ในขณะที่ “อิแทวอน คลาส” (Itaewon Class) เดินหน้าเก็บกวาดความนิยมและเสียงชื่นชมจากคนดู ด้วยเรื่องราวแห่งการดิ้นรนต่อสู้เพื่อการมี “ที่อยู่-ที่ยืน ในสังคม” ของเหล่าตัวละครในย่าน “อิแทวอน” ซึ่งสะท้อนความเป็นไปของคนรุ่นใหม่ที่พักอาศัยอยู่ในกรุงโซลได้เป็นอย่างดี
อย่างไรก็ดี ก่อนหน้านี้ไม่นานนัก มีซีรี่ส์เกาหลีอีกเรื่องที่ชนะคนดูไม่น้อยไปกว่ากัน นั่นก็คือ Crash Landing on You ซึ่งออนแอร์ทางช่อง tvN พร้อมทั้งแขวนบนเน็ทฟลิกซ์ เรียกยอดคลิกจากคนดูไปอย่างท่วมท้น
เหตุผลแรก ๆ ที่คิดว่าน่าจะอธิบายถึงความนิยมชมชอบที่คนดูมอบให้กับซีรี่ส์เรื่องนี้ได้ดี ย่อมหนีไม่พ้น “โมเมนต์น่ารัก ๆ” ที่หนังหยอดเข้ามาอยู่เรื่อย ๆ บางคนถึงกับบอกว่า “ดูแล้วเขินตีลังกา 15 ตลบ” ซึ่งนั่นก็ไม่เกินจริงแต่อย่างใด เพราะซีรี่ส์สามารถส่งผ่านความน่ารักนั้นแทรกซึมเข้าไปในหัวใจของคนดูผู้ชมได้จริง ๆ
ทั้งนี้ ความน่ารักดังกล่าว คงต้องยกความดีความชอบให้กับ 2 ดารานำ ทั้ง “ฮยอนบิน” และ “ซนเยจิน” ที่ร่วมกันถ่ายทอดบทบาทการแสดงให้คน “อิน” และ “ฟิน” กับเรื่องราวได้อย่างดียิ่ง
“ซนเยจิน” ในซีรี่ส์เรื่องนี้ เธอคือสตรีที่มากความสามารถ ทั้งสมาร์ท ฉลาด และสะสวย เพอร์เฟคต์ตามแบบฉบับของ Working Woman ที่เป็นถึงผู้ก่อตั้งและประธานบริษัทระดับท็อปของประเทศ แต่แล้วก็เกิดเหตุไม่คาดคิด เมื่อเธอเล่น “ร่มร่อน” แล้วบังเอิญ เจอลมพายุพัดพาร่มของเธอพลัดลอยไปตกบนเขตแดนของเกาหลีเหนือ
... ที่ที่ทำให้เธอได้พบกับ “สหายผู้กอง”...
“สหายผู้กอง” คือนายทหารที่มีตำแหน่งไม่สูงนัก แต่เอาจริงเอาจังอย่างมากกับการปฏิบัติหน้าที่ภายใต้ชุดลายพราง เขาเป็นคนนิ่ง ๆ ค่อนข้างเคร่งขรึม ตามสไตล์ทหารผู้เคร่งครัด ไม่บ่อยนักที่ลูกน้องในสังกัดจะเห็นเขายิ้ม แต่ทุกครั้งที่เขายิ้ม ก็ราวกับว่าโลกทั้งใบจะสดใสขึ้นมา ซึ่งนี่ก็คงต้องยกยอดให้กับ “ฮยอนบิน” ผู้รับบทบาทนี้ ที่ถือว่าดีพร้อมทั้งหน้าตาและสามารถถ่ายทอดบุคลิกคาแร็กเตอร์ตัวละครนี้ออกมาชนิดที่พูดได้ว่า “ได้ใจ” ไปเต็ม ๆ โดยเฉพาะสาว ๆ ก็น่าจะชอบตัวละครตัวนี้มาก
ไม่ว่าจะอย่างไร...ใน “เรื่องรัก” ก็มี “เรื่องราว”...
เพราะในขณะที่ซีรี่ส์ดำเนินเรื่องไปในแต่ละตอน เราจะได้เห็น “บริบท” และ “ปัญหา” ที่เกิดกับตัวละครทั้งสองฝั่ง ไม่ว่าจะเป็นฝั่งของนางเอกที่เราจะได้รู้ตั้งแต่เอพิโสดแรก ๆ แล้วว่า โลกที่เธอกำลังแบกรับอยู่นั้น หนักหนาไม่ธรรมดา ส่วนฝั่งของ “สหายผู้กอง” ตอนแรก ๆ อาจจะดูเหมือนไม่ค่อยมีอะไร แต่จริง ๆ แล้ว กลับมีแบ็กกราวน์ภูมิหลังที่ก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน
ปัญหาและบริบททั้งหมดทั้งมวลนั้น เหมือนถูกเขียนขึ้นมาเพื่อจะเล่นกับความรู้สึกของคนดูว่า สุดท้ายแล้ว ปลายทางของตัวละครทั้งสองจะเดินไปสู่จุดไหน หัวใจสองดวง จะหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวได้หรือไม่?
... เมื่อช่วงต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา มีนักข่าวออนไลน์ของเกาหลีเหนือเผยแพร่บทความในทำนองโจมตีซีรี่ส์เรื่องนี้อย่างรุนแรง เพราะเห็นว่าเนื้อหาที่ซีรี่ส์นำเสนอนั้น ถือเป็นการ “หยามเกียรติต่อประชาชนเกาหลีเหนือ” และ “ยอมรับไม่ได้”
แน่นอนว่า นั่นไม่ใช่สิ่งที่เข้าใจไม่ได้ ทั้งนี้ก็เพราะว่าเนื้อหาบางส่วนที่ Crash Landing on You นำมา “แต่งปรุง” ให้ตัวเรื่องนั้น มีการเอ่ยถึง “ด้านมืด” บางประการในถิ่นเหนือ ทั้งการลักลอบขายสินค้าต้องห้าม หรือแม้กระทั่งการใช้อำนาจอิทธิพลเพื่อแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม ซึ่งถ้ามองแบบใจเขาใจเรา ก็ต้องยอมรับว่า คงไม่มีใครอยากให้ภาพลักษณ์ของประเทศตนเองออกไปสู่สายตาชาวโลกในทางที่ไม่ดี
อย่างไรก็ดี ถ้ามองด้วยสายตาอันเป็นธรรมต่อซีรี่ส์ ก็คงจะพูดเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้ว่า มันคือเรื่องแต่ง มันคือละคร และในส่วนที่พูดถึงด้านดีก็มีอยู่มาก อีกทั้งซีรี่ส์ก็มีการขึ้นข้อความออกตัวไว้ตั้งแต่ตอนต้นของทุก ๆ เอพิโสดว่า “ตัวละคร สถานที่ องค์กร และเหตุการณ์ต่าง ๆ เป็นเรื่องสมมติ”
จุดหนึ่งซึ่งถือว่า น่าสนใจมาก ๆ ก็คือ การที่ซีรี่ส์จงใจให้ตัวเอกทั้งฝ่ายชายและฝ่ายหญิง อยู่คนละฟากฝั่ง และมันก็ไม่ใช่เรื่องบังเอิญแต่อย่างใด ที่เมื่อเราดูซีรี่ส์เรื่องนี้ไปเรื่อย ๆ จนจบครบทุกตอน เราจะได้ยินเสียงเสียงหนึ่งซึ่งคลอไปพร้อมเรื่องราว ซึ่งถ้าจะกล่าวให้ตรงจุด มันก็คือ “เสียงแห่งความหวัง” บางประการที่เป็น “ความรู้สึกในแง่บวก” โดยมีเรื่องรักข้ามพรมแดนที่ซีรี่ส์แต่งขึ้น เป็นสัญลักษณ์
“เรื่องรักระหว่างเรา” จะเป็นไปได้ จริงไหม?
หัวใจสองดวง จะสามารถรวมเป็นหนึ่งได้หรือไม่?
แล้วเกาหลีเหนือ - เกาหลีใต้ ล่ะ?...
สุดท้ายแล้ว ... Crash Landing on You คือซีรี่ส์เกาหลีที่พูดได้ว่าทำออกมาได้สนุกมาก ๆ อีกเรื่องหนึ่ง มันมีความน่ารัก มีอารมณ์ขัน มีพล็อตที่น่าสนใจ มีประเด็นเนื้อหาที่ท้าทายให้เราขบคิด และเหนืออื่นใดเลยก็คือ มันเป็นซีรี่ส์ที่กระตุ้นให้ “หัวใจได้ทำงาน” ...