เอเยนซี - ศึก พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ ช่วงสุดสัปดาห์นี้ แฟนบอลต้องจับตาให้ดี เพราะตำแหน่งจ่าฝูงอาจเปลี่ยนมือก็เป็นได้ อันเนื่องมาจากมี “บิ๊ก แมตช์” แมนเชสเตอร์ ซิตี เล่นในรัง เอติฮัด สเตเดียม รับมือจ่าฝูง เชลซี เปิดโอกาสให้ ลิเวอร์พูล กับ อาร์เซนอล มีลุ้นขยับอันดับ
สถานการณ์ ณ เวลานี้ หลัง เชลซี ระเบิดฟอร์มคว้าชัย 7 นัดรวด เสียแค่ประตูเดียว ทำให้ขึ้นนำจ่าฝูงเมื่อพ้น 13 นัด ด้วยการมี 31 แต้ม อย่างไรก็ตาม ทิ้ง ลิเวอร์พูล กับ แมนฯซิตี เพียงแค่แต้มเดียว ส่วนอันดับ 4 ได้แก่ อาร์เซนอล ที่มี 28 แต้ม ประกอบกับลูกได้ - เสีย ที่ท็อปโฟร์ห่างกันแค่ 4 ลูกเท่านั้น
“บิ๊ก แมตช์” จะเตะวันเสาร์ที่ 3 ธันวาคม เวลา 19.30 น. ตามด้วย อาร์เซนอล ที่จะไปเยือน เวสต์แฮม ยูไนเต็ด เวลา 00.30 น. ส่วน ลิเวอร์พูล อีกหนึ่งทีมฟอร์มแรงจะไปเยือน บอร์นมัธ วันอาทิตย์ที่ 4 ธ.ค. เวลา 20.30 น. ดูแล้ว “หงส์แดง” ของกุนซือ เจอร์เกน คล็อปป์ มีโอกาสคว้า 3 แต้มมากที่สุด
แมนฯซิตี ไม่มีโปรแกรมกลางสัปดาห์ โดยเกมนัดล่าสุดเป็นศึก พรีเมียร์ ลีก บุกชนะ เบิร์นลีย์ 2-1 แสดงให้เห็นถึงเกมรับที่ยังมีปัญหา นอกจากนี้ ฟอร์มในถิ่น เอติฮัด สเตเดียม สู้นอกบ้านไม่ได้ เพราะ 6 นัดที่ผ่านมา แม้จะยังไม่ปราชัยใครในถิ่นแต่ชนะ 3 เสมอ 3 นัด
แม้ผลการแข่งขันของเกมนี้จะยังไม่ตัดสินโฉมหน้าแชมป์ แต่ แมนฯซิตี จำเป็นต้องชนะ เพราะหากทำสำเร็จ อาจถือเป็นจุดเปลี่ยนแห่งฤดูกาลก็เป็นได้ นอกจากนี้ จำต้องหยุดโมเมนตัมของ เชลซี ที่กำลังไหลลื่นอีกด้วยก่อนที่จะเข้าสู่ช่วงหฤโหด “บ็อกซิง เดย์”
เป๊ป กวาร์ดิโอลา กุนซือ แมนฯซิตี เตรียมจัดทัพนำโดยความหวังสูงสุด อย่าง เซร์คิโอ อกูเอโร ดาวยิงอาร์เจนไตน์ ที่เกมที่แล้วซัดคนเดียว 2 ประตู รวมถลุงในลีกไปแล้ว 10 ประตู นำเป็นดาวซัลโวร่วมกับ ดิเอโก กอสตา หอกทีมชาติสเปนของ เชลซี ซึ่งเกมนี้ก็จะได้วัดคมกันด้วย
อย่างไรก็ตาม ระยะหลัง อกูเอโร ไม่มีตัวช่วยเลย เนื่องจาก โนลิโต, ดาบิด ซิลบา, เฆซุส นาบาส และ เลรอย ซาเน เล่นกันไม่ค่อยออก ดังนั้น แมตช์นี้ เป๊ป จะต้องผสมผสานให้ดี ทว่า คนที่ลงปั้นเกมแน่นอน คือ เควิน เดอ บรอยน์ มิดฟิลด์ทีมชาติเบลเยียม
ซึ่ง เดอ บรอยน์ คือ อีกหนึ่งในไฮไลต์ของเกมนี้ เพราะจะลงปะทะกับทีมเก่า เชลซี ที่ไม่เห็นค่าขายออกไป ก่อนที่ แมนฯซิตี จะไปซื้อกลับมาจาก โวล์ฟสบวร์ก ด้วยค่าตัว 58 ล้านปอนด์ (ประมาณ 2,610 ล้านบาท) เมื่อช่วงซัมเมอร์ของปี 2015 ส่วนแข้งวัย 25 ปี ก็ต้องรีดฟอร์มมากกว่านี้เพื่อพิสูจน์ว่าอดีตต้นสังกัดคิดผิด โดยปีที่แล้วได้แค่แชมป์เดียวคือ ลีก คัพ ที่ยังไม่เพียงพอ
ก่อนเกม ยายา ตูเร กองกลาง แมนฯซิตี โยนความกดดันว่า เชลซี มีโอกาสสูงกว่าที่จะเป็นผู้ชนะในเกมนี้ พร้อมให้เหตุผลว่า “เป็นแมตช์ที่สาหัสจริงๆ อย่างไรก็ตาม ผู้มาเยือนเหมือนจะได้เปรียบ ส่วนเราต้องเล่นแมตช์ยุโรปกลางสัปดาห์ตลอด ซึ่งบางครั้งก็ยากที่คุณจะต้องแบ่งสนามและเตรียมทีมให้ลงตัวที่สุด”
ขณะที่ เชลซี ภายใต้การคุมทัพของ อันโตนิโอ คอนเต กุนซือที่นำอิตาลี เข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย ยูโร 2016 เมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมา ค้นระบบที่ลงตัวเจอแล้ว ก็คือ 3-4-2-1 หรือ 3-4-3 ใช้เซนเตอร์ฮาล์ฟ 3 คนโดยมีวิงแบ็กขึ้นลงอย่าง มาร์กอส อลอนโซ กับ วิคเตอร์ โมเซส
ส่วนกองกลางเป็นหน้าที่ของ เนมานยา มาติช กับ เอ็น'โกโล ก็องเต และแนวรุก 3 คน เอเดน ฮาซาร์ด กับ เปโดร โรดริเกวซ คอยปั้นเกมลำเลียงบอลให้หน้าเป้าอย่าง กอสตา เรียกได้ว่าถ้าเกมนี้ แมนฯซิตี เจาะไม่เข้า คงมีแค่ บาร์เซโลนา ทีมเดียวที่จะพังระบบนี้ของ เชลซี ลงได้
ปิดท้ายที่ แกรม ซูเนสส์ อดีตนักเตะและกุนซือ ลิเวอร์พูล ทำนายเกมนี้ผ่าน “สกาย สปอร์ตส์” ว่า “เป็นเกมที่ตึงเครียดมาก ซึ่งยากที่จะเลือกว่าใครจะชนะ แต่ เชลซี คือ ทีมที่ยากในการเผชิญหน้า พิสูจน์จากประตูเดียวที่เสียในนัดล่าสุดที่เปิดบ้านชนะ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ 2-1 ซึ่งก็บอกทุกอย่างได้เป็นอย่างดี”
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *