คอลัมน์ “ริงไซด์ ไฟต์คลับ” โดย “ลักษมณ์ นันทิวัชรินทร์”
มหกรรมกีฬาโอลิมปิก “ริโอ เกมส์” ที่ผ่านมา ทัพมวยสากลสมัครเล่นไทย ทำผลงานไม่เข้าเป้ากลับบ้านมือเปล่าไร้เหรียญใด ๆ เป็นครั้งแรกในรอบ 40 ปี จากที่เคยเป็นกีฬาความหวังของแฟน ๆ มาตลอด ส่วนหนึ่งต้องยอมรับว่าสไตล์การชกของนักมวยไทยนั้นตกยุคไปแล้ว
แต่บางไฟต์ก็ต้องเห็นใจว่านักชกไทยโดนผลกระทบจากการตัดสินเข้าเต็ม ๆ ที่ชัดเจนสุดก็คือ “เจ้าสด” ฉัตรชัย บุตรดี ที่ดักต่อยคู่ชกรัสเซียจนกระเด็นกระดอนไปมาในรอบ 16 คนสุดท้าย แต่กรรมการพร้อมใจกันเทคะแนนให้นักชกรัสเซียที่เดินหน้ารับหมัดอย่างเดียว จนนักชกตัวความหวังของไทยตกรอบไปแบบเจ็บปวด
ไม่เท่านั้น นักชกรัสเซียรายนี้ยังตั้งหน้าตั้งตาเดินเข้ารับหมัดยอดฝีมือชาวไอร์แลนด์ในรอบ 8 คนสุดท้ายตลอด 3 ยก สุดท้ายกรรมการมองมุมไหนไม่ทราบเทคะแนนให้นักชกรัสเซียเข้ารอบไปคว้าเหรียญทองแดงเข้าอีก และนอกจากสองไฟต์นี้แล้ว ก็ยังมีอีกหลายไฟต์ที่ผลการตัดสินออกมาแบบ “ค้านสายตา” เรียกเสียงวิจารณ์ (ด่า) กระหึ่มจากทุกทิศ ทาง ไอบา หรือสหพันธ์มวยสากลนานาชาติ ก็นั่งไม่ติด เพราะมวยสากลสมัครเล่นนั้นถูกจับตามองเรื่องการตัดสินมาตลอด จนโอลิมปิกเคยเปรย ๆ ว่าถ้าไม่ทำให้โปร่งใสกว่านี้ อาจถูกพิจารณาตัดออกจากการร่วมในโอลิมปิกได้ เลยจัดประชุมนัดพิเศษขึ้นเมื่อช่วงวันที่ 3 - 5 ตุลาคม ที่ผ่านมา ที่กรุงโลซานน์ สวิตเซอร์แลนด์ เพื่อหวังสังคายนาการตัดสินให้เป็นที่ยอมรับมากขึ้น
ผลการประชุม ชิง กั๊วะ วู ประธานสหพันธ์ฯ ออกมาแถลงหน้าชื่นว่า บรรดาผู้ทรงคุณวุฒิที่ร่วมประชุมทั้งหลายได้เสนอแนวทางที่จะยกระดับมวยสากลสมัครเล่นที่เป็นรูปธรรมมากมาย เช่น การคัดเลือกกรรมการสำหรับการชกแต่ละไฟต์ จะใช้การสุ่มโดยคอมพิวเตอร์ แทนการใช้คณะกรรมการ 3 คนเลือก คนที่จะมีสิทธิ์ได้ใบรับรองเป็นกรรมการได้จะต้องผ่านการอบรมและทดสอบแบบ “เข้มข้น” และจะมีการให้ความรู้กับนักมวย โค้ช สื่อ และแฟนมวย ว่า ชกแบบไหนได้คะแนน เพื่อให้ทุกฝ่ายมองเห็นเหมือน ๆ กัน หวังลดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ไอบายังยืนยันว่าจะใช้การให้คะแนนแบบยกละ 10 คะแนน แต่จะเปิดคะแนนกรรมการทั้ง 5 คนให้เห็นกันจะจะไปเลย จะได้รู้ว่าใครให้ใครเท่าไหร่
นอกจากนั้น ไอบายังออกมาทำการ “เชือดไก่” ด้วยการประกาศสั่งสอบสวนและห้ามกรรมการที่ทำหน้าที่ในมหกรรมโอลิมปิก “ริโอ เกมส์” ที่ผ่านมา ทั้ง 36 คน ทำหน้าที่ในการตัดสินอย่างไม่มีกำหนด แต่ดูรูปการณ์แล้วก็คงเป็นแค่การออกมาดำเนินการ “แก้เกี้ยว” ลดกระแสกดดันเท่านั้น เพราะทางไอบาเองก็ออกข่าวเป็นเชิงป้องกันตัวเองมาตลอด ว่า การตัดสินเป็นไปด้วยดี พอใจกับภาพรวม มีไม่กี่ไฟต์เท่านั้นที่คงต้องถกกัน (ไม่ได้บอกว่าตัดสินผิดหรือค้านสายตาด้วยซ้ำ) แถมยังประกาศด้วยว่าไอบาจะไม่ยอมรับคำกล่าวหาของใครที่ไม่มีมูลเด็ดขาด และจะไม่ยอมให้ผู้ตัดสินตกเป็น “แพะ” ของบรรดานักมวยและโค้ชที่เอามาอ้างเพื่อกลบเกลื่อนความอ่อนด้อยของตัวเองเป็นอันขาด
ลงพูดแบบนี้ก็จบข่าว เพราะเท่ากับว่าไอบาเองนั่นแหละ ที่เอานักมวยที่โชคร้ายต้องแพ้แบบไม่สมควรแพ้ มาเป็นข้ออ้างกลบเกลื่อนการตัดสินอันน่ากังขาของทีมกรรมการของตัวเองมากกว่า แบบนี้วงการก็คงไม่ไปไหนและรอวันเสื่อมลงเรื่อย ๆ นั่นเอง
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *
มหกรรมกีฬาโอลิมปิก “ริโอ เกมส์” ที่ผ่านมา ทัพมวยสากลสมัครเล่นไทย ทำผลงานไม่เข้าเป้ากลับบ้านมือเปล่าไร้เหรียญใด ๆ เป็นครั้งแรกในรอบ 40 ปี จากที่เคยเป็นกีฬาความหวังของแฟน ๆ มาตลอด ส่วนหนึ่งต้องยอมรับว่าสไตล์การชกของนักมวยไทยนั้นตกยุคไปแล้ว
แต่บางไฟต์ก็ต้องเห็นใจว่านักชกไทยโดนผลกระทบจากการตัดสินเข้าเต็ม ๆ ที่ชัดเจนสุดก็คือ “เจ้าสด” ฉัตรชัย บุตรดี ที่ดักต่อยคู่ชกรัสเซียจนกระเด็นกระดอนไปมาในรอบ 16 คนสุดท้าย แต่กรรมการพร้อมใจกันเทคะแนนให้นักชกรัสเซียที่เดินหน้ารับหมัดอย่างเดียว จนนักชกตัวความหวังของไทยตกรอบไปแบบเจ็บปวด
ไม่เท่านั้น นักชกรัสเซียรายนี้ยังตั้งหน้าตั้งตาเดินเข้ารับหมัดยอดฝีมือชาวไอร์แลนด์ในรอบ 8 คนสุดท้ายตลอด 3 ยก สุดท้ายกรรมการมองมุมไหนไม่ทราบเทคะแนนให้นักชกรัสเซียเข้ารอบไปคว้าเหรียญทองแดงเข้าอีก และนอกจากสองไฟต์นี้แล้ว ก็ยังมีอีกหลายไฟต์ที่ผลการตัดสินออกมาแบบ “ค้านสายตา” เรียกเสียงวิจารณ์ (ด่า) กระหึ่มจากทุกทิศ ทาง ไอบา หรือสหพันธ์มวยสากลนานาชาติ ก็นั่งไม่ติด