นิโค รอสเบิร์ก นักขับชาวเยอรมันจากค่าย เมอร์เซเดส เอเอ็มจี ได้กอดถ้วยแชมป์โลกใบแรกในชีวิตที่รอคอยมายาวนาน หลังขับประคองเข้าอันดับ 2 ศึก อาบู ดาบี กรังด์ ปรีซ์ เรซสุดท้ายของปี ขณะที่ ลูอิส แฮมิลตัน เพื่อนร่วมทีมได้แชมป์สนาม แต่แต้มไม่พอป้องกันแชมป์
ศึกรถสูตรหนึ่งชิงแชมป์โลก สนามสุดท้ายของปี รายการ อาบู ดาบี กรังด์ ปรีซ์ ณ สนาม ยาส มารินา เซอร์กิต ระยะทางต่อรอบ 5.554 กม. เมือง อาบู ดาบี ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ คืนวันที่ 27 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา เป็นการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ ตัดสินหาแชมป์โลกระหว่าง รอสเบิร์ก กับ แฮมิลตัน 2 นักซิ่งค่าย เมอร์เซเดส เอเอ็มจี ที่มีช่องว่างห่างกันแค่ 12 แต้ม
สิ้นสัญญาณไฟ แฮมิลตัน กับ รอสเบิร์ก ออกสตาร์ทแบบวัน-ทู ตามมาไม่มีเปลี่ยน ขณะที่ แม็กซ์ เวอร์สแตพเพน จาก เรด บูลล์ เริ่มต้นแวบเดียวก็พลาดรถหมุนติ้วต้องไปวิ่งไล่จากท้าย ด้าน เจนสัน บัตตัน นักซิ่งจาก แม็คลาเรน-ฮอนด้า รถพังระหว่างทาง อำลาสนามสุดท้ายในอาชีพแบบไม่สวยนัก
มาถึงรอบท้าย แฮมิลตัน พยายามทิ้งห่าง รอสเบิร์ก ให้สู้กับ เซบาสเตียน เวทเทล จาก เฟอร์รารี ซึ่งไล่กดดันจากที่ 3 แต่สุดท้ายไม่เป็นผล เมื่อ แฮมิลตัน เข้าวินรับธงหมากรุก เวลา 1 ชั่วโมง 38 นาที 04.013 วินาที ตามด้วย รอสเบิร์ก อันดับ 2 และ เวทเทล เข้าอันดับ 3
แม้จะเป็นแชมป์สนาม แต่ แฮมิลตัน ก็ไม่อาจป้องกันแชมป์โลกได้ เนื่องจากแต้มสะสม 380 แต้ม มีไม่พอแซง รอสเบิร์ก ซึ่งเข้าอันดับ 2 และเฉือนไป 5 แต้ม ส่งให้นักซิ่งจากเมืองเบียร์ ครอบครองแชมป์โลกเป็นสมัยแรกในชีวิต ตามรอยคุณพ่อ กิเก ที่เคยทำไว้เมื่อปี 1982
สรุปผลงาน ฟอร์มูลา วัน ฤดูกาล 2016 นิโค รอสเบิร์ก จบฤดูกาลที่ตำแหน่งแชมป์โลกประเภทนักขับ มี 385 แต้ม อันดับ 2 ลูอิส แฮมิลตัน มี 380 แต้ม และ ดาเนียล ริคคิอาร์โด อันดับ 3 จาก เรด บูลล์ มี 256 แต้ม ปิดฉากฤดูกาลซิ่งด้วยแชมป์โลกคนใหม่