xs
xsm
sm
md
lg

“คาร์เมโล” ผลพวงความขัดแย้ง / ชมณัฐ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

คอลัมน์ “TIMEOUT” โดย “ชมณัฐ”

กลายเป็นกระแสวิจารณ์กันถ้วนหน้าสำหรับกรณีที่สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย สั่งลงดาบแบน คาร์เมโล กอนซาเลซ มิดฟิลด์ตัวเก่งของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แบบไร้กำหนด โทษฐานที่แสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสมโดยการเตะขวดน้ำ ก่อนจะวิ่งไปหวดลูกบอลระบายอารมณ์ ไปทางผู้ตัดสิน ในเกม โตโยต้า ลีก คัพ 2014 รอบตัดเชือก ที่ “ปราสาทสายฟ้า” บุกเฉือน ราชบุรี มิตรผล เอฟซี 2-1(สกอร์รวมชนะ 3-1)

เหตุการณ์ดังกล่าวเหมือนจะไม่บานปลาย เพราะในเกมนั้น คาร์เมโล ได้ถูกผู้ตัดสินแจกใบเหลืองที่ 2 ไล่ออกจากสนามไปแล้ว และส่งให้เจ้าตัวชวดลงเล่นในนัดชิงชนะเลิศกับ บีอีซี เทโรศาสน แต่คล้อยหลังเพียงวันเดียว “เสธ.ตุ้ม” พล.อ.ชินเสณ ทองโกมล ประธานคณะกรรมการผู้ตัดสิน ได้แทงเรื่องถึง “บังยี” วรวีร์ มะกูดี นายกลูกหนังไทย ให้เพิ่มบทลงโทษแก่แข้งสแปนิชด้วยการห้ามลงเล่นตลอดฤดูกาลที่เหลือ

ซึ่ง “บังยี” ก็รับลูกอย่างรวดเร็ว ใช้เวลาเพียงข้ามคืน ออกหนังสือลงนามโดย “ผู้พันหลอ” วรวุฒิ ทองศรีงาม เลขาธิการป้ายแดง เพิ่มโทษเป็นแบนไร้กำหนดในทุกรายการ โดยให้เหตุผลว่า “คาร์เมโล กอนซาเลซ มีกิริยาที่ก้าวร้าว รุนแรง และ เจตนาทำร้ายผู้ตัดสิน อันเป็นพฤติกรรมที่เป็นแบบอย่างที่ไม่ดีต่อสังคม ที่ไม่อาจยอมรับได้”

โทษที่ออกมาถามใครๆ ก็บอกว่ารุนแรงเกินไป ยิ่งเทียบกับเหตุผลที่ออกมาด้วยแล้ว จริงอยู่ที่ คาร์เมโล แสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสม แต่ก็ไม่ถึงขนาดเจตนาทำร้ายผู้ตัดสิน ยิ่งเทียบกับเคสของ ลี ซัง โอ กองหลังสิงห์ ท่าเรือ ด้วยแล้ว ยังชัดเจนมากกว่า แต่แข้งเกาหลีใต้กลับโดนแบนแค่ 6 นัด หรือหากเทียบมาตรฐานระดับโลก เช่น กรณี เปาโล ดิ คานิโอ ผลักอกเชิ้ตดำ สมัยค้าแข้งกับ เชฟฟิลด์ เวนสเดย์ ยังโดนแค่ 11 นัด

และตั้งแต่เกิดเหตุการณ์นอกจากคนของสมาคมฯแล้ว ยังไม่เห็นมีใครออกมาสนับสนุนหรือเห็นด้วยกับโทษแบนของ คาร์เมโล เลย เหนือสิ่งอื่นใดขนาด “เสี่ยฟลุ๊ค” ธนวัชร์ นิติกาญจนา ผู้จัดการทีมราชบุรีฯ ที่อยู่ใกล้กับเหตุการณ์ ยังออกโรงป้องแข้งฝั่งตรงข้ามเลยว่า ไม่มีเจตนาทำร้ายผู้ตัดสิน และโทษที่ออกมาก็รุนแรงเกินไป

ดังนั้น สิ่งที่สมาคมฯยืนกรานว่าไม่ได้เป็นการกลั่นแกล้งบุรีรัมย์ฯ นั้นแทบจะฟังไม่ขึ้นเลย เพราะใครก็รู้ว่าทั้งคู่เป็นไม้เบื่อไม้เมากันมาหลายปี ที่สำคัญหากเทียบกับมาตรฐานการทำงานที่ผ่านมายิ่งคาใจเข้าไปใหญ่ ก่อนหน้านี้ โทษที่นักเตะหรือสโมสรได้รับจากการลงแข่งฟุตบอลถ้วย แทบจะไม่กระทบกับฟุตบอลลีก เพราะมักจะมีเหตุผลว่าเป็นคนละรายการกัน และอยู่เหนือการควบคุมของ บริษัท ไทย พรีเมียร์ ลีก จำกัด (ทีพีแอล) แถมกว่าจะมีการพิจารณาแต่ละครั้งก็เรื่องดองไว้เกือบเดือน แต่ครั้งนี้กลับรวดเร็วฉับไว เสมือนว่าคอยจ้องรอโอกาสไว้อยู่แล้ว

อย่างไรก็ตาม เมื่ออำนาจทั้งหมดอยู่ที่ สมาคมฟุตบอลฯ สามารถชี้นกเป็นนก ชี้ไม้เป็นไม้ การจะมีบทลงโทษออกมาอย่างไร หรือรวดเร็วปานไหนก็คงไม่มีใครขัดได้ แต่อยากฝากให้ช่วยรีบตัดสินใจในเรื่องที่สำคัญๆ กว่านี้บ้าง อย่างเช่น ศึก เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2014 ที่ใกล้จะฟาดแข้งปลายปีนี้แล้ว ณ ปัจจุบัน ทีมชาติไทยชุดใหญ่ ยังไม่มีเฮดโค้ชที่แน่นอนเลย ขณะที่เพื่อนบ้านเขาไปไหนต่อไหนกันแล้ว เพราะผมกลัวว่า คาร์เมโล จะกลับไปเล่าให้เพื่อนที่สเปนฟังแล้วจะโดนหัวร่อเอาว่า “ตนมาเล่นเมืองไทย โดนสมาคมฟุตบอลไทยรีบสั่งแบนไร้กำหนดเพียง เพราะเตะขวดน้ำกับเตะบอลไปทางผู้ตัดสิน แต่ทำไมทีมชาติไทยจะแข่งอีกไม่กี่เดือนถึงยังไม่มีโค้ชเลย”

* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *


กำลังโหลดความคิดเห็น