เพราะมวยสากลสมัครเล่นนั้นถูกจับตามองเรื่องการตัดสินมาตลอด จนโอลิมปิกเคยเปรย ๆ ว่าถ้าไม่ทำให้โปร่งใสกว่านี้ อาจถูกพิจารณาตัดออกจากการร่วมในโอลิมปิกได้ เลยจัดประชุมนัดพิเศษขึ้นเมื่อช่วงวันที่ 3 - 5 ตุลาคม ที่ผ่านมา ที่กรุงโลซานน์ สวิตเซอร์แลนด์ เพื่อหวังสังคายนาการตัดสินให้เป็นที่ยอมรับมากขึ้น
ผลการประชุม ชิง กั๊วะ วู ประธานสหพันธ์ฯ ออกมาแถลงหน้าชื่นว่า บรรดาผู้ทรงคุณวุฒิที่ร่วมประชุมทั้งหลายได้เสนอแนวทางที่จะยกระดับมวยสากลสมัครเล่นที่เป็นรูปธรรมมากมาย เช่น การคัดเลือกกรรมการสำหรับการชกแต่ละไฟต์ จะใช้การสุ่มโดยคอมพิวเตอร์ แทนการใช้คณะกรรมการ 3 คนเลือก คนที่จะมีสิทธิ์ได้ใบรับรองเป็นกรรมการได้จะต้องผ่านการอบรมและทดสอบแบบ “เข้มข้น” และจะมีการให้ความรู้กับนักมวย โค้ช สื่อ และแฟนมวย ว่า ชกแบบไหนได้คะแนน เพื่อให้ทุกฝ่ายมองเห็นเหมือน ๆ กัน หวังลดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ไอบายังยืนยันว่าจะใช้การให้คะแนนแบบยกละ 10 คะแนน แต่จะเปิดคะแนนกรรมการทั้ง 5 คนให้เห็นกันจะจะไปเลย จะได้รู้ว่าใครให้ใครเท่าไหร่
นอกจากนั้น ไอบายังออกมาทำการ “เชือดไก่” ด้วยการประกาศสั่งสอบสวนและห้ามกรรมการที่ทำหน้าที่ในมหกรรมโอลิมปิก “ริโอ เกมส์” ที่ผ่านมา ทั้ง 36 คน ทำหน้าที่ในการตัดสินอย่างไม่มีกำหนด แต่ดูรูปการณ์แล้วก็คงเป็นแค่การออกมาดำเนินการ “แก้เกี้ยว” ลดกระแสกดดันเท่านั้น เพราะทางไอบาเองก็ออกข่าวเป็นเชิงป้องกันตัวเองมาตลอด ว่า การตัดสินเป็นไปด้วยดี พอใจกับภาพรวม มีไม่กี่ไฟต์เท่านั้นที่คงต้องถกกัน (ไม่ได้บอกว่าตัดสินผิดหรือค้านสายตาด้วยซ้ำ) แถมยังประกาศด้วยว่าไอบาจะไม่ยอมรับคำกล่าวหาของใครที่ไม่มีมูลเด็ดขาด และจะไม่ยอมให้ผู้ตัดสินตกเป็น “แพะ” ของบรรดานักมวยและโค้ชที่เอามาอ้างเพื่อกลบเกลื่อนความอ่อนด้อยของตัวเองเป็นอันขาด
ลงพูดแบบนี้ก็จบข่าว เพราะเท่ากับว่าไอบาเองนั่นแหละ ที่เอานักมวยที่โชคร้ายต้องแพ้แบบไม่สมควรแพ้ มาเป็นข้ออ้างกลบเกลื่อนการตัดสินอันน่ากังขาของทีมกรรมการของตัวเองมากกว่า แบบนี้วงการก็คงไม่ไปไหนและรอวันเสื่อมลงเรื่อย ๆ นั่นเอง
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *