นายสุรัตน์ เสียงหล่อ หัวหน้าผู้ฝึกสอนกีฬามวยไทยสมัครเล่น ยอมรับด้วยความผิดหวังว่าเหตุผลที่นักมวยไทยไม่สามารถกระชากเหรียญทอง ซีเกมส์ ที่ มาเลเซีย ได้ตามเป้าหมายครบ 5 คน ทั้งที่ได้เข้าชิงกันหมด เป็นเพราะการเมืองภายใน และมี “ผู้ใหญ่” สั่งมาว่าให้แบ่งเหรียญแก่เจ้าภาพบ้าง
การแข่งขันมวยไทยสมัครเล่น ซีเกมส์ วันสุดท้ายที่ มิเทค ฮอลล์ วันที่ 29 สิงหาคม ที่ผ่านมา รอบชิงชนะเลิศ มาเลเซีย เจ้าภาพได้ทำแสบประกาศเลื่อนโปรแกรมแข่งขัน จากเดิมเวลา 16.00 น. เป็น 14.00 น. โดยไม่มีการแจ้งให้ทราบก่อนทั้งที่นักมวยไทยมีคิวเข้าชิงชนะเลิศถึง 5 รุ่น แต่สุดท้ายแม้จะได้ขึ้นชกทั้งหมด แต่ก็ได้เพียง 2 เหรียญทองเท่านั้น
แน่นอนว่า ผลที่ออกมาย่อมสร้างความกังขามากมาย จนทำให้นาย สุรัตน์ เสียงหล่อ หัวหน้าผู้ฝึกสอน ต้องระบายผ่านสื่อ “เสียดายรุ่น 63.5 กิโลกรัม ของเราอย่าง ชลวิทย์ ปรีดาศักดิ์ ที่ต่อยได้ดี และน่าจะชนะนักชกกัมพูชา ซึ่งการตัดสินดูค้านสายตา อย่างไรก็ตาม ชลวิทย์ มีปัญหาตั้งแต่ช่วงเก็บตัว เพราะเกิดอุบัติเหตุรถมอเตอร์ไซค์ล้ม มีแผลที่ศอกและเข่าทำให้ชกได้ไม่เต็มที่ ส่วนอีก 2 รุ่นที่ได้เหรียญเงินคงเรียกดว่าพลาดไม่ได้ เพราะเป็นนโยบายของสมาคมฯ ที่ต้องการให้ทุกชาติสนใจ และหันมาเล่นมวยไทยมากขึ้น เราจึงส่งนักชกที่ไม่ใช่ตัวเก่งที่สุดมาแข่งขัน เพื่อให้ชาติอื่นๆ มีโอกาสชนะ”
“มวยไทยกำลังไปโอลิมปิก หากเราส่งมวยไทย 5 รุ่น คว้าเหรียญทองทั้ง 5 รุ่น ต่อไปใครจะมาแข่งกับเรา มันขัดต่อจรรยาบรรณของคนเป็นโค้ชอย่างผม นักมวยไทยเก่งๆ มีเยอะ ถ้าเอาจริง 5 รุ่นก็ต้องได้หมด ตอนนี้ผมและนักมวยคงตกเป็นจำเลยสังคม ก่อนแข่งขันมาเลเซียถามก่อนเลยว่าเขามีสิทธิ์ได้เหรียญทองหรือไม่ เราก็ตอบไปว่ามี เพื่อให้เขาบรรจุกีฬามวยเข้าชิงเหรียญทอง อย่างน้อยๆ หากนักชกไทยได้เหรียญเงิน ก็ได้เงินสนับสนุนให้นักกีฬาได้ไปเลี้ยงดูครอบครัว แต่ถ้าไม่มีจัดเลยนักมวยก็จะไม่ได้อะไร แต่ถ้าถามว่าผมพอใจหรือไม่ ผมไม่พอใจเลย ส่ง 5 รุ่นได้แค่ 2 ทอง ผมรู้สึกไม่พอใจแน่นอน ต่ำกว่ามาตรฐาน ที่เป็นแบบนี้เพราะมีเรื่องการเมืองมาเกี่ยวข้อง” สุรัตน์ ระบุ