xs
xsm
sm
md
lg

เก่งนักรึไง?..ไอ้วายร้ายโควิด! ชะตาชีวิตเจ้าอยู่ในมือพวกข้าฯแล้ว / พลโทนายแพทย์ สมศักดิ์ เถกิงเกียรติ

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



คอลัมน์ “Golf Healing” โดย “พลโทนายแพทย์ สมศักดิ์ เถกิงเกียรติ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านกระดูกประจำโรงพยาบาลพระมงกุฎ และ โรงพยาบาลรามคำแหง มีประสบการณ์ในการดูแลผู้ป่วยมากกว่า 30 ปี somsak_doctor@hotmail.com”

​คุณชูสง่านั่งจ้องจอโทรศัพท์ขณะที่รองปลัดสธ.กำลังแสดงกราฟ ผู้ติดเชื้อโควิด19อย่างใจจดใจจ่อ สรุปว่าเส้นกราฟขึ้นสูงแบบแนวตั้งหรือจะเบนออกทางราบ ขณะนี้อยู่ในมือของพวกเราชาวไทยแล้ว “แต่เฮียยังสับสนกับแนวปฏิบัติของทางการมากนะ ยังไม่เป็นรูปธรรม” “ใช่ครับเฮีย” พี่หมอรับคำ “แต่ตอนนี้ผมมีคลิปนี้ในมือจะให้เฮียดูเป็นแนวทางก่อน..เป็นบางส่วนของคำแถลงข่าวของ นางอังเกลา แมร์เคิล สมุหนายกแห่งสาธารณรัฐเยอรมัน เมื่อ 19 มี.ค. 2020 ซึ่งแปลโดย ธีรภัทร เจริญสุข ซึ่งแปลได้จับใจมาก

​“ต่อจากนี้ เป็นเรื่องด่วนที่สุดสำหรับข้าพเจ้า มาตรการทั้งหมดที่รัฐบาลดำเนินการล้วนมีจุดประสงค์ หากเราไม่ใช้มาตรการที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการหยุดยั้งการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วของไวรัส คือพวกเราทุกคนสามารถติดเชื้อไวรัสได้อย่างเท่าเทียมไม่แตกต่างกัน ดังนั้นเราต้องช่วยกัน

​อันดับแรก เราจึงต้องจริงจังแต่ไม่ตื่นตระหนก ไม่โทษกันเองว่าไม่ทำตามบทบาท เพราะทุกคนนั้นขาดไปไม่ได้ ทุกคนล้วนสำคัญต้องอาศัยความพยายามของพวกเราทุกคนไปพร้อมกัน “โรคระบาดครั้งนี้ทำให้เราเห็นว่าเราอ่อนแอเปราะบางแค่ไหน” เราต้องพึ่งพาอาศัยผู้อื่นมากเพียงใด

​แต่ก็เป็นโอกาสให้เราป้องกันตัวเองและคุ้มครองผู้อื่นสร้างความเข้มแข็งร่วมกัน ทุกคนมีความสำคัญ เราต้องไม่ถูกประณามว่ารับมือกับการแพร่ระบาดของไวรัสอย่างเฉื่อยชา เรามีวิธีแก้ไขรักษา แม้เราจะต้องเว้นระยะห่างระหว่างกัน ข้อแนะนำของนักไวรัสวิทยานั้นชัดเจน ไม่จับมือ ล้างทำความสะอาดมืออย่างสม่ำเสมอ อยู่ห่างกันอย่างน้อย 1.5 เมตร งดเว้นติดต่อกับผู้อาวุโส เพราะพวกท่านมีความเสี่ยงสูงสุด ข้าพเจ้าทราบดีว่ามาตรการดังกล่าวนั้น ยากลำบากยิ่งนัก โดยเฉพาะในห่วงเวลาที่กดดัน เรายิ่งอยากอยู่ร่วมกันใกล้ชิด อยากดูแลกันอย่างใกล้ชิด แต่ในเวลานี้น่าเสียดายที่การทำตรงกันข้ามเป็นสิ่งที่ถูกต้องกว่า เราจำเป็นต้องเข้าใจว่าตอนนี้การห่างไกลกัน คือ การแสดงความห่วงใย การเยี่ยมเยียน การเดินทางที่ไม่จำเป็น ล้วนแล้วแต่อาจทำให้ติดเชื้อได้ และไม่ควรเกิดขึ้นในเวลานี้และนี่คือเหตุผลที่ผู้เชียวชาญกล่าวว่า ปู่ย่าตายายและหลานๆยังไม่ควรเจอกัน ผู้ที่หลีกเลี่ยงการพบปะโดยไม่จำเป็นจะช่วยเหล่าผู้คนที่ยังทำงานในโรงพยาบาลที่กำลังดูแลผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นทุกวันนี่คือวิธีที่เราจะช่วยรักษาชีวิตคนได้ ในตอนนี้ได้มีวิธีการมากมายที่สร้างสรรค์เพื่อต่อสู้กับไวรัสและผลกระทบทางสังคมมีเหล่าหลานๆที่บันทึกพ็อตแคสต์ส่งต่อให้ปู่ย่าตายายของพวกเขาได้ฟัง ให้รู้ว่าพวกท่านไม่ได้อยู่ตามลำพัง เราทุกคนจะแสดงความรักและมิตรภาพ ผ่านสไกป์ โทรศัพท์ อีเมลล์ หรือแม้แต่กลับมาเขียนจดหมายกันอีกครั้ง มีข่าวเล่าถึงการช่วยเหลือเพื่อนบ้านสูงอายุที่ไม่สามารถออกไปซื้อของได้ด้วยตนเอง ข้าพเจ้าแน่ใจว่าจะมีมากยิ่งไปกว่านี้อีก! เราจะแสดงให้เห็นว่าในความเป็นสังคม เราจะไม่ทิ้งให้ใครอยู่เพียงลำพังคนเดียว

​ข้าพเจ้าร้องขอต่อท่านว่า โปรดจงได้เคารพกฎที่กำลังจะออกมาต่อแต่นี้ เราในฐานะรัฐบาล จะตรวจสอบ แก้ไขอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ทันต่อเหตุการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว และเราจะทบทวนตอบสนองมาตรการต่างๆ เพื่อให้ทำงานได้ในทุกกรณี และแน่นอนกว่า เราจะอธิบายให้ทุกท่านรับทราบในทันที

​ด้วยเหตุฉะนี้ ข้าพเจ้าจึงขอย้ำต่อท่านว่า ‘อย่าหลงเชื่อข่าวลือใดๆ!’ นอกจากข่าวสารจากทางการ เราเป็นชาติประชาธิปไตย เราไม่ได้ใช้ชีวิตอย่างถูกบังคับ แต่อยู่ได้โดยการแบ่งปันข้อมูลความรู้ และความร่วมมือกัน ข้าพเจ้ามั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่า เราจะข้ามผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปได้ แต่ด้วยผู้เสียหายจำนวนเท้าใด? เราจะต้องเสียตนที่เรารักไปมากเท่าไร? คำตอบนั้น อยู่ที่สองมือเราที่ลงมือทำ ในตอนนี้เราจะร่วมคิด ร่วมทำ ไปร่วมกัน เราสามารถยินยอม รับข้อจำกัดต่างๆ แล้วเผชิญหน้าไปพร้อมกัน สถานการณ์ตอนนี้หนักหนา แต่ก็ยังเปิดกว้าง หมายความว่าทุกอย่างขึ้นอยู่กับวินัยของทุกคนที่จะปฏิบัติตามกฎ และดำเนินการให้สอดคล้องกันแม้ว่าเรายังไม่เคยประสบเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน แต่เราจะกระทำอย่างจริงใจ และมีเหตุผล เพื่อที่จะรักษาชีวิตผู้คนไว้ โดยไม่มีข้อยกเว้น ขึ้นอยู่กับเราแต่ละคน แล้เราทุกๆคนได้โปรดดูแลตัวเอง และคนที่ท่านรัก ข้าพเจ้าขอขอบคุณ” อังเกลา แมร์เคิล , สมุหนายกแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี
กำลังโหลดความคิดเห็น