คอลัมน์ “TIMEOUT” โดย “สรเดช เพชรแสงใสกุล”
กลายเป็น “วาระแห่งชาติ” ไปแล้ว สำหรับ “ตำแหน่งที่ดีที่สุดของ เวย์น รูนีย์?”
ที่ขนาด โชเซ มูรินโญ นายใหญ่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังไม่รู้จึงดร็อปไปนั่งสำรองไว้ก่อน 555 ซึ่งถือว่าไม่ได้ผล เพราะทำได้แค่เปิด โอลด์ แทรฟฟอร์ด ถูก สโต๊ก ซิตี ตีเสมอ 1-1 ก่อนเบรกโปรแกรมฟีฟาเดย์
ก่อนหน้านี้ ที่ แมนฯยู ชนะรวด 3 นัด รูนีย์ ออกสตาร์ท 1 นัด ในตำแหน่งกองหน้าตัวเป้า คือ บุกชนะ นอร์ทแธมป์ตัน 3-1 ในศึก คาร์ลิง คัพ รอบ 3 จากนั้นเป็นสำรอง 2 นัด
ซึ่งจากนี้มีเวลา 2 สัปดาห์ ให้ มูรินโญ ทบทวนว่า กลับมา รูนีย์ ควรจะได้รับบทบาทใด แถมเป็นศึก “แดงเดือด” พรีเมียร์ ลีก ต้องไปเยือน แอนฟิลด์ วันที่ 17 ตุลาคมนี้ เสียด้วย อันนี้ต้องทำการบ้านหนักเลย เพราะฟอร์ม “หงส์แดง” ชนะรวดมา 4 นัด
จากนี้ อังกฤษ มีโปรแกรมทำศึก เวิลด์ คัพ 2018 รอบคัดเลือก โซนยุโรป กลุ่ม เอฟ เปิดบ้านรับมือ มอลตา วันที่ 8 ตุลาคม นี้ ตามด้วยไปเยือน สโลวีเนีย อีก 3 วันให้หลัง
มูรินโญ อาจจะขอลอกหน่อยก็ได้ว่า แกเร็ธ เซาธ์เกต กุนซือขัดตาทัพของ “สิงโตคำราม” จะส่ง รูนีย์ เล่นตำแหน่งใดและเวิร์กขนาดไหน
รูนีย์ ให้สัมภาษณ์ล่าสุดว่า ผม “เหนื่อย” เหลือเกินที่ต้องตอบคำถามนี้ เพราะบอกไปหลายครั้งแล้วว่าจะเล่นแค่ 2 ตำแหน่ง คือ “กองหน้า” กับ “มิดฟิลด์บทบาทเบอร์ 10” หรือตัวปั้นเกม
เดิมที รูนีย์ ก็ไม่ใช่พวกยิงถล่มเป็นกอบเป็นกำอยู่แล้ว โดยฤดูกาลที่ดีที่สุดตลอดชีวิตค้าแข้งที่ปัจจุบันวัย 30 ปีแล้ว ก็คือ 2009-10 กับ 2011-12 ที่ซัดไปเท่ากันคือ 34 ประตูรวมทุกรายการ
ฤดูกาลล่าสุดยิง 15 ประตูจาก 41 นัดรวมทุกรายการ ก็ถือว่าไม่ขี้เหร่สำหรับนักเตะที่อายุเลข 3 นำหน้าแถมถูก หลุยส์ ฟาน กัล สลับเล่นไปมาเดี๋ยวกลางเดี๋ยวหน้า
เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน บรมกุนซือระดับขึ้นหิ้งของ แมนฯยู ก็เคยประสบปัญหานี้มาแล้ว โดยเคยจับ รูนีย์ ไปเล่นทั้งปีกซ้ายและขวารวมถึงกองกลางก่อนที่จะพบว่าตำแหน่งที่ดีที่สุดก็คือกองหน้าตัวเป้า
นักข่าวก็ยังไม่วายวอนโดนด่าถามต่ออีกเรื่องอนาคตค้าแข้งของ รูนีย์ เพราะวันที่ 24 ตุลาคมนี้ ก็จะอายุ 31 ปีแล้ว ซึ่งเจ้าตัวก็บอกว่ายังไม่คิดเลิก หรือย้ายไปเล่นที่อื่น
