คอลัมน์ “ริงไซด์ ไฟต์คลับ” โดย “ลักษมณ์ นันทิวัชรินทร์”
แชมป์โลก “ของจริง” ของไทยเรามีคิวขึ้นป้องกันเข็มขัดไปอีก 1 รายเมื่อวันเสาร์บ่ายๆ ที่ผ่านมา เมื่อ “ยักษ์แคระเมืองไทย” วันเฮง ไก่ย่างห้าดาวยิม ขึ้นสังเวียนป้องกันตำแหน่งแชมป์โลกรุ่นมินิมั่มเวท 105 ปอนด์ ของสภามวยโลก WBC ที่เวทีมวยชั่วคราวสนามกีฬากลางจังหวัดระยอง โดยพบกับนักชกผิวสีเชื้อชาติแทนซาเนียแต่สัญชาติออสเตรเลีย โอมารี่ คิมเวรี่ รองแชมป์โลกอันดับ 4
ไฟต์นี้ถือว่าสบายๆ สำหรับแชมป์โลกชาวไทย เพราะผู้ท้าชิงรายนี้อายุเกือบจะ 35 ปีอยู่รอมร่อ ประเดิมสังเวียนเมื่อายุ 25 ปีเข้าไปแล้ว ชกมา 10 ปีเพิ่งขึ้นชก 19 ไฟต์ ชนะมา 13 ไฟต์โดยชนะน็อกแค่ 6 ไฟต์ แพ้ 3 ไฟต์โดยโดนจับแพ้ TKO ซะ 1 ไฟต์ เคยมีดีกรีแชมป์เข็มขัดเงินของ WBC ในรุ่นฟลายเวท 112 ปอนด์ ไฟต์นี้ลดรุ่นลงมาถึง 2 รุ่น ขึ้นชกไฟต์ล่าสุดเมื่อ 14 เดือนที่แล้ว เรียกว่ามองมุมไหนนักชกไทยได้เปรียบเต็มประตู
พอเริ่มชกผู้ท้าชิงออกอาการห้าวเป้งเดินเข้าหาแถมออกหมัดซ้ายขวาอย่างไม่เกรงศักดิ์ศรีแชมป์โลกเจ้าถิ่น เล่นเอาวันเฮงของเราเปิดตำราไม่ทันตกเป็นฝ่ายรับอยู่พักใหญ่ ปลายยกทั้งคู่ศีรษะชนกันวันเฮงแตกที่เปลือกตาซ้ายแต่แพทย์สนามให้ชกต่อได้ กรรมการดันบ้าจี้ตัดคะแนนนักชกออสเตรเลียซะอย่างนั้นทั้งๆ ที่ชนกันโดยอุบัติเหตุและเป็นการชนกันครั้งแรกไม่มีการเตือนก่อน ผู้ท้าชิงยิ่งเป็นรองสุดกู่ จากนั้นนักชกไทยก็ชกแบบระวังตัวระวังแผล ค่อยๆ ออกหมัดไปเรื่อยๆ เข้าเป้าบ้างไม่เข้าบ้าง ทางนักชกผิวสีก็พยายามออกหมัดแต่ออกหมัดวงกว้างเหลือเกินทางเราป้องกันสบาย แม้จะเปลี่ยนการ์ดซ้ายบ้างขวาบ้างให้เรางงแต่ก็ทำอะไรแชมป์โลกชาวไทยไม่ได้ หมัดที่โดนบ้างก็เบาหวิวราวปุยนุ่น แถมชกลอยหน้าตลอดวันเฮงจิ้มทีไรหน้าหงายทุกที “ยักษ์แคระ” ก็ตามไม่ถนัดเพราะลีลาของผู้ท้าชิงมากเหลือเกิน สุดท้ายครบยกวันเฮงเอาชนะคะแนนไปสบายๆ ป้องกันเข็มขัดโลกไว้ได้เป็นครั้งที่ 7 เพิ่มสถิติการชกเป็นชนะรวด 47 ไฟต์ แต่ชนะน็อกแค่ 17 ไฟต์
ดูภาพการชกแล้วนักชกแชมป์โลกชาวไทยก็ชกตามฟอร์ม ไม่มีฟุตเวิร์ก ไม่มีหมัดแย็ป ไม่มีหมัดชุด เก็งออกหมัดเดียวแล้วก็ยืนดูผลงาน ถีงได้เก็บผู้ท้าชิงรายนี้ไม่ลง การป้องกันตัวก็ค่อนข้างหละหลวม ก็คงต้องส่องกล้องเลือกผู้ท้าชิงมาต่ออายุสร้างสถิติในบ้านไปเรื่อยๆ เพราะออกนอกบ้านเจอของจริงเมื่อไหร่ก็คงลำบาก ตอนนี้ทีมงานเริ่มมีการพูดถึงการเทียบสถิติของ “นักชกไร้พ่าย” ฟลอยด์ เมย์เวเธอร์ จูเนียร์ ที่ชนะรวด 49 ไฟต์กันแล้ว ก็คงทำได้ตามสเต็ปแต่จะได้รับการยอมรับแค่ไหนก็เป็นอีกเรื่องนึง แฟนๆ ก็ฟังสถิติได้แต่คงปลาบปลื้มอะไรได้ไม่มาก
ไฟต์นี้ถือเป็นมิติใหม่ที่ลงทุนจัดกันบ่ายวันเสาร์เลยทีเดียว แถมไม่ใช่บ่ายโมงบ่ายสองด้วย ถ้ากล้าๆ ทุ่มแบบนี้อีก 2-3 ไฟต์ แล้วนักมวยไทยโชว์ฝีมือให้มากกว่านี้อีกหน่อย ก็อาจมีโอกาสฟื้นความนิยมในมวยสากลอาชีพบ้านเราได้อีกครั้งก็ได้
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *
