 16 ปีในฝรั่งเศส, เด็กวัย 12 ปีในเบลเยียม และเด็กวัย 13 ปีในอังกฤษ
เทดรอส แอดฮานอม เกเบรเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก (WHO) กล่าว ว่า ในช่วง 5 สัปดาห์ที่ผ่านมาจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่มีการเพิ่มขึ้นเกือบถึงระดับเลขชี้กำลัง และไวรัสระบาดในเกือบทุกประเทศทั่วโลก ขณะที่จำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวในสัปดาห์ที่แล้ว และภายใน 2-3 วันนี้จะถึง 50,000 คน ส่วนผู้ติดเชื้อก็จะแตะหลัก 1 ล้านคน
WHO ยังได้ร่วมกับองค์การอาหารและยา (FAO) และองค์การการค้าโลก (WTO) ออกแถลงการณ์ร่วมเตือนว่า การแตกตื่นซื้ออาหารอาจกระตุ้นให้หลายประเทศออกมาตรการจำกัดการส่งออกและทำให้ตลาดอาหารโลกเกิดการขาดแคลน
ส่วนที่ประเทศเบลเยียมมีรายงานว่า ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นทะลุ 1,000 คน หรือเพิ่มขึ้นเท่าตัวในช่วงเวลาเพียง 3 วัน จากจำนวนผู้ติดเชื้อที่บันทึกอย่างเป็นทางการ 15,348 คน
อย่างไรก็ตาม สถานะประเทศที่มีผู้ติดเชื้อมากที่สุดของโลกของอเมริกา กลับถูกตั้งคำถามจากรายงานของสำนักข่าวบลูมเบิร์กเมื่อวันพฤหัสฯ ที่อ้างอิงความเห็นของพวกสำนักงานข่าวกรองของอเมริกาซึ่งระบุว่า จำนวนผู้ติดเชื้อในจีนแท้จริงแล้วสูงกว่าที่เปิดเผยที่ราว 81,000 คน และผู้เสียชีวิต 3,300 คน
ที่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประเทศมาเลเซียยังคงเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุดด้วยตัวเลข 3,116 คน ในจำนวนนี้เป็นเคสใหม่ที่รายงานเมื่อวันพฤหัสฯ 208 คน
ที่ประเทศฟิลิปปินส์พบผู้ติดเชื้อใหม่ 322 คน เป็น 2,633 คน และผู้เสียชีวิต 11 คน เป็น 322 คน ฟรานซิสโก ดูเก รัฐมนตรีสาธารณสุข เรียกร้องให้ประชาชนงดออกจากบ้าน ขณะที่เกาะลูซอนซึ่งเป็นเกาะหลัก อยู่ภายใต้มาตรการกักกันโรคนานหนึ่งเดือน
ส่วนประเทศไทย น.พ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) แถลงข่าว สถานการณ์ประจำระบุว่า ประเทศไทยพบจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 104 ราย รวมยอดสะสม 1,875 ราย เสียชีวิตเพิ่มอีก 3 ราย รวมผู้เสียชีวิตสะสม 15 ราย และรักษาหายกลับบ้าน รวม 505 ราย
ทางเอเชียใต้ มีความเป็นห่วงว่า ประเทศอินเดียอาจกลายเป็นระเบิดเวลาลูกใหม่ โดยมีการรายงานยอดผู้ติดเชื้อจนถึงวันพุธเพิ่มขึ้นสูงสุดในวันเดียวกว่า 50% เป็น 1,965 คน และผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 50 คน นอกจากนั้นทางการกำลังเร่งติดตามประชาชน 9,000 คนที่เข้าร่วมกิจกรรมของผู้เผยแพร่ศาสนามุสลิมกลุ่มตาบลิกี จามัตในย่านที่มีคนอยู่อาศัยแออัดของกรุงเดลีเมื่อเดือนที่แล้ว และมีบางคนถูกตรวจพบว่าติดเชื้อ
ในจำนวนนี้มี 2,300 คน ซึ่งรวมถึงชาวบังคลาเทศ อินโดนีเซีย และมาเลเซีย ที่ยังอยู่ในหอพักของทาบลิกีเนื่องจากทางการประกาศมาตรการล็อกดาวน์ทั่วประเทศเมื่อวันที่ 24 มีนาคม และถูกส่งไปยังศูนย์กักกันในเดลีตั้งแต่ 2-3 วันที่แล้ว