อังกฤษเคยมีนักเตะที่ประสบปัญหาเดียวกับ รูนีย์ มาแล้ว ซึ่งก็คือ สตีเวน เจอร์ราร์ด กองกลางที่ปัจจุบันเล่นให้ แอลเอ กาแล็กซี
เพราะ เจอร์ราร์ด ก็อยู่ในวัยร่วงโรยไม่สามารถวิ่งเป็นม้าขึ้นลงเหมือนเมื่อก่อนจำนวนผลิตสกอร์ก็ลดลง โดย ลิเวอร์พูล เคยทดลองใช้ให้ยืนต่ำหน้าแผงแบ็กโฟร์คอยวางบอลยาวมาแล้ว รวมไปถึงถกกันขนาดจะให้เล่นเป็นสวีปเปอร์แบบ มัทเธียส ซามเมอร์ เลยก็มี
จริง ๆ ตำแหน่งที่ดีที่สุดของ รูนีย์ ก็คือ กองหน้า เพียงแค่ผ่านจุดที่ดีที่สุดมาแล้วก็เท่านั้นเองจะให้เปรี้ยงปร้างเหมือนสมัยหนุ่ม ๆ ได้อย่างไร
ซึ่ง รูนีย์ ก็ได้พิสูจน์ทุกอย่างให้เห็นแล้วด้วยสถิติยิงสูงสุดให้อังกฤษ 53 ประตู และกำลังไล่ล่าติดธงสูงสุดของ ปีเตอร์ ชิลตัน 125 นัดตอนนี้ห่างแค่ 9 นัด ส่วนกับ แมนฯยู ก็กำลังล่าสถิติยิงสูงสุดของ เซอร์ บ็อบบี ชาร์ลตัน ที่ทำไว้ 249 ประตูตอนนี้ห่างแค่ 3 ลูกเท่านั้น
ล่าสุด รูนีย์ ยังไม่วายถูกโห่ยับเกมที่ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงศึก เวิลด์ คัพ 2018 รอบคัดเลือก โซนยุโรป กลุ่ม เอฟ เปิดบ้านชนะ มอลตา 2-0 เมื่อวันเสาร์ที่ 8 ตุลาคม ที่ผ่านมา
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *
กลายเป็น “วาระแห่งชาติ” ไปแล้ว สำหรับ “ตำแหน่งที่ดีที่สุดของ เวย์น รูนีย์?”
ที่ขนาด โชเซ มูรินโญ นายใหญ่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังไม่รู้จึงดร็อปไปนั่งสำรองไว้ก่อน 555 ซึ่งถือว่าไม่ได้ผล เพราะทำได้แค่เปิด โอลด์ แทรฟฟอร์ด ถูก สโต๊ก ซิตี ตีเสมอ 1-1 ก่อนเบรกโปรแกรมฟีฟาเดย์
ก่อนหน้านี้ ที่ แมนฯยู ชนะรวด 3 นัด รูนีย์ ออกสตาร์ท 1 นัด ในตำแหน่งกองหน้าตัวเป้า คือ บุกชนะ นอร์ทแธมป์ตัน 3-1 ในศึก คาร์ลิง คัพ รอบ 3 จากนั้นเป็นสำรอง 2 นัด
ซึ่งจากนี้มีเวลา 2 สัปดาห์ ให้ มูรินโญ ทบทวนว่า กลับมา รูนีย์ ควรจะได้รับบทบาทใด แถมเป็นศึก “แดงเดือด” พรีเมียร์ ลีก ต้องไปเยือน แอนฟิลด์ วันที่ 17 ตุลาคมนี้ เสียด้วย อันนี้ต้องทำการบ้านหนักเลย เพราะฟอร์ม “หงส์แดง” ชนะรวดมา 4 นัด
จากนี้ อังกฤษ มีโปรแกรมทำศึก เวิลด์ คัพ 2018 รอบคัดเลือก โซนยุโรป กลุ่ม เอฟ เปิดบ้านรับมือ มอลตา วันที่ 8 ตุลาคม นี้ ตามด้วยไปเยือน สโลวีเนีย อีก 3 วันให้หลัง
มูรินโญ อาจจะขอลอกหน่อยก็ได้ว่า แกเร็ธ เซาธ์เกต กุนซือขัดตาทัพของ “สิงโตคำราม” จะส่ง รูนีย์ เล่นตำแหน่งใดและเวิร์กขนาดไหน
รูนีย์ ให้สัมภาษณ์ล่าสุดว่า ผม “เหนื่อย” เหลือเกินที่ต้องตอบคำถามนี้ เพราะบอกไปหลายครั้งแล้วว่าจะเล่นแค่ 2 ตำแหน่ง คือ “กองหน้า” กับ “มิดฟิลด์บทบาทเบอร์ 10” หรือตัวปั้นเกม
เดิมที รูนีย์ ก็ไม่ใช่พวกยิงถล่มเป็นกอบเป็นกำอยู่แล้ว โดยฤดูกาลที่ดีที่สุดตลอดชีวิตค้าแข้งที่ปัจจุบันวัย 30 ปีแล้ว ก็คือ 2009-10 กับ 2011-12 ที่ซัดไปเท่ากันคือ 34 ประตูรวมทุกรายการ
ฤดูกาลล่าสุดยิง 15 ประตูจาก 41 นัดรวมทุกรายการ ก็ถือว่าไม่ขี้เหร่สำหรับนักเตะที่อายุเลข 3 นำหน้าแถมถูก หลุยส์ ฟาน กัล สลับเล่นไปมาเดี๋ยวกลางเดี๋ยวหน้า
เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน บรมกุนซือระดับขึ้นหิ้งของ แมนฯยู ก็เคยประสบปัญหานี้มาแล้ว โดยเคยจับ รูนีย์ ไปเล่นทั้งปีกซ้ายและขวารวมถึงกองกลางก่อนที่จะพบว่าตำแหน่งที่ดีที่สุดก็คือกองหน้าตัวเป้า
นักข่าวก็ยังไม่วายวอนโดนด่าถามต่ออีกเรื่องอนาคตค้าแข้งของ รูนีย์ เพราะวันที่ 24 ตุลาคมนี้ ก็จะอายุ 31 ปีแล้ว ซึ่งเจ้าตัวก็บอกว่ายังไม่คิดเลิก หรือย้ายไปเล่นที่อื่น
อังกฤษเคยมีนักเตะที่ประสบปัญหาเดียวกับ รูนีย์ มาแล้ว ซึ่งก็คือ สตีเวน เจอร์ราร์ด กองกลางที่ปัจจุบันเล่นให้ แอลเอ กาแล็กซี
เพราะ เจอร์ราร์ด ก็อยู่ในวัยร่วงโรยไม่สามารถวิ่งเป็นม้าขึ้นลงเหมือนเมื่อก่อนจำนวนผลิตสกอร์ก็ลดลง โดย ลิเวอร์พูล เคยทดลองใช้ให้ยืนต่ำหน้าแผงแบ็กโฟร์คอยวางบอลยาวมาแล้ว รวมไปถึงถกกันขนาดจะให้เล่นเป็นสวีปเปอร์แบบ มัทเธียส ซามเมอร์ เลยก็มี
จริง ๆ ตำแหน่งที่ดีที่สุดของ รูนีย์ ก็คือ กองหน้า เพียงแค่ผ่านจุดที่ดีที่สุดมาแล้วก็เท่านั้นเองจะให้เปรี้ยงปร้างเหมือนสมัยหนุ่ม ๆ ได้อย่างไร
ซึ่ง รูนีย์ ก็ได้พิสูจน์ทุกอย่างให้เห็นแล้วด้วยสถิติยิงสูงสุดให้อังกฤษ 53 ประตู และกำลังไล่ล่าติดธงสูงสุดของ ปีเตอร์ ชิลตัน 125 นัดตอนนี้ห่างแค่ 9 นัด ส่วนกับ แมนฯยู ก็กำลังล่าสถิติยิงสูงสุดของ เซอร์ บ็อบบี ชาร์ลตัน ที่ทำไว้ 249 ประตูตอนนี้ห่างแค่ 3 ลูกเท่านั้น
ล่าสุด รูนีย์ ยังไม่วายถูกโห่ยับเกมที่ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงศึก เวิลด์ คัพ 2018 รอบคัดเลือก โซนยุโรป กลุ่ม เอฟ เปิดบ้านชนะ มอลตา 2-0 เมื่อวันเสาร์ที่ 8 ตุลาคม ที่ผ่านมา
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *