คอลัมน์ “ตอดทุกเรื่อง” โดย “หญิงตอด”
แม้จะผ่าน โอลิมปิก 2016 มาอย่างน่าผิดหวัง สำหรับ “น้องเมย์” รัชนก อินทนนท์ เพราะถูกตั้งความหวังว่าเป็นตัวเต็งคว้าเหรียญรางวัลกลับมาให้กับทัพแบดมินตันไทย โดยก่อนหน้านี้กวาดแชมป์ซูเปอร์ซีรีส์มาครองถึง 3 รายการติด จนทำให้กระโดดขึ้นไปรั้งอันดับ 1 ของโลก ซึ่งถือเป็นสาเหตุหลักทำให้เจ้าตัวเกิดความกดดัน
แต่หากมองอีกมุมหนึ่งก็อาจจะเป็นเรื่องดีเหมือนกัน เพราะหากประสบความสำเร็จ ได้แชมป์มาหมดแล้ว อาจจะทำให้แรงจูงใจและความกระตือรือร้นในการเล่นแบดมินตันลดน้อยลง ครั้งนี้จึงถือเป็นบทเรียนสำคัญอีกบทหนึ่งสำหรับ โอลิมปิก เกมส์ ครั้งที่สองของ “น้องเมย์” เพราะครั้งแรก เมื่อ 4 ปีก่อนมาแข่งแบบไม่มีใครคาดหวัง มาครั้งนี้ทุกคนคาดหวังก็เจอความกดดัน ทำให้เชื่อว่าในอีก 4 ปีข้างหน้าจะใช้ประสบการณ์เหล่านี้มาเป็นบทเรียนและแก้ไขเพื่อกลับมาแก้ตัวที่ โตเกียว
แต่สิ่งที่หลายคนคงจะลืมไป ก็คือ ปีนี้เจ้าตัวไม่ได้ไปร่วมเล่นลีกอาชีพเหมือนทุกครั้ง ทั้งที่ก่อนหน้านี้เคยร่วมลีกจีนเจ้าแห่งวงการลูกขนไก่มาแล้ว ซึ่งสาเหตุที่ขนไก่สาวรายนี้ไม่ไปเล่นอาชีพ เพราะต้องการเตรียมตัวเพื่อ โอลิมปิก เกมส์ ทำให้สูญเสียรายได้ไปร่วม 10 ล้านบาท
แน่นอนว่า ยอมเสียสละไม่ไปแข่งเพื่อเอาเงินจำนวนนี้ และมาทุ่มเทกับการซ้อม แต่ไม่สามารถนำประสบความสำเร็จกลับมาได้ เป็นใครก็ต้องเสียใจ หรืออาจจะท้อกันได้เลย แต่ “น้องเมย์” กลับใช้สิ่งนี้เป็นแรงฮึดขึ้นทำผลงานให้ดีกว่าเดิม และทวงคืนมือ 1 กลับมาให้ได้ในปีนี้ โดยปีหน้านอกเหนือจากการเล่นระดับซูเปอร์ซีรีส์ 12 รายการแล้ว ก็จะมีการเล่นให้กับทีมชาติ ในมหกรรมกีฬาแห่งอาเซียน แม้ว่าจะเป็นเรื่องยากที่ใครจะมาโค่นขนไก่สาวไทย แต่ถือเป็นศึกแห่งศักดิ์ศรีที่คงประมาทไม่ได้
และยังมีแผนให้ รัชนก ไปแข่งขันแบดมินตันอาชีพที่ประเทศใดประเทศหนึ่งอีกครั้งด้วย โดยจะดูข้อเสนอของลีกแต่ละชาติที่ติดต่อเข้ามา รวมถึงพิจารณาถึงประโยชน์ที่จะได้รับในเรื่องของประสบการณ์และความแข็งแกร่งควบคู่กันไปด้วย เพื่อสะสมประสบการ์ณให้มากขึ้น
อีกหนึ่งกำลังใจสำคัญที่ไม่พูดถึงไม่ได้ ก็คือ หวานใจ “ตะวัน” ปัณณวิชญ์ ทองน่วม นักแบดมินตันหนุ่ม ที่คอยเคียงข้างและทำให้เจ้าตัวไม่ท้อแม้จะเผชิญความผิดหวัง จึงไม่แปลกใจที่จะเห็นทั้งคู่สวีตหวานบนโลกออนไลน์บ่อย ๆ แถม “น้องเมย์” ยังหอบมาสคอต ริโอ เกมส์, เสื้อการแข่งขัน และรองเท้า 2 คู่ที่เหมือนกัน เพราะจะได้ใส่คู่กัน กลับมาฝากด้วยความยิ้มแย้มแม้จะผิดหวังจากการแข่งขัน
อีกทั้งยังให้สัญญาใจไว้ว่า 4 ปีข้างหน้า จะไปแข่ง โอลิมปิก เกมส์ 2020 ที่กรุงโตเกียวด้วยกัน และแฟน ๆ แบดมินตันก็จะเห็นทั้งสองเดินทางไปแข่งขันซูเปอร์ซีรีส์ “โยเน็กซ์ เจแปน โอเพน” ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 20 - 25 กันยายนนี้ เป็นครั้งแรก หลังจากเปิดตัวว่าคบหาดูใจกัน ต่อด้วยซูเปอร์ซีรีส์ “วิคเตอร์ โคเรีย โอเพ่น” ที่กรุงโซล เกาหลีใต้ ระหว่างวันที่ 27 กันยายน - 2 ตุลาคมนี้ นอกจากนี้ ยังมีอีเวนต์ไฟนอลที่รวม 8 มือดี
ก็ได้แต่เฝ้าดูว่าเป้าหมายของปีนี้ที่เหลือ “น้องเมย์” จะกลับมาทวงมือ 1 ได้เหมือนที่ตั้งเป้าไว้หรือไม่ และกวาดรายได้จากสหพันธ์แบดมินตันให้มากกว่าปีที่แล้ว ที่เคยติดอันดับ 12 ด้วยการได้เงินรางวัล 128,405 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 4.60 ล้านบาท) ให้ได้ แค่นี้ก็ถือว่าพอใจแล้วและปีหน้าค่อยมาว่ากันใหม่
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *