คอลัมน์ “ริงไซด์ ไฟต์คลับ” โดย “ลักษมณ์ นันทิวัชรินทร์”
มาว่ากันถึงเหตุการณ์มันส์ๆ สนุกๆ น่าประทับใจจากแวดวง “ไฟต์คลับ” ในปี 2562 ต่ออีกตอนครับ
เยี่ยมที่สุด – รายการนี้ขอมอบให้นักสู้สาวไทยสองราย คือ แสตมป์ แฟร์เท็กซ์ และ “น้องหล้า” โลมา ลูกบุญมี รายแรกนั้นอาละวาดประกาศศักดาในรายการ One FC จนเป็นเจ้าของเข็มขัดแชมป์ในประเภทมวยไทยและคิกบ๊อกซิ่ง ยังไม่พอยังมาไต่เต้าในประเภท MMA ในรุ่นอะตอมเวทหญิงอีก โดยในปี 2562 ที่ผ่านมา “สาวแสตมป์” ขึ้นสู้ในแบบ MMA สองไฟต์ ชนะรวด รวมกับไฟต์ประเดิมเมื่อปี 2561 ในรายการ One Warrior Series แล้วตอนนี้สาวไทยมีสถิติในแบบ MMA ชนะรวด 3 ไฟต์ ส่วน “น้องหล้า” โลมา ลูกบุญมี ได้โอกาสทองกลายเป็นนักสู้สาวไทยรายแรกที่ได้ขึ้นสังเวียนกับโปรโมชั่นใหญ่ระดับโลกอย่าง UFC เลยทีเดียวเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา และ “น้องหล้า” ก็โชว์ฟอร์มสวยงามสุดยอดคว้าชัยชนะมาได้ ปี 2563 ที่จะถึงนี้แฟนๆ ได้ตามเชียร์สาวไทยในแบบ MMA กันรัวๆ
งงที่สุด – อันนี้ต้องยกให้ อันเดรส กูเตียเรซ นักชกเม็กซิกันในรุ่นเฟเธอร์เวท พิกัดน้ำหนัก 130 ปอนด์ ที่มีคิวขึ้นชกตัดเชือกกับออสการ์ บัลเดซ นักชกเม็กซิกันเหมือนกัน อดีตแชมป์โลกในรุ่นนี้ของสถาบัน WBO เพื่อหาผู้ชนะขึ้นชิงเข็มขัดโลกของ WBC คู่นี้กำหนดชกกันเมื่อวันที่ 1 ธันวาคมนี้เอง ปรากฏว่าถึงวันชั่งน้ำหนัก ออสก้าร์ บัลเดซ ไม่มีปัญหาชั่งได้ 129.8 ปอนด์ แต่อันเดรส กูเตียเรซ ขึ้นชั่งด้วยน้ำหนักถึง 141 ปอนด์ คือเกินพิกัดไป 11 ปอนด์ ซึ่งน้ำหนักนี้จะชกรุ่นจูเนียร์เวลเตอร์เวทที่ใหญ่ขึ้นไปอีก 3 รุ่น ยังต้องลดอีกปอนด์นึงเลย ทางออสก้าร์ บัลเดซ บอกด้วยสปิริตของนักสู้ว่ายินดีขึ้นเวทีด้วย แต่ทางผู้จัดไม่ยอม เพราะเกรงจะเกิดอันตราย
เอาจริงๆ ตามระเบียบของการทำน้ำหนัก นักมวยทั้งคู่ต้องมีการชั่งน้ำหนักมาเป็นระยะๆ ซึ่งอันเดรส กูเตียเรซก็ทำน้ำหนักได้ตามกำหนดมาตลอด ขนาด 7 วันก่อนหน้าวันชั่งน้ำหนักจริงพี่แกก็ชั่งได้ 133 ปอนด์ เหลือลด 3 ปอนด์ถือว่าสิวๆ แต่ในช่วงสัปดาห์สุดท้ายแทนที่จะลด 3 ปอนด์ แกกลับหนักขึ้น 8 ปอนด์ ไม่รู้คุมน้ำหนักอีท่าไหน ที่สำคัญวันชั่งถ้ายอมสารภาพบาปแจ้งทางท็อปแร้งค์ผู้จัดซะ จะได้หามวยแทนหรืออะไรก็ยังดี นี่พี่แกช่างกล้าขึ้นชั่งน้ำหนักหน้าตาเฉย สุดท้ายกูเตียเรซโดนปรับอาน และน่าจะหมดอนาคตในวงการมวยไปเลย งานนี้ถือว่างงที่สุดจริงๆ
ความงงเรื่องการทำน้ำหนักยังต้องยกให้ แอนดี้ รุยซ์ จูเนียร์ ที่เพิ่งเสียเข็มขัดแชมป์โลกรุ่นเฮฟวี่เวทคืนให้ “เอเจ” แอนโธนี่ จอห์นสันไปเมื่อต้นเดือนธันวาคม เพราะแอนดี้ รุยซ์ จูเนียร์ นั้นเป็นนักชกร่างตุ้ยนุ้ยอยู่แล้ว มาไฟต์นี้กลับทำน้ำหนักเพิ่มขึ้นมาอีก 15 ปอนด์ ขึ้นชั่งน้ำหนักถึง 283 ปอนด์เกือบจะ 300 ปอนด์อยู่แล้ว เอาจริงน้ำหนักขนาดนี้อย่าว่าแต่เล่นกีฬาหรือชกมวยเลย เดินไปไหนมาไหนได้ก็ถือว่าเยี่ยมแล้ว สุดท้ายเดินไล่ “เอเจ” ไม่ทันโดนสอนมวยแพ้คะแนนยับเยิน
ก็จบปี 2562 กันไปเรียบร้อย ปีหน้าฟ้าใหม่แฟนๆ ชาวไฟต์คลับ ยังมีมวยและรายการศิลปะการต่อสู้มันส์ๆ ให้ได้ติดตามกันอีกสนุกตื่นเต้นไม่แพ้ปีนี้แน่นอน
