“มูรินโญ” อาจพัง!! ขจัด “รูน” ตัวปัญหา ปรับแผนกู้วิกฤต “ผี”

เอเยนซี - ไม่ปกติเลยสำหรับสถานการณ์แพ้ 3 นัดรวด รวมทุกรายการของ “ผีแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โดยเฉพาะอย่างยิ่งภายใต้บังเหียน โชเซ มูรินโญ กุนซือที่ทุกคนโหยหามาตลอด และคิดว่าเป็นคนที่ใช่กับการถูกดึงเข้ามาคุมต่อจาก เดวิด มอยส์ กับ หลุยส์ ฟาน กัล ที่ผลงานไม่เข้าตา หลังรับไม้ต่อจาก เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน

“เรด เดวิลส์” ต่างตีปีก เมื่อได้ มูรินโญ เข้ามาคุมทัพเมื่อซัมเมอร์ 2016 อย่างไรก็ตาม เริ่มมีกระแสต่อต้าน เพราะล่าสุดแพ้ 3 นัดติดต่อกัน เริ่มตั้งแต่ พรีเมียร์ ลีก ที่โดน แมนเชสเตอร์ ซิตี เชือดคาบ้าน 1-2 เกมนี้ต้องยอมรับว่าสู้ไม่ได้ “เรือใบสีฟ้า” ต่อบอลจนแข้ง “ผีแดง” กลายเป็นลิงชิงบอล ตามด้วย ยูโรปา ลีก รอบแบ่งกลุ่ม บุกเสียท่า เฟเยนูร์ด 0-1 ที่อาจบอกว่าไม่เน้น เนื่องจากเป็นถ้วยรองของยุโรปและเปลี่ยนทีมค่อนข้างเยอะ แต่แมตช์ที่ไปเยือน วัตฟอร์ด และถูกยำใหญ่ 1-3 ในเกมลีกเมื่อวันที่ 18 กันยายน ที่ผ่านมา ถือว่า แมนฯยู นั้น กำลังเผชิญกับปัญหาก็ว่าได้

เริ่มตั้งแต่ มูรินโญ ที่ถูกจับจ้องเป็นพิเศษเกี่ยวกับปฏิกิริยาที่โบ้ย ลุค ชอว์ แบ็กซ้ายทีมชาติอังกฤษ คือตัวการทำบุกพ่าย วัตฟอร์ด โดยเฉพาะลูกที่ 2 ที่เสียให้ ฮวน ซูนิกา นาที 83 ทำให้ แมนฯยู ตาม 2-1 อีกครั้ง และปิดประตูในการที่จะพลิกกลับมาคว้าชัย

กรณีนี้สื่ออังกฤษตีข่าวใหญ่โต ซึ่งผิดกับ เซอร์ อเล็กซ์ ที่ถ้ามีปัญหาเกิดขึ้นจะต้องนำไปเคลียร์กันหลังบ้านหรือในห้องแต่งตัว โดยจะมีประเด็นเล็ดลอดออกมาน้อยมาก

แหล่งข่าวถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด เมาท์กับ “เดอะ ซัน” แท็บลอยด์หัวดังของเมืองผู้ดีว่า “ความขลังของ โชเซ เหมือนจะหายไป ถ้าเป็น เฟอร์กี เรื่องทำนองนี้จะไม่มีทางออกสู่สาธารณะแน่นอน ทุกอย่างต้องไปปิดประตูจัดการกัน” ประเด็นนี้จึงถือได้ว่า มูรินโญ นั้นเสียคะแนนไปแบบเต็ม ๆ

นอกจากนี้ ยังมีผลโหวตจาก “เรด อิชชู” (Red Issue) ถึงกรณีให้ดร็อป รูนีย์ เอาไว้ที่ข้างสนาม โดยออกมาในทิศทางเดียวกันสูงถึง 99.08 เปอร์เซ็นต์ หลังเกมที่แพ้ วัตฟอร์ด

รูนีย์ นั้นจะอายุ 31 ปี วันที่ 24 ตุลาคมนี้ ถือว่าที่ผ่านมาผลงานตกต่ำ เพราะถูกสลับตำแหน่งไปเล่นทั้งกองหน้าและมิดฟิลด์ จนเรียกได้ว่า ทำนักเตะนั้นเสียคนเลยทีเดียว จึงเล่นได้ย่ำแย่ทั้งกับ แมนฯยู ที่ปีที่แล้วยิงไป 8 ประตูในลีก ตามด้วยศึก ยูโร 2016 ที่ “สิงโตคำราม” ตกรอบ 16 ทีมสุดท้าย

