โอกาสทอง เนวิน เดินเครื่องดันธุรกิจโต บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เข้าตลาดหุ้นปีหน้า ความสัมพันธ์กับผู้ใหญ่แน่น กระตุกรัฐบาลสานต่อเจ้าภาพ Moto GP ชูเม็ดเงินหมื่นล้าน ประเคนสนามแข่งรถที่บุรีรัมย์เป็นสังเวียน สร้างเครดิตระดับโลกให้สนามแข่งรถของเนวิน ต่อยอดได้อีกเพียบ คาดเป้าหมายดันสนามแข่งรถเข้าตลาดหุ้นอีกราย
หลังการประกาศหันหลังทางการเมืองของนายเนวิน ชิดชอบ อดีตนักการเมืองคนดังแห่งจังหวัดบุรีรัมย์ ที่มีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนสถานะความเป็นรัฐบาลได้ทุกเมื่อ หากกลุ่มของเขาย้ายขั้วไปร่วมมือทางการเมืองกับพรรคการเมืองใด แม้กระทั่งช่วงที่เขาถูกคำสั่งเว้นวรรคทางการเมืองก็ยังสานฝันให้พรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลได้
ไม่ว่าจะเป็นความตั้งใจหรือเป็นความลงตัวของช่วงสถานการณ์ การเข้ามาทำสโมสรฟุตบอลจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ปลุกปั้นจนกลายเป็นบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดในทุกวันนี้ ทำให้ชื่อของเนวิน ชิดชอบ กลับขึ้นมาอยู่ในสายตาของผู้คนทั้งประเทศอีกครั้ง จากผลงานที่บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด คว้าแชมป์ในประเทศเป็นว่าเล่น และไต่ขึ้นไปสู่เวทีระดับเอเชีย แต่ในฤดูกาลที่ผ่านมาผลงานของบุรีรัมย์ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร
เป้าหมายของเนวินนั้น ไม่ได้ทำสโมสรฟุตบอลเพียงเพื่อใจรักเพียงอย่างเดียว แต่กระบวนการบริหารจัดการสโมสรฟุตบอลของเขาดำเนินการในเชิงธุรกิจเต็มรูปแบบ ไม่แพ้สโมสรฟุตบอลในต่างประเทศ ทั้งในเรื่องการสร้างฐานแฟนคลับ สร้างรายได้ รวมไปถึงการซื้อขายตัวนักฟุตบอล
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เข้าตลาดหุ้น
ในปี 2561 เขาตั้งเป้าหมายจะพาสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่เขาปลุกปั้นมาเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หลังจากที่มีการเตรียมการมาตั้งแต่ปี 2558 หากสำเร็จจะเป็นสโมสรฟุตบอลรายแรกของประเทศที่ได้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้สโมสรฟุตบอลบีอีซี-เทโร เคยเตรียมการระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ไว้ก่อน แต่ด้วยอุปสรรคต่าง ๆ ทำให้ไม่มีการสานต่อในเรื่องนี้
“เราเตรียมพร้อมอยู่แล้วสำหรับการเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ ตอนนี้วางแผนไว้ว่าจะเป็นในปี 2561 ซึ่งก็คือปีหน้า การเข้าสู่ตลาดทุนก็เพื่อเป็นการระดมทุนเพิ่มความแข็งแกร่งของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในอนาคตที่จะต้องดีกว่าเดิม” คำกล่าวของประธานสโมสร บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
ชื่อของเนวิน ที่เคยเป็นลบในสายตาของคอการเมือง ถูกสร้างให้ขึ้นมาเป็นเนวินคนใหม่ รักฟุตบอล ประสบความสำเร็จและช่วยพัฒนาวงการฟุตบอล คนรู้จักทั้งประเทศ จนกระทั่งแฟนฟุตบอลจำนวนไม่น้อยหันมาสนับสนุนเขาให้เข้ามาบริหารสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยแทนนายวรวีร์ มะกูดีร์ ที่บริหารงานอยู่ ซึ่งในขณะนั้นผลงานของฟุตบอลทีมชาติไทยตกต่ำ
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด นับว่าเป็นอาณาจักรหนึ่งของเนวิน และเป็นทั้งธุรกิจขนาดหลายพันล้านบาท ยิ่งหากได้เข้าเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ด้วยแล้ว ไม่เพียงแค่การได้เงินส่วนหนึ่งมาปรับปรุงและพัฒนาทีมฟุตบอลของเขาเท่านั้น แต่ยังหมายถึงส่วนต่างของราคาหุ้นและกรรมวิธีหารายได้จากราคาหุ้นซึ่งในอดีตเหล่านักการเมืองกลุ่ม 16 ก็เชี่ยวชาญในเรื่องนี้
เป็นอันว่าวันนี้เขากลายเป็นเจ้าของธุรกิจพันล้านไปเรียบร้อยแล้ว
ดัน “บุรีรัมย์ เซอร์กิต” รับงานโมโตจีพี
อาณาจักรของเนวิน ไม่ได้มีเพียงแค่สโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดเท่านั้น แต่ยังมีสนามแข่งขันรถทางเรียบในมาตรฐานระดับโลกอีกในนาม บุรีรัมย์ อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต สร้างเสร็จเมื่อปี 2557 ที่แยกส่วนกับสินทรัพย์ของสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ออกจากกัน
ที่ผ่านมาบุรีรัมย์ อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต หรือชื่อที่เรียกตามสปอนเซอร์ว่า ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต มีการจัดการแข่งขันทั้งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ระดับน้อง ๆ รายการระดับโลกมาบ้างแล้ว อย่างเวิลด์ ซูเปอร์ไบค์ แต่ยังขยับไปไม่ถึงรายการแข่งรถระดับโลกอย่างฟอร์มูล่า-วัน และโมโตจีพี
แต่แนวคิดที่จะใช้สนามบุรีรัมย์ อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ไว้จัดการแข่งขันระดับโลกนั้น อยู่ในเป้าหมายของเขามาโดยตลอด ซึ่งเคยกล่าวถึงเรื่องนี้ไว้ตั้งแต่ปี 2558 แต่เริ่มเป็นจริงเป็นจังมากขึ้นในช่วงตุลาคม 2559 หลังจากที่นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้เดินหน้าเรื่องแผนเสนอตัวเป็นเจ้าภาพรถจักรยานยนต์ชิงแชมป์โลก โมโตจีพี 2018 เข้าคณะรัฐมนตรี
ด้วยงบประมาณในการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันมีค่าใช้จ่ายประมาณ 347 ล้านบาท แยกเป็น ค่าเซ็นสัญญา 300 ล้านบาท ระยะเวลา 3 ปี และค่าเตรียมความพร้อมด้านอื่น ๆ โดยรัฐจะช่วยออกค่าใช้จ่าย 170 ล้านบาท ภาคเอกชน 100 ล้านบาท และรายได้จากการจำหน่ายตั๋ว 80 ล้านบาท
กระตุกรัฐอย่าล้มงานใหญ่
แต่ดูเหมือนเรื่องจะเงียบหายไป จนต้นเดือนกุมภาพันธ์นายเนวินต้องออกมากล่าวถึงเรื่องนี้อีกครั้ง หลังจากแผนการเป็นเจ้าภาพโมโตจีพี 2018 อาจมีปัญหาทางด้านงบประมาณจากรัฐบาล
“ถ้าเงิน 100 ล้าน ไม่ได้รับการอนุมัติ ก็คงเป็นกรรมของประเทศนี้ ถ้ารายได้จากการจัดครั้งนี้รวมไปถึงอุตสาหกรรมต่อเนื่อง แลกกับเงินร้อยล้านไม่ทำ ถ้าสติปัญญาไม่เกิด ก็คงเป็นเวรกรรมของคนไทย ซึ่งตอนนี้เขารอเรา ซึ่งกำหนดเดดไลน์คือเดือนเมษายน เพื่อให้เขาได้กำหนดปฏิทินการแข่งขันปี 2018 เขารอเราเพราะเรามีสนามที่พร้อมอยู่แล้ว”