เรื่องผลกระทบต่อการแข่งขันกีฬา นอกจากทำให้โตเกียว โอลิมปิก 2020 ต้องเลื่อนออกไปเป็นปีหน้าแล้ว ไวรัสโคโรนายังทำให้ผู้จัดการแข่งขันเทนนิสวิมเบิลดันในอังกฤษออกมาประกาศเลื่อนการแข่งขันเป็นครั้งแรกนับจากสงครามโลกครั้งที่ 2
อย่างไรก็ตาม ผลกระทบต่อวงการกีฬาอาจเทียบไม่ได้กับความยากลำบากที่ประชาชนในประเทศยากจนต้องเผชิญ รวมถึงผลกระทบทางเศรษฐกิจจากมาตรการล็อกดาวน์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (2 เม.ย.) เมื่อเวลา 21.00 น. ตามเวลาประเทศไทย worldometers เว็บไซต์รวมสถานการณ์โรคโควิด -19 แบบเรียลไทม์ ได้เผยแพร่ข้อมูลผู้ติดเชื้อทั่วโลกว่า มีจำนวนเพิ่มขึ้นตลอดเวลา โดยพบผู้ติดเชื้อรวม 961,725 คน และเสียชีวิต 49,165 คน รักษาหาย 203,190 คน โดยยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ทั่วโลกของวันที่ 1 เม.ย.อยู่ที่ 26,528 คน
โดยที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ถือเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อมากที่สุดเป็นอันดับ 1 ของโลก จำนวน 215,395 คน และมีผู้เสียชีวิตในสรัฐฯแล้ว 5,113 ราย
ขณะที่ประเทศอิตาลียังเป็นชาติที่พบผู้เสียชีวิตมากที่สุดในโลก ด้วยจำนวน 13,155 คน จากผู้ติดเชื้อ 110,574 คน ตามมาด้วยประเทศสเปน ที่เสียชีวิตแล้ว 10,003 ราย จากผู้ติดเชื้อ 110,238 คน ซึ่งเพิ่มขึ้นเมื่อวันที่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมา ถึง 6,120 คน และเสียชีวิตในวีนเดียวกัน 616 ราย
ส่วนประเทศจีน มียอดผู้ติดเชื้อรวม 81,589 คน โดยเป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 35 คน ยอดเสียชีวิตอยู่ที่ 3,318 ราย เพิ่มจากเดิม 6 ราย
รายงานข่าวแจ้งว่า รัฐนิวยอร์กเป็นศูนย์กลางของสหรัฐฯ ในการต่อสู้กับโรคระบาดใหญ่ หลัง แอนดรูว์ คูโอโม ผู้ว่าการรัฐเผยว่าในรัฐแห่งนี้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 1,900 คน ทั้งนี้ชาวอเมริกันราว 8 ใน 10 คน เวลานี้อยู่ภายใต้คำสั่งกักตัวเองอยู่แต่ในบ้าน โดยเจ้าหน้าที่ทั้งในระดับรัฐและท้องถิ่น ในความพยายามยับยั้งการแพร่ระบาด
อย่างไรก็ตามมีรายงานจาก ทำเนียบขาว ที่ประเมินว่าท้ายที่สุดอาจมีผู้ที่อาศียในสหรัฐฯ เสียชีวิตจากวิกฤตการณ์ครั้งนี้ถึง 240,000 คน ซึ่ง ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แถลงยอมรับว่า สถานการณ์จะต้องเลวร้ายลงไปอีก แต่ยืนยันว่า คนอเมริกันจะไม่สิ้นหวังหรือพ่ายแพ้ให้แก่ความหวาดกลัว
หนึ่งในผู้เสียชีวิตล่าสุดคือ ทารกวัย 6 สัปดาห์ที่ถูกนำส่งโรงพยาบาลในรัฐคอนเนตทิกัตเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
จากที่เคยเชื่อกันว่า ไวรัสโคโรนาจะเป็นอันตรายอย่างยิ่งสำหรับผู้สูงวัยและผู้ที่มีโรคประจำตัว แต่จากหลายเคสล่าสุดตอกย้ำว่า ไวรัสร้ายสามารถคร่าวีวิตทุกเพศทุกวัย
ในบรรดาเหยื่อที่มีอายุน้อย มีอาทิ เด็กวัย 16 ปีในฝรั่งเศส, เด็กวัย 12 ปีในเบลเยียม และเด็กวัย 13 ปีในอังกฤษ
เทดรอส แอดฮานอม เกเบรเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก (WHO) กล่าว ว่า ในช่วง 5 สัปดาห์ที่ผ่านมาจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่มีการเพิ่มขึ้นเกือบถึงระดับเลขชี้กำลัง และไวรัสระบาดในเกือบทุกประเทศทั่วโลก ขณะที่จำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวในสัปดาห์ที่แล้ว และภายใน 2-3 วันนี้จะถึง 50,000 คน ส่วนผู้ติดเชื้อก็จะแตะหลัก 1 ล้านคน