ถ้ายังจำกันได้ เฟอร์กี ก็เคยประสบปัญหาตำแหน่งของ รูนีย์ โดยเคยโยกไปเล่นปีกซ้ายและปีกขวามาแล้ว ซึ่งก็เล่นดีแค่นัดสองนัด ก่อนในท้ายที่สุดต้องกลับมาเล่นเป็นกองหน้าเหมือนเดิม เพราะธรรมชาติของอดีตเด็กสร้าง เอฟเวอร์ตัน ไม่ได้ยิงเป็นกอบเป็นกำอยู่แล้ว ดังนั้น ยิ่งถอยต่ำยิ่งเล่นไม่ออก

แมนฯยู ฤดูกาลนี้นั้น มี ซลาตัน อิบราฮิโมวิช หอกวัย 34 ปี ที่เซ็นฟรีหลังหมดสัญญากับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ซึ่งก็ทราบกันดีว่าต้องออกสตาร์ทเป็นตัวจริงแทบทุกนัด เพราะถือเป็นแข้งระดับซุปตาร์ นอกจากนี้ ยังมี อองโตนีย์ มาร์กซิอาล กับ มาร์คัส แรชฟอร์ด เป็นตัวเลือกในแดนหน้า หวยจึงมาออกที่ รูนีย์

ถ้าจำกันได้หลังแพ้ แมนฯซิตี ทางด้าน เฮนริกห์ มคิตาร์ยาน มิดฟิลด์อาร์เมเนีย ก็ออกมาบอกว่าเล่นไม่ออก เพราะถูกถ่างไปอยู่กราบขวา ทั้งที่ตำแหน่งตนเองคือมิดฟิลด์ตัวกลาง แต่ติดทางด้าน รูนีย์ ซึ่งก็น่าจะทดลองมอบบทบาทแข้งนับเบอร์ 10 ให้ดู เพราะ “มิกกี้” เคยฝากผลงาน 11 ประตูกับ 15 แอสซิสต์ จนได้รับการโหวตให้เป็นแข้งยอดเยี่ยมประจำเวที บุนเดสลีกา เยอรมนี ฤดูกาลล่าสุด นอกจากนี้แข้งอย่าง พอล ป็อกบา มิดฟิลด์ค่าตัวสถิติโลก ก็จะมีอิสระในการปั้นเกมได้มากขึ้นด้วย

แต่การตัดสินของ มูรินโญ นั้น ก็สุ่มเสี่ยงไม่น้อย เนื่องจากหากดร็อป รูนีย์ อาจต้องรับมือกับกระแสภายในห้องแต่งตัวที่อาจจะต่อต้านก็เป็นไปได้ เพราะก่อนหน้านี้ ก็เพิ่งโยนบาปให้กับ ชอว์ ไปแล้ว เนื่องจากแข้งระดับกัปตันทีมก็ต้องเป็นตัวจริงหรือไม่ก็ย้ายออกไป สุดท้ายหากเอาไม่อยู่การ “เตะไล่โค้ช” ก็อาจเกิดขึ้นก็เป็นไปได้

มูรินโญ ก็น่าจะทราบดีถึงการที่เขาถูกไล่ออกจาก เชลซี เมื่อต้นฤดูกาลที่แล้ว ดังนั้น ทำไมเหตุการณ์ดังกล่าวจะซ้ำรอยกับที่ แมนฯยูไนเต็ด ไม่ได้ ขนาดคุม รีล มาดริด ก็เจอมาแล้วเช่นกัน

ดังนั้น มาจับตาดูกันเริ่มจาก 2 เกมจากนี้ คือ ศึก คาร์ลิง คัพ รอบ 3 ไปเยือน นอร์ทแธมป์ตัน ทาวน์ สโมสร ลีก วัน คืนวันพุธที่ 21 กันยายนนี้ ตามด้วยอีก 3 วันให้หลัง ที่จะต้องเตะศึก พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ เปิดบ้านรับมือแชมป์เก่า เลสเตอร์ ซิตี ที่หาก มูรินโญ ตัดสินใจไม่ดีอาจเป็นการบ่งบอกอนาคตจากนี้ก็เป็นไปได้ว่าจะปังหรือพัง
รูนีย์ อาจถูกดร็อปจากตัวจริง