ทั้งนี้เจ้าของสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ยังกล้าการันตีว่าการจัดการแข่งขันโมโตจีพี จะได้รายได้จากการท่องเที่ยวไม่ต่ำกว่าหมื่นล้าน ด้วยการที่รัฐบาลประกาศเป็นเจ้าภาพและลงทุนไม่ถึง 40% ของค่าใช้จ่ายทั้งหมดของการแข่งขัน ทั่วโลกรัฐบาลต้องสร้างสนามจัดการแข่งขันเอง แต่ประเทศไทยมีสนามแข่งขันอยู่แล้ว เพียงแต่รัฐบาลเสนอตัวเป็นเจ้าภาพ และออกเงินเพียง 40% แต่รายได้ที่กลับมานับได้ว่าเกินกว่าหมื่นล้าน
นับเป็นการกระตุ้นเตือนความคิดของรัฐบาลให้เห็นถึงประโยชน์ที่จะได้รับ จากการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพโมโตจีพี
ทุกอย่างลงตัว
ตอนนี้อดีตหัวเรือใหญ่ของกลุ่มภูมิใจไทยรุกเรื่องธุรกิจมากในรัฐบาลชุดนี้ อย่างเรื่องการนำเอาบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เข้าตลาดหลักทรัพย์นั้น ทางบุรีรัมย์ได้เตรียมการมาระดับหนึ่งแล้วและจะดันเข้าตลาดหุ้นในปีหน้า
ทั้งนี้มูลค่าของสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อยู่ในระดับหลักพันล้านบาท อีกทั้งฟุตบอลสมัยใหม่ยังสามารถต่อยอดและสร้างรายได้เพิ่มเติมได้อีกหลายช่องทาง ซึ่งในอนาคตทีมใหญ่ ๆ ก็จะมีช่องทีวีเป็นของตัวเอง สามารถสร้างรายได้ให้กับทีมได้อีกทั้งเรื่องโฆษณาในรายการและขายลิขสิทธิ์รายการ
อีกทั้งทีมบุรีรัมย์ได้ทำการตลาดกับประเทศเพื่อนบ้านลุ่มแม่น้ำโขงมาตลอด ทำให้มีแฟนคลับต่างประเทศในระดับหนึ่ง รวมไปถึงกฎใหม่ที่มีโควตานักฟุตบอลอาเซียน ย่อมทำให้การขยายฐานผู้ชมในต่างประเทศทำได้เพิ่มขึ้น หรืออย่างน้อย Academy ของบุรีรัมย์ก็สามารถเป็นแหล่งผลิตนักฟุตบอลให้กับประเทศเพื่อนบ้านได้ด้วยมาตรฐานที่เหนือกว่า
จากนี้กิจกรรมทั้งหมดของสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จะมีผลต่อการขึ้นลงของราคาหุัน หากผลงานของสโมสรได้แชมป์ต่อเนื่อง หรือก้าวไปสู่รอบลึก ๆ ของฟุตบอลรายการสโมสรเอเชีย สิ่งเหล่านี้จะมีผลต่อราคาหุ้นในด้านบวก
ทุกอย่างดูลงตัวไปหมด วงการฟุตบอลก็มีพลตำรวจเอกสมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ที่สนิทสนมและให้การสนับสนุนกันมาก่อน เข้ามาเป็นนายกสมาคมฟุตบอล รวมไปถึงคนสนิทอีกรายอย่างวิชัย ศรีวัฒนประภา เจ้าสัวคิงส์ เพาเวอร์ เจ้าของสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ แชมป์พรีเมียร์ลีกในฤดูกาลก่อน ล่าสุดกลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในไทยแอร์เอเชีย ดังนั้นคอนเนกชันในวงการฟุตบอลของเนวินนับว่าหายห่วง
คอนเนกชันดีต้องรีบดัน
ไม่เพียงแค่เรื่องของฟุตบอล เนวินยังทุ่มทุนสร้างสนามแข่งขันรถยนต์มาตรฐานระดับโลกอีก ใช้จัดการแข่งขันระดับนานาชาติ และพยายามผลักดันให้ประเทศไทยจัดการแข่งขันระดับฟอร์มูล่า-วัน แต่ด้วยงบประมาณที่สูง เป้าหมายจึงลดลงมาเหลือระดับโมโตจีพี หรือรายการแข่งขันรถจักรยานยนต์ชิงแชมป์โลกแทน
และก็ไม่ผิดหวังเมื่อรัฐบาลชุดพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เห็นด้วยกับแนวทางดังกล่าว เพราะเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่จะดึงนักท่องเที่ยวให้เข้ามาประเทศไทย อีกทั้งประเทศเพื่อนบ้านอย่างมาเลเซียและสิงคโปร์ก็มีการจัดการแข่งขันประเภทนี้เช่นกัน
การเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางถนนชิงแชมป์โลก หรือ MOTO GP โดยใช้สนามแข่งรถที่บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นสนามแข่งรถที่ได้มาตรฐานโลกเพียงแห่งเดียวในประเทศไทย นับได้ว่าเป็นความลงตัวกับแนวทางนี้ คือคุณเนวิน มีสนามแข่งรถอยู่แล้ว เพียงแต่ให้รัฐบาลออกหน้าในการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพ และร่วมกันรับผิดชอบเรื่องค่าใช้จ่ายจำนวนหนึ่ง
งานนี้คนที่จะได้มากที่สุดนั่นคือเจ้าของสนามแข่ง เพราะการได้สิทธิ์จัดการแข่งขันระดับโลกอย่างนี้ต้องเป็นเรื่องระดับรัฐบาล หากวันใดที่ประเทศไทยหลุดจากผังนี้ไป เจ้าของสนามก็สามารถที่จะต่อยอดจัดการแข่งขันรายการอื่น ๆ จากเครดิตในครั้งนี้ได้ ซึ่งจะทำให้ยอดในการใช้สนามแข่งรถที่บุรีรัมย์มีอย่างต่อเนื่อง
หากมีการนำไปต่อยอดด้วยการนำสนามแข่งขันแห่งนี้เข้าเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ก็จะกลายเป็นธุรกิจที่ 2 ของเนวิน ชิดชอบ ที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์
ช่วงนี้ถือว่าเป็นช่วงที่ดีสำหรับธุรกิจของคุณเนวิน เนื่องจากมีปัจจัยหนุนหลาย ๆ ด้าน โดยเฉพาะเรื่องความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้ใหญ่ในรัฐบาล การผลักดันโครงการต่าง ๆ ในทางธุรกิจจึงเดินหน้าได้ตามเป้าหมายแม้จะสะดุดบ้างในเรื่องของเจ้าภาพโมโตจีพี 2018 แต่ยังมีเวลาให้รัฐบาลอีกจนถึงเดือนเมษายน
หลังการประกาศหันหลังทางการเมืองของนายเนวิน ชิดชอบ อดีตนักการเมืองคนดังแห่งจังหวัดบุรีรัมย์ ที่มีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนสถานะความเป็นรัฐบาลได้ทุกเมื่อ หากกลุ่มของเขาย้ายขั้วไปร่วมมือทางการเมืองกับพรรคการเมืองใด แม้กระทั่งช่วงที่เขาถูกคำสั่งเว้นวรรคทางการเมืองก็ยังสานฝันให้พรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลได้
ไม่ว่าจะเป็นความตั้งใจหรือเป็นความลงตัวของช่วงสถานการณ์ การเข้ามาทำสโมสรฟุตบอลจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ปลุกปั้นจนกลายเป็นบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดในทุกวันนี้ ทำให้ชื่อของเนวิน ชิดชอบ กลับขึ้นมาอยู่ในสายตาของผู้คนทั้งประเทศอีกครั้ง จากผลงานที่บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด คว้าแชมป์ในประเทศเป็นว่าเล่น และไต่ขึ้นไปสู่เวทีระดับเอเชีย แต่ในฤดูกาลที่ผ่านมาผลงานของบุรีรัมย์ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร
เป้าหมายของเนวินนั้น ไม่ได้ทำสโมสรฟุตบอลเพียงเพื่อใจรักเพียงอย่างเดียว แต่กระบวนการบริหารจัดการสโมสรฟุตบอลของเขาดำเนินการในเชิงธุรกิจเต็มรูปแบบ ไม่แพ้สโมสรฟุตบอลในต่างประเทศ ทั้งในเรื่องการสร้างฐานแฟนคลับ สร้างรายได้ รวมไปถึงการซื้อขายตัวนักฟุตบอล
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เข้าตลาดหุ้น
ในปี 2561 เขาตั้งเป้าหมายจะพาสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่เขาปลุกปั้นมาเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หลังจากที่มีการเตรียมการมาตั้งแต่ปี 2558 หากสำเร็จจะเป็นสโมสรฟุตบอลรายแรกของประเทศที่ได้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้สโมสรฟุตบอลบีอีซี-เทโร เคยเตรียมการระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ไว้ก่อน แต่ด้วยอุปสรรคต่าง ๆ ทำให้ไม่มีการสานต่อในเรื่องนี้
“เราเตรียมพร้อมอยู่แล้วสำหรับการเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ ตอนนี้วางแผนไว้ว่าจะเป็นในปี 2561 ซึ่งก็คือปีหน้า การเข้าสู่ตลาดทุนก็เพื่อเป็นการระดมทุนเพิ่มความแข็งแกร่งของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในอนาคตที่จะต้องดีกว่าเดิม” คำกล่าวของประธานสโมสร บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
ชื่อของเนวิน ที่เคยเป็นลบในสายตาของคอการเมือง ถูกสร้างให้ขึ้นมาเป็นเนวินคนใหม่ รักฟุตบอล ประสบความสำเร็จและช่วยพัฒนาวงการฟุตบอล คนรู้จักทั้งประเทศ จนกระทั่งแฟนฟุตบอลจำนวนไม่น้อยหันมาสนับสนุนเขาให้เข้ามาบริหารสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยแทนนายวรวีร์ มะกูดีร์ ที่บริหารงานอยู่ ซึ่งในขณะนั้นผลงานของฟุตบอลทีมชาติไทยตกต่ำ
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด นับว่าเป็นอาณาจักรหนึ่งของเนวิน และเป็นทั้งธุรกิจขนาดหลายพันล้านบาท ยิ่งหากได้เข้าเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ด้วยแล้ว ไม่เพียงแค่การได้เงินส่วนหนึ่งมาปรับปรุงและพัฒนาทีมฟุตบอลของเขาเท่านั้น แต่ยังหมายถึงส่วนต่างของราคาหุ้นและกรรมวิธีหารายได้จากราคาหุ้นซึ่งในอดีตเหล่านักการเมืองกลุ่ม 16 ก็เชี่ยวชาญในเรื่องนี้
เป็นอันว่าวันนี้เขากลายเป็นเจ้าของธุรกิจพันล้านไปเรียบร้อยแล้ว
ดัน “บุรีรัมย์ เซอร์กิต” รับงานโมโตจีพี
อาณาจักรของเนวิน ไม่ได้มีเพียงแค่สโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดเท่านั้น แต่ยังมีสนามแข่งขันรถทางเรียบในมาตรฐานระดับโลกอีกในนาม บุรีรัมย์ อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต สร้างเสร็จเมื่อปี 2557 ที่แยกส่วนกับสินทรัพย์ของสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ออกจากกัน
ที่ผ่านมาบุรีรัมย์ อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต หรือชื่อที่เรียกตามสปอนเซอร์ว่า ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต มีการจัดการแข่งขันทั้งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ระดับน้อง ๆ รายการระดับโลกมาบ้างแล้ว อย่างเวิลด์ ซูเปอร์ไบค์ แต่ยังขยับไปไม่ถึงรายการแข่งรถระดับโลกอย่างฟอร์มูล่า-วัน และโมโตจีพี
แต่แนวคิดที่จะใช้สนามบุรีรัมย์ อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ไว้จัดการแข่งขันระดับโลกนั้น อยู่ในเป้าหมายของเขามาโดยตลอด ซึ่งเคยกล่าวถึงเรื่องนี้ไว้ตั้งแต่ปี 2558 แต่เริ่มเป็นจริงเป็นจังมากขึ้นในช่วงตุลาคม 2559 หลังจากที่นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้เดินหน้าเรื่องแผนเสนอตัวเป็นเจ้าภาพรถจักรยานยนต์ชิงแชมป์โลก โมโตจีพี 2018 เข้าคณะรัฐมนตรี
ด้วยงบประมาณในการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันมีค่าใช้จ่ายประมาณ 347 ล้านบาท แยกเป็น ค่าเซ็นสัญญา 300 ล้านบาท ระยะเวลา 3 ปี และค่าเตรียมความพร้อมด้านอื่น ๆ โดยรัฐจะช่วยออกค่าใช้จ่าย 170 ล้านบาท ภาคเอกชน 100 ล้านบาท และรายได้จากการจำหน่ายตั๋ว 80 ล้านบาท
กระตุกรัฐอย่าล้มงานใหญ่
แต่ดูเหมือนเรื่องจะเงียบหายไป จนต้นเดือนกุมภาพันธ์นายเนวินต้องออกมากล่าวถึงเรื่องนี้อีกครั้ง หลังจากแผนการเป็นเจ้าภาพโมโตจีพี 2018 อาจมีปัญหาทางด้านงบประมาณจากรัฐบาล
“ถ้าเงิน 100 ล้าน ไม่ได้รับการอนุมัติ ก็คงเป็นกรรมของประเทศนี้ ถ้ารายได้จากการจัดครั้งนี้รวมไปถึงอุตสาหกรรมต่อเนื่อง แลกกับเงินร้อยล้านไม่ทำ ถ้าสติปัญญาไม่เกิด ก็คงเป็นเวรกรรมของคนไทย ซึ่งตอนนี้เขารอเรา ซึ่งกำหนดเดดไลน์คือเดือนเมษายน เพื่อให้เขาได้กำหนดปฏิทินการแข่งขันปี 2018 เขารอเราเพราะเรามีสนามที่พร้อมอยู่แล้ว”
ทั้งนี้เจ้าของสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ยังกล้าการันตีว่าการจัดการแข่งขันโมโตจีพี จะได้รายได้จากการท่องเที่ยวไม่ต่ำกว่าหมื่นล้าน ด้วยการที่รัฐบาลประกาศเป็นเจ้าภาพและลงทุนไม่ถึง 40% ของค่าใช้จ่ายทั้งหมดของการแข่งขัน ทั่วโลกรัฐบาลต้องสร้างสนามจัดการแข่งขันเอง แต่ประเทศไทยมีสนามแข่งขันอยู่แล้ว เพียงแต่รัฐบาลเสนอตัวเป็นเจ้าภาพ และออกเงินเพียง 40% แต่รายได้ที่กลับมานับได้ว่าเกินกว่าหมื่นล้าน
นับเป็นการกระตุ้นเตือนความคิดของรัฐบาลให้เห็นถึงประโยชน์ที่จะได้รับ จากการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพโมโตจีพี
ทุกอย่างลงตัว
ตอนนี้อดีตหัวเรือใหญ่ของกลุ่มภูมิใจไทยรุกเรื่องธุรกิจมากในรัฐบาลชุดนี้ อย่างเรื่องการนำเอาบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เข้าตลาดหลักทรัพย์นั้น ทางบุรีรัมย์ได้เตรียมการมาระดับหนึ่งแล้วและจะดันเข้าตลาดหุ้นในปีหน้า
ทั้งนี้มูลค่าของสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อยู่ในระดับหลักพันล้านบาท อีกทั้งฟุตบอลสมัยใหม่ยังสามารถต่อยอดและสร้างรายได้เพิ่มเติมได้อีกหลายช่องทาง ซึ่งในอนาคตทีมใหญ่ ๆ ก็จะมีช่องทีวีเป็นของตัวเอง สามารถสร้างรายได้ให้กับทีมได้อีกทั้งเรื่องโฆษณาในรายการและขายลิขสิทธิ์รายการ
อีกทั้งทีมบุรีรัมย์ได้ทำการตลาดกับประเทศเพื่อนบ้านลุ่มแม่น้ำโขงมาตลอด ทำให้มีแฟนคลับต่างประเทศในระดับหนึ่ง รวมไปถึงกฎใหม่ที่มีโควตานักฟุตบอลอาเซียน ย่อมทำให้การขยายฐานผู้ชมในต่างประเทศทำได้เพิ่มขึ้น หรืออย่างน้อย Academy ของบุรีรัมย์ก็สามารถเป็นแหล่งผลิตนักฟุตบอลให้กับประเทศเพื่อนบ้านได้ด้วยมาตรฐานที่เหนือกว่า
จากนี้กิจกรรมทั้งหมดของสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จะมีผลต่อการขึ้นลงของราคาหุัน หากผลงานของสโมสรได้แชมป์ต่อเนื่อง หรือก้าวไปสู่รอบลึก ๆ ของฟุตบอลรายการสโมสรเอเชีย สิ่งเหล่านี้จะมีผลต่อราคาหุ้นในด้านบวก
ทุกอย่างดูลงตัวไปหมด วงการฟุตบอลก็มีพลตำรวจเอกสมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ที่สนิทสนมและให้การสนับสนุนกันมาก่อน เข้ามาเป็นนายกสมาคมฟุตบอล รวมไปถึงคนสนิทอีกรายอย่างวิชัย ศรีวัฒนประภา เจ้าสัวคิงส์ เพาเวอร์ เจ้าของสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ แชมป์พรีเมียร์ลีกในฤดูกาลก่อน ล่าสุดกลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในไทยแอร์เอเชีย ดังนั้นคอนเนกชันในวงการฟุตบอลของเนวินนับว่าหายห่วง
คอนเนกชันดีต้องรีบดัน
ไม่เพียงแค่เรื่องของฟุตบอล เนวินยังทุ่มทุนสร้างสนามแข่งขันรถยนต์มาตรฐานระดับโลกอีก ใช้จัดการแข่งขันระดับนานาชาติ และพยายามผลักดันให้ประเทศไทยจัดการแข่งขันระดับฟอร์มูล่า-วัน แต่ด้วยงบประมาณที่สูง เป้าหมายจึงลดลงมาเหลือระดับโมโตจีพี หรือรายการแข่งขันรถจักรยานยนต์ชิงแชมป์โลกแทน
และก็ไม่ผิดหวังเมื่อรัฐบาลชุดพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เห็นด้วยกับแนวทางดังกล่าว เพราะเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่จะดึงนักท่องเที่ยวให้เข้ามาประเทศไทย อีกทั้งประเทศเพื่อนบ้านอย่างมาเลเซียและสิงคโปร์ก็มีการจัดการแข่งขันประเภทนี้เช่นกัน
การเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางถนนชิงแชมป์โลก หรือ MOTO GP โดยใช้สนามแข่งรถที่บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นสนามแข่งรถที่ได้มาตรฐานโลกเพียงแห่งเดียวในประเทศไทย นับได้ว่าเป็นความลงตัวกับแนวทางนี้ คือคุณเนวิน มีสนามแข่งรถอยู่แล้ว เพียงแต่ให้รัฐบาลออกหน้าในการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพ และร่วมกันรับผิดชอบเรื่องค่าใช้จ่ายจำนวนหนึ่ง
งานนี้คนที่จะได้มากที่สุดนั่นคือเจ้าของสนามแข่ง เพราะการได้สิทธิ์จัดการแข่งขันระดับโลกอย่างนี้ต้องเป็นเรื่องระดับรัฐบาล หากวันใดที่ประเทศไทยหลุดจากผังนี้ไป เจ้าของสนามก็สามารถที่จะต่อยอดจัดการแข่งขันรายการอื่น ๆ จากเครดิตในครั้งนี้ได้ ซึ่งจะทำให้ยอดในการใช้สนามแข่งรถที่บุรีรัมย์มีอย่างต่อเนื่อง
หากมีการนำไปต่อยอดด้วยการนำสนามแข่งขันแห่งนี้เข้าเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ก็จะกลายเป็นธุรกิจที่ 2 ของเนวิน ชิดชอบ ที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์
ช่วงนี้ถือว่าเป็นช่วงที่ดีสำหรับธุรกิจของคุณเนวิน เนื่องจากมีปัจจัยหนุนหลาย ๆ ด้าน โดยเฉพาะเรื่องความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้ใหญ่ในรัฐบาล การผลักดันโครงการต่าง ๆ ในทางธุรกิจจึงเดินหน้าได้ตามเป้าหมายแม้จะสะดุดบ้างในเรื่องของเจ้าภาพโมโตจีพี 2018 แต่ยังมีเวลาให้รัฐบาลอีกจนถึงเดือนเมษายน
