xs
xsm
sm
md
lg

หน้าที่ของ “เสี่ยขจร” กับทีมชาติไทยยุค “ซิโก้” / แมวดำ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

คอลัมน์ “สกอร์บอร์ด” โดย “แมวดำ”

กลายเป็นประเด็นให้แมงเมาท์ทั้งหลายในวงการลูกหนังไทยได้คุยกันอีกหลายวัน สำหรับการลาออกจากตำแหน่งผู้จัดการทีมชาติไทยชุดใหญ่ ของ ขจร เจียรวนนท์ ที่ให้เหตุผลการอำลาเก้าอี้ครั้งนี้ ก็เพื่อรับผิดชอบต่อผลงานที่ลูกทีม แพ้ 4 นัดรวดในฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย ทำให้มีคะแนนรั้งบ๊วยของกลุ่มบี แบบไม่มีแต้มติดมือเลย

โดย “เสี่ยขจร” เริ่มรับงานในฐานะผู้จัดการทีมชาติไทย ในชุด “คิงส์คัพ” ครั้งที่ 44 ระหว่างวันที่ 3 - 5 มิถุนายน 2559 โดยมี 4 ทีมร่วมลงแข่งขัน ประกอบด้วย ไทย เจ้าภาพ, ซีเรีย, จอร์แดน และ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งรายการนี้ทีมชาติไทย สามารถเอาชนะ จอร์แดน 2-0 ในนัดชิงชนะเลิศ พร้อมกับคว้าแชมป์มาครอง หลังจากครั้งสุดท้ายเคยได้เมื่อปี 2550 ในการจัดครั้งที่ 38 เมื่อผลงานดีมีถ้วยรางวัลพระราชทานติดมือ สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย จึงมอบหมายหน้าที่อันยิ่งใหญ่ ให้รับตำแหน่งผู้จัดการทีมชาติไทย ชุดฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก 12 ทีมสุดท้าย โซนเอเชีย โดยมีเป้าหมายผ่านเข้ารอบสุดท้ายให้ได้ (หรืออย่างน้อย ๆ ก็ควรจะทำได้ใกล้เคียง)

จะว่าไปตำแหน่งผู้จัดการทีมสำหรับทีมชาติไทย ที่ผ่านมา ก็ล้วนเป็นเหมือนกระเป๋าสตางค์เคลื่อนที่ คือ ต้องคอยตอบคำถามนักข่าวทั้งหลายว่า ตกลงรายการนี้มีอัดฉีดไหม? ถ้าชนะอัดฉีดเท่าไหร่ เสมอแล้วจะเปย์ยังไง หรือคว้าแชมป์แล้วจะได้เงินไหม แต่ดูเหมือนหน้าที่ของ “เสี่ยขจร” จะเกินกว่าการมานั่งตอบคำถามเหล่านั้น หากความจำดีคงไม่ลืมว่า “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย เคยกล่าวไว้ว่า อยากให้นักฟุตบอลทีมชาติ เมื่อถึงเวลาเดินทางไปแข่งขันก็หิ้วกระเป๋าขึ้นเครื่องเดินทางไปได้เลย ไม่ต้องมานั่งรอคอยการจัดการอย่างอื่นอย่างใดอีก ให้นักกีฬาทำหน้าที่ซ้อม และถึงเวลาลงสนามแข่งขันแบบไม่ต้องคิดเรื่องอื่นนอกเหนือจากการแข่งขันเท่านั้น

ดังจะเห็นได้ว่า “เสี่ยขจร” จัดให้ทุกอย่าง ผมนั่งฟังคลิปที่มีการสัมภาษณ์ช่วงที่นำทีมชาติไทย ไปแข่งขันกับ ซาอุดีอาระเบีย (ก่อนจะแพ้ 1-0) ว่า เป็นรายการแรกที่ประธานสโมสร แบงค็อก ยูไนเต็ด รับหน้าที่ทีมนำไปแข่งขันต่างประเทศ งานนี้ไม่มีหมู เพราะตำแหน่งผู้จัดการทีมชาติ ต้องทำทุกอย่าง ตั้งแต่เรื่องโภชนาการ ที่ต้องเหมาะสมกับร่างกายนักกีฬา แต่ต้องตอบโจทย์ความอร่อย หากถูกโภชนาการ แต่ไม่อร่อย นักกีฬากินไม่ได้ ก็ไม่มีประโยชน์ ว่าแล้วก็หอบหิ้วกับเชฟปรุงอาหารไปด้วยเสียเลย

นอกจากนี้ การเดินทางไปแข่งขันต่างประเทศ ยังมีการส่งทีมงานไปศึกษารายละเอียดทั้งสนามแข่ง สนามซ้อม โดยเฉพาะสนามซ้อมนี่ต้องมีการควักกระเป๋าเช่าเขาด้วย อีกทั้งยังต้องดูโรงแรมที่พักว่าเป็นอย่างไร สบายดีไหม กลางคืนนอนหลับพักผ่อนมีเสียงรบกวนหรือไม่ รวมถึงการเดินทางต้องลัดขั้นตอนมากที่สุด แข่งฟุตบอลไทยลีกเสร็จ นักกีฬาเดินทางขึ้นเครื่องบินไปแข่งขันได้ทันที และต้องเดินทางแบบไม่อ้อม ให้นักกีฬาได้พักมากที่สุด ในเรื่องของรถบัสรับส่งก็ต้องเป็นรถที่ดีมีคุณภาพ สะดวก สะอาด สบาย ก่อนเกมก็ต้องทำหน้าที่ตัวแทนในการประชุมกับชาติเจ้าภาพที่เดินทางไป เพื่อศึกษารายละเอียดต่าง ๆ นานา ว่า เขาห้ามอะไรบ้าง โดยเฉพาะประเทศตะวันออกกลาง ซึ่งนักกีฬาบ้านเราอาจไม่คุ้นชินวัฒนธรรมพื้นถิ่น

นี่เป็นเพียงบางส่วนในหน้าที่ผู้จัดการทีมชาติไทยของ ขจร เจียรวนนท์ เท่าที่ผมรู้ ซึ่งการลาออกเพื่อรับผิดชอบกับผลงาน 4 นัด ในฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก โดยไม่มีแต้มเลยนั้น ก็เลยสงสัยว่า “เสี่ยขจร” บกพร่องตรงไหน ก็ในเมื่อเขาไม่ใช่คนเรียกนักเตะมาติดทีมชาติ ไม่ใช่คนจัดวางแท็กติก สำหรับเลือกผู้เล่น 11 คนแรกลงสนาม และไม่ใช่คนที่ต้องวางแผนแก้เกมแก้ทางคู่แข่งเมื่อทีมเพลี่ยงพล้ำ แล้วทำไมคนที่ทำหน้าที่ดังที่กล่าวมาถึงยังอยู่สบายรับเงินตามสัญญา แม้จะพาทีมถอยห่างจากการไปแข่งขันรอบสุดท้ายออกไปทุกที ก็แค่สงสัยเฉย ๆ คงไม่ผิดนะครับ....

* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *


กำลังโหลดความคิดเห็น