คอลัมน์ “สกอร์บอร์ด” โดย “แมวดำ”
หลังจากที่นักกีฬาแบดมินตันไทย ไม่ประสบความสำเร็จในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก 2016 โดย “พีช” พรทิพย์ บูรณะประเสริฐสุข เป็นนักกีฬาที่ทำผลงานดีที่สุด เมื่อเข้าถึงรอบ 8 คนสุดท้าย ประเภทหญิงเดี่ยว ซึ่งหลังจบภาระกิจใน “ริโอเกมส์” ก็มีข่าวว่า 3 ผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย อย่าง สมพล คูเกษมกิจ, อุดม เหลืองเพชราภรณ์ และศักดิ์ระพี ทองสาริ ตบเท้าลาออก เพื่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น โดยตัวนายกสมาคมอย่าง คุณหญิง ปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล ยืนยันว่า เป็นการจากกันด้วยดี และประกาศรับสมัครผู้ฝึกสอนรายใหม่มาทำหน้าที่ โดยสามารถยื่นใบสมัครได้ที่สมาคมถึงสิ้นเดือนตุลาคมนี้
เรื่องนี้พิจารณากันอย่างถ่องแท้แล้วก็ต้องยอมรับว่าสมาคมแบดมินตันฯ ไม่ประสบความสำเร็จจริง ๆ ในการส่งนักกีฬาเข้าร่วมโอลิมปิก 2016 และน่าจะสมควรแก่เวลาที่จะเปลี่ยนตัวผู้ฝึกสอน เพื่อเตรียมตัวกับการแข่งขันโอลิมปิก 2020 อีก 4 ปีข้างหน้า ที่ประเทศญี่ปุ่น เพียงแต่ติดนิดเดียวตรงที่ว่ากำลังรับสมัครหาโค้ชรายใหม่นี่แหละ เหตุใดสมาคมขนไก่ที่มีคนมีความรู้ มีความเชี่ยวชาญมากมาย ถึงได้ประกาศหาโค้ชให้มาสมัครกัน เพราะน่าจะทราบดีว่านโยบายของตนเป็นอย่างไร แนวทางการพัฒนาเป็นเช่นไร โค้ชแบบไหนน่าจะเหมาะกับการพัฒนาเยาวชน ก็น่าจะทาบทามผู้ฝึกสอนที่ตอบโจทย์ของตัวเองได้ตรงประเด็นมาร่วมงาน ดีกว่ามาประกาศรับสมัครงานกันโต้ง ๆ แบบนี้
ที่สำคัญ หลังจบโอลิมปิกที่บราซิล มีแข่งขันซูเปอร์ซีรีส์ 2 รายการใหญ่ ประกอบด้วย “เจแปน โอเพน” ระหว่างวันที่ 20 - 25 กันยายน และต่อด้วย “โคเรีย โอเพน” ระหว่างวันที่ 27 กันยายน ถึง 2 ตุลาคม โดยรายการที่ญี่ปุ่น มีนักแบดมินตันไทยไปแข่งขันมากมาย โดยเฉพาะในรายของ โฆษิต เพชรประดับ ขนไก่ชายเดี่ยว มือ 57 ของโลก ที่ลงเล่นตั้งแต่รอบคัดเลือก ฝ่าด่านมาจนถึงรอบ 2 สามารถเอาชนะมือ 5 ของรายการอย่าง ฉู เทียน เฉิน จากไต้หวัน ก่อนจะมาแพ้ แยน โอ ยอร์เกนเซน มือ 3 ของรายการจากเดนมาร์ก ในรอบ 8 คนสุดท้าย ทว่า ในรายการ “โคเรีย โอเพน” จะมีนักกีฬาไทยเพียงแค่สองศรีคู่รัก “เมย์” รัชนก อินทนนท์ กับ “ตะวัน” ปัณณวิชญ์ ทองน่วม เดินทางไปแข่งขันประเภทหญิงเดี่ยว และชายเดี่ยวเท่านั้น
พอนำเรื่องนี้ไปถามทางสมาคมแบดมินตัน ก็ได้รับคำตอบแบบที่ผมเองยังงง ๆ ว่า ต้องการให้นักกีฬาไทยของเรามีสภาพความสดใหม่ของร่างกายสมบูรณ์พร้อมสำหรับการแข่งขัน “เอสซีจี ไทยแลนด์ โอเพน 2016” ระหว่างวันที่ 4 - 9 ตุลาคมนี้ ซึ่งเป็นรายการระดับกรังด์ปรีซ์ โกลด์ ที่ประเทศไทยเราเป็นเจ้าภาพ ไม่ได้บอกว่าไม่สำคัญ แต่คิดว่าผู้หลักผู้ใหญ่ในสมาคมก็น่าจะทราบ เหมือนที่แฟน ๆ ขนไก่ทั้งบางเขาก็รู้ดีว่า การส่งนักกีฬาไปแข่งขันเก็บคะแนนรายการระดับซูเปอร์ซีรีส์ นั้นเป็นเรื่องเหมาะเรื่องควรอย่างยิ่ง มันไม่น่าจะทำให้เหนื่อยล้าถึงขนาดแข่งขันรายการในประเทศไม่ได้
ก่อนหน้านี้ คนวงในเขาก็พูดกันมากประเด็นที่นักกีฬาไทยไม่ประสบความสำเร็จในโอลิมปิกครั้งที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งก็มีเรื่องการส่งนักกีฬาไปแข่งขันต่างแดนนี่แหละ ว่ากันว่าน้อยเกินไป โดยเฉพาะมีแต่พวกเบอร์ใหญ่ ๆ ที่มีสปอนเซอร์หนุนหลัง และได้รับการสนับสนุนจากสมาคมเท่านั้น ส่วนดาวรุ่งทั้งหลายก็แค่รอแล้วก็รอ แล้วแบบนี้อีก 4 ปีข้างหน้า เราคงจะประสบความสำเร็จใช่ไหม?
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *
หลังจากที่นักกีฬาแบดมินตันไทย ไม่ประสบความสำเร็จในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก 2016 โดย “พีช” พรทิพย์ บูรณะประเสริฐสุข เป็นนักกีฬาที่ทำผลงานดีที่สุด เมื่อเข้าถึงรอบ 8 คนสุดท้าย ประเภทหญิงเดี่ยว ซึ่งหลังจบภาระกิจใน “ริโอเกมส์” ก็มีข่าวว่า 3 ผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย อย่าง สมพล คูเกษมกิจ, อุดม เหลืองเพชราภรณ์ และศักดิ์ระพี ทองสาริ ตบเท้าลาออก เพื่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น โดยตัวนายกสมาคมอย่าง คุณหญิง ปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล ยืนยันว่า เป็นการจากกันด้วยดี และประกาศรับสมัครผู้ฝึกสอนรายใหม่มาทำหน้าที่ โดยสามารถยื่นใบสมัครได้ที่สมาคมถึงสิ้นเดือนตุลาคมนี้
เรื่องนี้พิจารณากันอย่างถ่องแท้แล้วก็ต้องยอมรับว่าสมาคมแบดมินตันฯ ไม่ประสบความสำเร็จจริง ๆ ในการส่งนักกีฬาเข้าร่วมโอลิมปิก 2016 และน่าจะสมควรแก่เวลาที่จะเปลี่ยนตัวผู้ฝึกสอน เพื่อเตรียมตัวกับการแข่งขันโอลิมปิก 2020 อีก 4 ปีข้างหน้า ที่ประเทศญี่ปุ่น เพียงแต่ติดนิดเดียวตรงที่ว่ากำลังรับสมัครหาโค้ชรายใหม่นี่แหละ เหตุใดสมาคมขนไก่ที่มีคนมีความรู้ มีความเชี่ยวชาญมากมาย ถึงได้ประกาศหาโค้ชให้มาสมัครกัน เพราะน่าจะทราบดีว่านโยบายของตนเป็นอย่างไร แนวทางการพัฒนาเป็นเช่นไร โค้ชแบบไหนน่าจะเหมาะกับการพัฒนาเยาวชน ก็น่าจะทาบทามผู้ฝึกสอนที่ตอบโจทย์ของตัวเองได้ตรงประเด็นมาร่วมงาน ดีกว่ามาประกาศรับสมัครงานกันโต้ง ๆ แบบนี้
ที่สำคัญ หลังจบโอลิมปิกที่บราซิล มีแข่งขันซูเปอร์ซีรีส์ 2 รายการใหญ่ ประกอบด้วย “เจแปน โอเพน” ระหว่างวันที่ 20 - 25 กันยายน และต่อด้วย “โคเรีย โอเพน” ระหว่างวันที่ 27 กันยายน ถึง 2 ตุลาคม โดยรายการที่ญี่ปุ่น มีนักแบดมินตันไทยไปแข่งขันมากมาย โดยเฉพาะในรายของ โฆษิต เพชรประดับ ขนไก่ชายเดี่ยว มือ 57 ของโลก ที่ลงเล่นตั้งแต่รอบคัดเลือก ฝ่าด่านมาจนถึงรอบ 2 สามารถเอาชนะมือ 5 ของรายการอย่าง ฉู เทียน เฉิน จากไต้หวัน ก่อนจะมาแพ้ แยน โอ ยอร์เกนเซน มือ 3 ของรายการจากเดนมาร์ก ในรอบ 8 คนสุดท้าย ทว่า ในรายการ “โคเรีย โอเพน” จะมีนักกีฬาไทยเพียงแค่สองศรีคู่รัก “เมย์” รัชนก อินทนนท์ กับ “ตะวัน” ปัณณวิชญ์ ทองน่วม เดินทางไปแข่งขันประเภทหญิงเดี่ยว และชายเดี่ยวเท่านั้น
พอนำเรื่องนี้ไปถามทางสมาคมแบดมินตัน ก็ได้รับคำตอบแบบที่ผมเองยังงง ๆ ว่า ต้องการให้นักกีฬาไทยของเรามีสภาพความสดใหม่ของร่างกายสมบูรณ์พร้อมสำหรับการแข่งขัน “เอสซีจี ไทยแลนด์ โอเพน 2016” ระหว่างวันที่ 4 - 9 ตุลาคมนี้ ซึ่งเป็นรายการระดับกรังด์ปรีซ์ โกลด์ ที่ประเทศไทยเราเป็นเจ้าภาพ ไม่ได้บอกว่าไม่สำคัญ แต่คิดว่าผู้หลักผู้ใหญ่ในสมาคมก็น่าจะทราบ เหมือนที่แฟน ๆ ขนไก่ทั้งบางเขาก็รู้ดีว่า การส่งนักกีฬาไปแข่งขันเก็บคะแนนรายการระดับซูเปอร์ซีรีส์ นั้นเป็นเรื่องเหมาะเรื่องควรอย่างยิ่ง มันไม่น่าจะทำให้เหนื่อยล้าถึงขนาดแข่งขันรายการในประเทศไม่ได้
ก่อนหน้านี้ คนวงในเขาก็พูดกันมากประเด็นที่นักกีฬาไทยไม่ประสบความสำเร็จในโอลิมปิกครั้งที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งก็มีเรื่องการส่งนักกีฬาไปแข่งขันต่างแดนนี่แหละ ว่ากันว่าน้อยเกินไป โดยเฉพาะมีแต่พวกเบอร์ใหญ่ ๆ ที่มีสปอนเซอร์หนุนหลัง และได้รับการสนับสนุนจากสมาคมเท่านั้น ส่วนดาวรุ่งทั้งหลายก็แค่รอแล้วก็รอ แล้วแบบนี้อีก 4 ปีข้างหน้า เราคงจะประสบความสำเร็จใช่ไหม?
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *