เอเจนซีส์ - ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วโลก จ่อแตะหลักล้านคนในอีกวันสองวันนี้ ขณะที่จำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็นมากกว่า 46,000 คน โดยทารกวัย 6 สัปดาห์ กลายเป็นหนึ่งในเหยื่ออายุน้อยที่สุด นอกจากนั้น ยังมีคำเตือนจากผู้เชี่ยวชาญ ว่า มาตรการล็อกดาวน์ที่ทำให้คนแตกตื่นซื้ออาหาร ยังอาจทำให้โลกขาดแคลนอาหาร เพราะรัฐบาลของชาติผู้ผลิตอาหารต่างถูกบีบให้จำกัดการส่งออก
เว็บไซต์ติดตามสถานการณ์การระบาดโควิด-19 แบบออนไลน์ ของมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ ระบุเมื่อตอนดึกวันพุธ (1 เม.ย.) เวลาในอเมริกา หรือตรงกับตอนสายวันพฤหัสบดี (2) เวลาเมืองไทย ว่า สหรัฐฯมีผู้เสียชีวิตจากไวรัสนี้ทะลุหลัก 5,000 คน แล้ว ขณะที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แถลงยอมรับว่า สถานการณ์จะต้องเลวร้ายลงไปอีก แต่ยืนยันว่า คนอเมริกันจะไม่สิ้นหวังหรือพ่ายแพ้ให้แก่ความหวาดกลัว
หนึ่งในผู้เสียชีวิตล่าสุด คือ ทารกวัย 6 สัปดาห์ ที่ถูกนำส่งโรงพยาบาลในรัฐคอนเนตทิกัตเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
จากที่เคยเชื่อกันว่า ไวรัสโคโรนาจะเป็นอันตรายอย่างยิ่งสำหรับผู้สูงวัยและผู้ที่มีโรคประจำตัว แต่จากหลายเคสล่าสุดตอกย้ำว่า ไวรัสร้ายสามารถเข่นฆ่าคนทุกเพศทุกวัย
ในบรรดาเหยื่อที่มีอายุน้อย มีอาทิ เด็กวัย 16 ปีในฝรั่งเศส, เด็กวัย 12 ปีในเบลเยียม และเด็กวัย 13 ปีในอังกฤษ
เทดรอส แอดฮานอม เกเบรเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก (ฮู) กล่าวในการแถลงวันพุธ (1) ว่า ในช่วง 5 สัปดาห์ที่ผ่านมา จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่มีการเพิ่มขึ้นเกือบถึงระดับเลขชี้กำลัง และไวรัสระบาดในเกือบทุกประเทศทั่วโลก ขณะที่จำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวในสัปดาห์ที่แล้ว และภายใน 2-3 วันนี้จะถึง 50,000 คน ส่วนผู้ติดเชื้อก็จะแตะหลัก 1 ล้านคน
ในวันพุธ องค์การอนามัยโลก ยังได้ร่วมกับองค์การอาหารและยา (เอฟเอโอ) และ องค์การการค้าโลก (ดับเบิลยูทีโอ) ออกแถลงการณ์ร่วมเตือนว่า การแตกตื่นซื้ออาหารอาจกระตุ้นให้หลายประเทศออกมาตรการจำกัดการส่งออกและทำให้ตลาดอาหารโลกเกิดการขาดแคลน
ทางด้านยุโรปนั้น อังกฤษ และ ฝรั่งเศส รายงานยอดผู้เสียชีวิตสูงสุดในรอบวันเมื่อวันพุธ ถึงแม้มีสัญญาณว่า การระบาดในยุโรปอาจถึงจุดสูงสุดแล้วก็ตาม
สำหรับยอดผู้เสียชีวิตในอิตาลีที่กำลังเป็นประเทศที่ตายสูงที่สุดในโลกนั้น เพิ่มขึ้นเป็นกว่า 13,000 คน และสเปนก็ทะลุเกิน 9,000 คน ส่วนเบลเยียมรายงานเมื่อวันพฤหัสฯ (2) ว่า มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นทะลุ 1,000 คน หรือเพิ่มขึ้นเท่าตัวในช่วงเวลาเพียง 3 วัน จากจำนวนผู้ติดเชื้อที่บันทึกอย่างเป็นทางการ 15,348 คน
ส่วนสหรัฐฯซึ่งกลายเป็นประเทศที่มีการระบาดรุนแรงที่สุดไปแล้วอย่างรวดเร็ว โดยยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 216,000 คน
เวลานี้ชาวอเมริกันกว่า 3 ใน 4 อยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์ ซึ่งรวมถึงนักโทษแสนกว่าคนที่จะถูกจำกัดให้อยู่ในห้องขังของตนเองนาน 14 วัน
รัฐนิวยอร์กประกาศปิดสนามเด็กเล่นและสนามบาสเกตบอล ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อของรัฐนี้ยังพุ่งทะยานไม่หยุด
อย่างไรก็ตาม สถานะประเทศที่มีผู้ติดเชื้อมากที่สุดของโลกของอเมริกา กลับถูกตั้งคำถามจากรายงานของสำนักข่าวบลูมเบิร์ก เมื่อวันพฤหัสฯ ที่อ้างอิงความเห็นของพวกสำนักงานข่าวกรองของอเมริกา ซึ่งระบุว่า จำนวนผู้ติดเชื้อในจีนแท้จริงแล้วสูงกว่าที่เปิดเผยที่ราว 81,000 คน และผู้เสียชีวิต 3,300 คน
ส่วนที่จีนขณะนี้มีการล็อกดาวน์อำเภอหนึ่งในมณฑลเหอหนาน ที่มีประชาชน 600,000 คน หลังจากบุคคลหนึ่งเดินทางเข้าไปในอำเภอนั้นและถูกตรวจพบในเวลาต่อมาว่าติดเชื้อ ซึ่งตอกย้ำความกังวลว่า อาจจะเกิดการระบาดระลอกสองในจีน
ที่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มาเลเซียยังคงเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุดด้วยตัวเลข 3,116 คน ในจำนวนนี้เป็นเคสใหม่ที่รายงานเมื่อวันพฤหัสฯ 208 คน
ฟิลิปปินส์พบผู้ติดเชื้อใหม่ 322 คน เป็น 2,633 คน และผู้เสียชีวิต 11 คน เป็น 322 คน ฟรานซิสโก ดูเก รัฐมนตรีสาธารณสุข เรียกร้องให้ประชาชนงดออกจากบ้าน ขณะที่เกาะลูซอนซึ่งเป็นเกาะหลัก อยู่ภายใต้มาตรการกักกันโรคนานหนึ่งเดือน
ทางเอเชียใต้ อินเดียอาจกลายเป็นระเบิดเวลาลูกใหม่ โดยมีการรายงานยอดผู้ติดเชื้อจนถึงวันพุธเพิ่มขึ้นสูงสุดในวันเดียวกว่า 50% เป็น 1,965 คน และผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 50 คน นอกจากนั้น ทางการกำลังเร่งติดตามประชาชน 9,000 คน ที่เข้าร่วมกิจกรรมของผู้เผยแพร่ศาสนามุสลิมกลุ่มตาบลิกี จามัตในย่านที่มีคนอยู่อาศัยแออัดของกรุงเดลีเมื่อเดือนที่แล้ว และมีบางคนถูกตรวจพบว่าติดเชื้อ
ในจำนวนนี้มี 2,300 คน ซึ่งรวมถึงชาวบังกลาเทศ อินโดนีเซีย และ มาเลเซีย ที่ยังอยู่ในหอพักของทาบลิกี เนื่องจากทางการประกาศมาตรการล็อกดาวน์ทั่วประเทศ เมื่อวันที่ 24 มีนาคม และถูกส่งไปยังศูนย์กักกันในเดลีตั้งแต่ 2-3 วันที่แล้ว
เรื่องผลกระทบต่อการแข่งขันกีฬา นอกจากทำให้โตเกียว โอลิมปิก 2020 ต้องเลื่อนออกไปเป็นปีหน้าแล้ว ไวรัสโคโรนายังทำให้ผู้จัดการแข่งขันเทนนิสวิมเบิลดันในอังกฤษออกมาประกาศเลื่อนการแข่งขันเป็นครั้งแรกนับจากสงครามโลกครั้งที่ 2
อย่างไรก็ตาม ผลกระทบต่อวงการกีฬาอาจเทียบไม่ได้กับความยากลำบากที่ประชาชนในประเทศยากจนต้องเผชิญ รวมถึงผลกระทบทางเศรษฐกิจจากมาตรการล็อกดาวน์