WHO ยังได้ร่วมกับองค์การอาหารและยา (FAO) และองค์การการค้าโลก (WTO) ออกแถลงการณ์ร่วมเตือนว่า การแตกตื่นซื้ออาหารอาจกระตุ้นให้หลายประเทศออกมาตรการจำกัดการส่งออกและทำให้ตลาดอาหารโลกเกิดการขาดแคลน
ส่วนที่ประเทศเบลเยียมมีรายงานว่า ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นทะลุ 1,000 คน หรือเพิ่มขึ้นเท่าตัวในช่วงเวลาเพียง 3 วัน จากจำนวนผู้ติดเชื้อที่บันทึกอย่างเป็นทางการ 15,348 คน
อย่างไรก็ตาม สถานะประเทศที่มีผู้ติดเชื้อมากที่สุดของโลกของอเมริกา กลับถูกตั้งคำถามจากรายงานของสำนักข่าวบลูมเบิร์กเมื่อวันพฤหัสฯ ที่อ้างอิงความเห็นของพวกสำนักงานข่าวกรองของอเมริกาซึ่งระบุว่า จำนวนผู้ติดเชื้อในจีนแท้จริงแล้วสูงกว่าที่เปิดเผยที่ราว 81,000 คน และผู้เสียชีวิต 3,300 คน
ที่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประเทศมาเลเซียยังคงเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุดด้วยตัวเลข 3,116 คน ในจำนวนนี้เป็นเคสใหม่ที่รายงานเมื่อวันพฤหัสฯ 208 คน
ที่ประเทศฟิลิปปินส์พบผู้ติดเชื้อใหม่ 322 คน เป็น 2,633 คน และผู้เสียชีวิต 11 คน เป็น 322 คน ฟรานซิสโก ดูเก รัฐมนตรีสาธารณสุข เรียกร้องให้ประชาชนงดออกจากบ้าน ขณะที่เกาะลูซอนซึ่งเป็นเกาะหลัก อยู่ภายใต้มาตรการกักกันโรคนานหนึ่งเดือน
ส่วนประเทศไทย น.พ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) แถลงข่าว สถานการณ์ประจำระบุว่า ประเทศไทยพบจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 104 ราย รวมยอดสะสม 1,875 ราย เสียชีวิตเพิ่มอีก 3 ราย รวมผู้เสียชีวิตสะสม 15 ราย และรักษาหายกลับบ้าน รวม 505 ราย
ทางเอเชียใต้ มีความเป็นห่วงว่า ประเทศอินเดียอาจกลายเป็นระเบิดเวลาลูกใหม่ โดยมีการรายงานยอดผู้ติดเชื้อจนถึงวันพุธเพิ่มขึ้นสูงสุดในวันเดียวกว่า 50% เป็น 1,965 คน และผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 50 คน นอกจากนั้นทางการกำลังเร่งติดตามประชาชน 9,000 คนที่เข้าร่วมกิจกรรมของผู้เผยแพร่ศาสนามุสลิมกลุ่มตาบลิกี จามัตในย่านที่มีคนอยู่อาศัยแออัดของกรุงเดลีเมื่อเดือนที่แล้ว และมีบางคนถูกตรวจพบว่าติดเชื้อ
ในจำนวนนี้มี 2,300 คน ซึ่งรวมถึงชาวบังคลาเทศ อินโดนีเซีย และมาเลเซีย ที่ยังอยู่ในหอพักของทาบลิกีเนื่องจากทางการประกาศมาตรการล็อกดาวน์ทั่วประเทศเมื่อวันที่ 24 มีนาคม และถูกส่งไปยังศูนย์กักกันในเดลีตั้งแต่ 2-3 วันที่แล้ว
เรื่องผลกระทบต่อการแข่งขันกีฬา นอกจากทำให้โตเกียว โอลิมปิก 2020 ต้องเลื่อนออกไปเป็นปีหน้าแล้ว ไวรัสโคโรนายังทำให้ผู้จัดการแข่งขันเทนนิสวิมเบิลดันในอังกฤษออกมาประกาศเลื่อนการแข่งขันเป็นครั้งแรกนับจากสงครามโลกครั้งที่ 2
อย่างไรก็ตาม ผลกระทบต่อวงการกีฬาอาจเทียบไม่ได้กับความยากลำบากที่ประชาชนในประเทศยากจนต้องเผชิญ รวมถึงผลกระทบทางเศรษฐกิจจากมาตรการล็อกดาวน์