เชลซี กำลังเดินหน้าล่าสถิติชนะติดต่อกัน โดยล่าสุดทำได้ 12 นัดรวด หลังเปิดรัง สแตมฟอร์ด บริดจ์ ขย่ม บอร์นมัธ 3-0 ช่วง “บ็อกซิง เดย์” ของศึก พรีเมียร์ ลีก เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม ที่ผ่านมา ซึ่งเมื่อมองจากโปรแกรมแล้วอาจเป็น ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ ที่ดับความฝัน
เชลซี แม้ขาด ดิเอโก กอสตา กับ เอ็น'โกโล ก็องเต ทว่า ยังเปิดรังชนะ บอร์นมัธ 3-0 โดยได้จาก เปโดร โรดริเกวซ นาที 24, เอเดน ฮาซาร์ด จุดโทษนาที 49 และ สตีฟ คุ๊ก ทำเข้าประตูตัวเองนาที 90+3 ทำให้ยืดสถิติเป็นชนะรวด 12 นัด รั้งจ่าฝูงด้วยการมี 46 แต้มจาก 18 นัด การันตีช่วงห่าง 6 แต้ม ก่อนที่ ลิเวอร์พูล ลงพบ สโต๊ก ซิตี
หลังเกม อันโตนิโอ คอนเต กุนซือ เชลซี ปลื้มมากที่คว้าชัยแม้ขาด 2 แกนหลัก “น่าทึ่งมากที่เราชนะ 12 เกมติดต่อกันที่อังกฤษ เพราะถือเป็นลีกที่หนักหนาสาหัส แต่จากนี้ไปสิ่งสำคัญสุด คือ การรักษามาตรฐาน วันนี้เราเล่นโดยขาดสองนักเตะสำคัญ ซึ่งผมก็พอใจกับผลงานของทีมมาก มันสำคัญต่อการรักษาตำแหน่งบนตารางและควบคุมสภาพจิตใจ บอร์นมัธ เล่นได้ดีและพยายามที่จะหยุดเรา โดยไม่ได้เจอเป็นครั้งแรกและรับมือได้ดีเยี่ยม”
เชลซี เวลานี้กำลังไล่ตามหลังสถิติชนะติดต่อกันมากที่สุด 14 เกมของ อาร์เซนอล ที่เกิดขึ้นในศึก พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2001-02 โปรแกรมนัดต่อไปยังได้เล่นที่รัง สแตมฟอร์ด บริดจ์ รับมือ สโต๊ก ซิตี วันที่ 31 ธันวาคม ก่อนที่จะออกไปเยือน ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ วันที่ 4 มกราคม 2017
ดูแล้วทีมที่มีโอกาสจะหยุด เชลซี ก็คือ สเปอร์ส โดยสถิติที่ไปเยือนถิ่น ไวท์ ฮาร์ท เลน 3 นัดหลังสุดในลีก ไม่ชนะ หนสุดท้ายที่ “ไก่เดือยทอง” แพ้คาถิ่นต้องย้อนไปปี 2012 เสียท่าไปด้วยสกอร์ 2-4 มิหนำซ้ำ ปี 2015 สามารถเปิดบ้านถล่มไปด้วยสกอร์ 5-3 อีกด้วย
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *