คอลัมน์ EYE ON SPORTS โดย กษิติ กมลนาวิน ราชวังสัน
การสู้รบ ทำสงคราม จนได้บูรณภาพแห่งดินแดนปักปันแบ่งเขตเผ่าพันธุ์ ทำให้เราอยู่ได้แค่ในประเทศของเรา จะเพ่นพ่านเข้าประเทศอื่นต้องขออนุญาต ศาสนาความเชื่อแบ่งผู้คนคร่อมมันลงไปอีกโดยไม่สนต่อเขตแดนรัฐใด ทำให้ กฎหมาย กติกา ข้อบังคับของชาตินั้นๆดันใช้ไม่ได้เมื่อมีความเชื่อต่างกัน องค์กรกีฬาโลกยังขีดเขียนแบ่งโซนทวีปและกฎเกณฑ์ตามใจชอบ ห้ามอำนาจรัฐยุ่งเกี่ยว สุดท้าย โรคร้ายที่ชื่อ โควิด-19 ไม่เลือกชาติภาษาดับซ่ากิจกรรมของมวลมนุษย์ทั่วโลก จำกัดระยะของแต่ละคนเข้าใกล้กันได้แค่ 2 เมตร ไม่ต้องสัมผัสตัวกัน แทบจะต้องอยู่แต่ในบ้าน ใครฝ่าฝืนข้อนี้ รับความเสี่ยงเอาเอง
สืบเนื่องจากการแพร่กระจายไปทั่วโลกอย่างรวดเร็วของ โรคติดเชื้อโคโรนา วายรัส 2019 (Coronavirus Disease 2019 - COVID-19) วงการกีฬาทั่วโลกจำเป็นต้องตัดสินใจออกมาตรการยกเลิกการแข่งขันรายการต่างๆเพื่อหลีกเลี่ยงมิให้แฟนๆมารวมตัวกันเป็นจำนวนมาก แต่บางรายการหากยกเลิกไปจะเกิดความเดือดร้อนเสียหายหนักมาก โดยเฉพาะ เงินที่รับจากเขามาแล้วคือ ค่าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดการแข่งขันมูลค่ามหาศาลที่ขายไปทั่วโลก จึงต้องยอมให้แข่งขันกันต่อไป หากแต่ดำเนินการในระบบปิด ไม่มีผู้ชมในสนาม ให้แฟนๆรับชมทางหน้าจอแทน
งานนี้ผู้ดำเนินการถ่ายทอดการแข่งขันทั้งทางโทรทัศน์หรือทาง ออน ลายน์ ที่เรียกว่า สตรีมมิ่ง (Streaming) ได้รับผลกระทบเต็มๆ เพราะเป็นช่องทางตรงๆที่แฟนกีฬาต้องพึ่งพิง หากโรคติดต่อดังกล่าวยังอาละวาดไม่หยุด การเจรจาซื้อ-ขายลิขสิทธิ์ถ่ายทอดการแข่งขันในอนาคตจะมีราคาสูงกว่านี้อีก ในขณะที่คนทำงานตามสนามกีฬาอาจต้องเสียโอกาสตกงานหรือไปหาอย่างอื่นทำแทน ไม่ว่าพนักงานขายตั๋ว ทำความสะอาด รปภ. พ่อค้า แม่ค้า ขายอาหารและเครื่องดื่ม หรือ ตั๋วผี
เมื่อไม่มีผู้ชมในสนาม แล้วจะมีการแข่งขันในระบบ เหย้า-เยือน ไปทำไม เพราะแม้ว่าการผลัดกันเป็นเจ้าบ้านนั้นเป็นการเปิดโอกาสให้คู่ต่อกรได้แสดงความสามารถบนสภาพพื้นผิวและสภาพอากาศที่ตนคุ้นเคย ฯลฯ แต่เหตุผลที่สำคัญยิ่งกว่านั้นก็คือ แฟนๆของเจ้าบ้านนั่นแหละที่จะแห่เข้ามาเป็นกำลังใจอย่างล้นหลาม อันนี้ย่อมดีกว่าการจัดแข่งขันในสนามเป็นกลางแน่ๆ เพราะคนท้องถิ่นไม่เห็นจะมีผลประโยชน์ในชัยชนะของทีมใดเลย
เมื่อไม่มีผู้ชมในสนาม ทีมเจ้าบ้านย่อมเก็บค่าเข้าชมไม่ได้ สหพันธ์กีฬาคงต้องพิจารณาหามาตรการชดเชยรายได้ที่ขาดหายไป เพราะนักกีฬาของแต่ละทีมนี่แหละครับ คือตัวละครที่แฟนๆให้ความสนใจเฝ้าติดตามชม อันนี้ก็เป็นเรื่องธรรมดาที่สหพันธ์กีฬาก็ต้องหาทางชดเชยรายได้ให้โรงละครต่างๆที่เพียรจ้างตัวละครมาแสดงให้ผู้ชมตามนโยบายของสหพันธ์ฯ แต่ไม่มีสิทธิ์เก็บค่าเข้าชม อย่างที่ สมาคมฟุตบอลของ อังกฤษ กำลังพิจารณาจ่ายเงินชดเชยให้สโมสรต่างๆ
เมื่อไม่มีผู้ชมในสนาม การจัดวางกล้องโทรทัศน์ถ่ายทอดการแข่งขันตามตำแหน่งต่างๆภายในสนามกีฬาก็ควรต้องมีการปรับเปลี่ยนจุด ผู้กำกับรายการควรคิดพิจารณากันใหม่เพื่อให้ได้มุมมองที่เหมาะสม อย่างน้อยก็ต้องพยายามหลีกเลี่ยงภาพบนอัฒจันทร์ที่ว่างเปล่า ที่รังแต่จะสร้างบรรยากาศเงียบเหงา หดหู่ ขาดความคึกคัก
เมื่อไม่มีผู้ชมในสนาม การแข่งขันย่อมขาดสีสันจากแฟนกีฬาที่เรามักได้เห็นจากการถ่ายทอดการแข่งขัน อย่างเช่นช่างกล้องในต่างประเทศ โดยเฉพาะ ฝรั่งเศส ที่ชอบจับภาพแฟนกีฬาสาวสวย บางคนมีรูปร่าง หน้าตา หรือการแต่งกายที่โดดเด่น สิ่งนี้นับเป็นสีสันที่กลายเป็นองค์ประกอบของการแข่งขันไปแล้ว
เสียงเชียร์ที่ดังกระหึ่ม สร้างความฮึกเหิม พาขนลุก ขวัญผวา นับเป็นแรงกดดันอย่างหนักจากแฟนกีฬาเจ้าถิ่นที่ส่งตรงถึงผู้ตัดสิน ทำให้ผู้ตัดสินไม่กล้าตัดสินใจอย่างเด็ดขาดในสิ่งที่เป็นโทษต่อทีมเจ้าบ้าน โทษหนักจะกลายเป็นเบาหรือไม่มีโทษเลย แต่หากสิ่งนั้นเป็นโทษต่อทีมเยือน เสียงตะโกนด่าฮึ่มๆอย่างกึกก้องของกองเชียร์ก็จะบีบคั้นให้กรรมการตัดสินใจได้ง่ายขึ้น ซึ่งเมื่อไม่มีผู้ชมในสนาม ความได้เปรียบของทีมเจ้าบ้านก็จะลดน้อยลงอย่างมาก ผู้ตัดสินไม่ต้องลำเอียงโดยสุจริตอีกต่อไป นอกจากนั้น การแข่งขันจะกลายเป็นคนละอารมณ์อย่างแน่นอน เมื่อไม่มีเสียงเชียร์ที่คอยสร้างความฮึกเหิมเป็นแรงกระตุ้นนักกีฬาให้ทำความเร็วเหนือกว่าปกติ ทำสกอร์อย่างมหัศจรรย์ รวมทั้ง การขุดเอาเรี่ยวแรงพิเศษชนิดแบกโอ่งหนีไฟไหม้คงไม่มีโอกาสได้เห็นกันอีกแล้วครับ
