กอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เร่งนำแผนเสนอตัวเป็นเจ้าภาพรถจักรยานยนต์ชิงแชมป์โลก “โมโตจีพี” 2018 เข้าครม. ให้ทันใน 1-2 เดือนนี้ เพื่อมีเวลาในการเตรียมตัว
เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม ที่ผ่านมา ณ ห้องประชุม 1 ชั้น 2 กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาฯ “มาดามน้อง” กอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานประชุมโครงการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันรถจักรยานยนต์ชิงแชมป์โลก “โมโตจีพี” ประจำปี 2561 - 2563
โดย นายตนัยศิริ ชาญวิทยารมณ์ ผู้อำนวยการสนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต ได้เผยถึงความคืบหน้าในการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพโมโตจีพี 2018 ว่า “สำหรับการจัดแข่งขันโมโตจีพีที่ผ่านมาของประเทศอื่น จะเห็นว่า มีผู้ชมให้ความสนใจไม่ต่ำ 1 แสนคน แน่นอนว่า จะช่วยให้มีรายได้หมุนเวียนในประเทศ และประชาสัมพันธ์ให้ทั่วโลกรู้จักประเทศไทย ซึ่งจังหวัดบุรีรัมย์มีความพร้อมในเรื่องที่พัก บุคลากร อีกทั้งยังมีสถานที่ท่องเที่ยวไว้รองรับนักท่องเที่ยว”
“นอกจากนี้ จังหวัดอื่น ๆ ในภาคอีสาน ก็ล้วนแต่มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ โดยที่ผ่านมา สนามช้างฯ ยังได้จัดแคมเปญท่องเที่ยวร่วมกับ จังหวัดเชียงใหม่ พัทยา หรือ กระบี่ เพื่อดึงให้นักท่องเที่ยวอยู่ในประเทศไทยนานที่สุด อีกทั้งยังกระจายรายได้ให้ทั่วถึงทุกพื้นที่ในประเทศไทย”
ทั้งนี้ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ยังกล่าวอีกว่า “ที่ผ่านมา ประเทศมาเลเซีย นำกีฬาเข้ามาช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศอย่างดี โดยใช้สนามเซปัง ซึ่งอยู่ไกลจากเมืองหลวง แต่สร้างรายได้สูงถึง 142 ล้านบาทต่อปี เพราะมีการกระตุ้นการท่องเที่ยวควบคู่ไปด้วย ทั้งที่เป็นประเทศเล็กกว่าเรา จึงมั่นใจว่าหากไทยได้สิทธิ์เป็นเจ้าภาพในรายการนี้ จะได้รับความนิยมไม่แตกต่างจากประเทศเพื่อนบ้านแน่นอน”
ด้าน “มาดามน้อง” กล่าวยืนยันว่า ไทยจะเสนอการเป็นเจ้าภาพ โมโตจีพี 2018 แน่นอน โดยอยู่ในขั้นตอนเสนอแผนให้สำนักงบประมาณพิจารณา ก่อนเสนอต่อคณะรัฐมนตรี เพื่ออนุมัติ “เบื้องต้นได้ประมาณค่าใช้จ่ายไว้ที่ 347 ล้านบาท (เป็นค่าเซ็นสัญญา 300 ล้านบาท ระยะเวลา 3 ปี และค่าเตรียมความพร้อมด้านอื่น ๆ) โดยรัฐจะช่วยออกค่าใช้จ่าย 170 ล้าน, ภาคเอกชน 100 ล้าน และรายได้จากการจำหน่ายตั๋ว 80 ล้าน”
“โดยงบประมาณดังกล่าวจะต้องเสนอให้ผ่านสำนักงบประมาณก่อน เพราะเป็นการเซ็นสัญญายาวถึง 3 ปี แต่ระยะเวลาการทำงานของรัฐบาลชุดนี้มีเพียง 1 ปี จึงต้องให้สำนักงบประมาณพิจารณาความเหมาะสม จากนั้นจึงจะนำเสนอต่อ ครม. ให้รับรองโครงการและดำเนินการต่อได้ โดยจะเร่งให้ผ่านทัน 1 - 2 เดือนนี้ เพื่อเตรียมจัดแข่งขันในปี 2018 เพราะแผนเดิมที่จะแข่งปี 2017 นั้นล่วงเลยกำหนดการเสนอเป็นเจ้าภาพแล้ว”
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *