คอลัมน์ Buzzer Beat โดย MVP
บาสเกตบอล เอ็นบีเอ (NBA) ฤดูกาล 2016-17 กำลังจะ ทิป-ออฟ กันราว ๆ เดือนตุลาคม แต่ที่แน่ ๆ ตำนาน “บิ๊กทรี” ของ ไมอามี ฮีต สิ้นสุดลงอย่างสมบูรณ์ ซึ่งดูเหมือนว่า คริส บอช ฟอร์เวิร์ดตัวเก๋า จะหมดสิทธิ์กลับมารับใช้ต้นสังกัด หลังแพทย์ประจำทีม ไม่อนุญาตให้เข้า เทรนนิง แคมป์ กับผองเพื่อน และอนาคตก็น่าจะรอข่าวคราวยกเลิกสัญญาอย่างเป็นทางการเท่านั้น
จุดกำเนิดของ “บิ๊กทรี” เชื่อกันว่า แฟน ๆ น่าจะจดจำกันได้ เลอบรอน เจมส์ กลายเป็นฟรีเอเยนต์มาจาก คลีฟแลนด์ คาวาเลียร์ส หอบความช้ำทั้งอกหักรอบชิงชนะเลิศ NBA 2007 พ่ายแก่ ซาน อันโตนิโอ สเปอร์ส 0-4 เกม และความปราชัยย่อยยับสุดคาบ้าน นับเฉพาะ เพลย์ออฟ แก่ บอสตัน เซลติกส์ มาร่วมงานกับ ดีเวย์น เหว็ด และ บอช ก็เป็นอีกรายหนึ่งที่ตามสมทบ
ฮีต ภายใต้การนำของ คิงเจมส์, ดี-เหว็ด และ บอช ถือว่าแกร่งสุดยากเกินกว่าทีมร่วมฝั่งตะวันออกจะต้านทาน ครองแชมป์ 2 จากการเข้ารอบชิงฯ 4 สมัย (2011-2014) อย่างไรก็ตาม ซีซันสุดท้ายที่ทั้ง 3 อยู่ด้วยกัน ก็เกิดข่าวลือต่าง ๆ นานา ทำนองว่า เหว็ด กับ บอช อาจถูกปล่อยทิ้ง เพื่อนำรายได้มาโปะสัญญาใหม่มัดใจ เลอบรอน ที่กำลังจะเป็นฟรีเอเยนต์อีกครั้ง
สุดท้ายกลายเป็น เลอบรอน แยกทางแบบเซอร์ไพรส์สุด ๆ เพื่อนำแชมป์มาให้ชาวเมืองคลีฟแลนด์เชยชม ซึ่งก็บรรลุเป้าหมาย ตอนนี้ก็เหลือเพียงสะสมเงินก้อนโต รอวันรีไทร์ จับจ่ายใช้สอยตามวิถี สโลว์ ไลฟ์ ขณะที่ เหว็ด ก็เล่นได้ดีซีซันที่แล้ว แต่ฝ่ายบริหารไม่เห็นคุณค่า แฟรนไชส์ เพลเยอร์ ปล่อยไปให้ ชิคาโก บูลล์ส แบบฟรีเอเยนต์
และแล้วก็ถึงตา “อวตาร” ที่จะต้องอำลาไปอีกราย แม้จะยังไม่มีการยกเลิก, เจรจาซื้อสัญญา หรือใช้กฎนิรโทษกรรม แต่ข้อตกลงที่ยังผูกมัดกัน 3 ปี มูลค่า 76 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 228 ล้านบาท) แน่นอนว่ามันแพงเกินไป หากไม่ได้ใช้งานอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย แถมยิ่งความเห็นไม่ลงรอยกับ แพ็ท ไรลีย์ ประธาน เห็นทีจะจูบปากกันลำบาก
พอยุค “บิ๊กทรี” สิ้นสุดลง ส่องขุมกำลัง ฮีต ปัจจุบัน แทบจะไม่เห็นใครเป็นความหวัง นอกเสียจาก โกรัน ดรากิช การ์ดจ่ายชาวสโลวีเนีย ผลงาน 14.1 แต้ม 5.8 แอสซิสต์ ซีซันที่แล้ว กับ ฮัสซาน ไวท์ไซด์ เซ็นเตอร์ ที่กดค่าเฉลี่ยระดับ “ดับเบิล-ดับเบิล” 14.2 แต้ม 11.8 รีบาวน์ด และเกมรับที่เหนียวแน่น 3.7 บล็อก นอกนั้นแล้วคงพึ่งพาอะไรไม่ได้
พอจะเอะใจอยู่นิดหนึ่งว่า บางทีมไม่เห็นต้องมีซูเปอร์สตาร์คับคั่ง ก็แข็งแกร่งได้ด้วยระบบทีมเวิร์ก อย่าง แอตแลนตา ฮอว์กส เมื่อ 2 ปีก่อน หรือ อินเดียนา เพเซอร์ส ชุดก่อนที่ พอล จอร์จ จะขาหัก, ซาน อันโตนิโอ สเปอร์ส ซึ่ง เกร็ก โพโพวิช เฮดโค้ชรุ่นเก๋า นำส่วนเกินมาปลุกปั้นจนกลายเป็นกำลังสำคัญ และ บอสตัน เซลติกส์ ชุดปัจจุบัน ก็นึกบ้างว่า หรือ ฮีต อาจจะมีเซอร์ไพรส์
ย้อนดูสถิติเก่า ๆ 6 ขุนพล ได้แก่ บอช, เหว็ด, ดรากิช, ไวท์ไซด์, ลูโอล เดง และ โจ จอห์นสัน ที่ค่าเฉลี่ยทำคะแนนเป็นเลข 2 หลัก ระดับใกล้เคียงกัน พอเหลือแค่ ดรากิช กับ ไวท์ไซด์ จะอุดช่องโหว่ที่หายไปของ 4 ตัวหลัก ก็ต้องส่ายหน้า บอกว่า จะไหวหรือ
สรุปง่าย ๆ เลยว่า ฮีต คงต้องหาทางโละ บอช เสียก่อน แล้วอาศัยเพดานเงินเดือนที่กว้างขึ้น รอลุ้นฟรีเอเยนต์เจ๋ง ๆ สัก 2 - 3 ราย เฟ้นหารุกกีที่สามารถดราฟต์เข้ามาแล้วใช้งานได้ทันที ก็น่าจะกลับมาติดกลุ่มท็อป 8 ของสายตะวันออกได้อยู่ ส่วนฤดูกาลที่จะเริ่มเร็ว ๆ นี้น่ะหรือ น่าจะจบตั้งแต่ยังไม่ทิปออฟ แฟนๆทั้งหลายควรไปรอเชียร์กันปีหน้าดีกว่า
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *
บาสเกตบอล เอ็นบีเอ (NBA) ฤดูกาล 2016-17 กำลังจะ ทิป-ออฟ กันราว ๆ เดือนตุลาคม แต่ที่แน่ ๆ ตำนาน “บิ๊กทรี” ของ ไมอามี ฮีต สิ้นสุดลงอย่างสมบูรณ์ ซึ่งดูเหมือนว่า คริส บอช ฟอร์เวิร์ดตัวเก๋า จะหมดสิทธิ์กลับมารับใช้ต้นสังกัด หลังแพทย์ประจำทีม ไม่อนุญาตให้เข้า เทรนนิง แคมป์ กับผองเพื่อน และอนาคตก็น่าจะรอข่าวคราวยกเลิกสัญญาอย่างเป็นทางการเท่านั้น
จุดกำเนิดของ “บิ๊กทรี” เชื่อกันว่า แฟน ๆ น่าจะจดจำกันได้ เลอบรอน เจมส์ กลายเป็นฟรีเอเยนต์มาจาก คลีฟแลนด์ คาวาเลียร์ส หอบความช้ำทั้งอกหักรอบชิงชนะเลิศ NBA 2007 พ่ายแก่ ซาน อันโตนิโอ สเปอร์ส 0-4 เกม และความปราชัยย่อยยับสุดคาบ้าน นับเฉพาะ เพลย์ออฟ แก่ บอสตัน เซลติกส์ มาร่วมงานกับ ดีเวย์น เหว็ด และ บอช ก็เป็นอีกรายหนึ่งที่ตามสมทบ
ฮีต ภายใต้การนำของ คิงเจมส์, ดี-เหว็ด และ บอช ถือว่าแกร่งสุดยากเกินกว่าทีมร่วมฝั่งตะวันออกจะต้านทาน ครองแชมป์ 2 จากการเข้ารอบชิงฯ 4 สมัย (2011-2014) อย่างไรก็ตาม ซีซันสุดท้ายที่ทั้ง 3 อยู่ด้วยกัน ก็เกิดข่าวลือต่าง ๆ นานา ทำนองว่า เหว็ด กับ บอช อาจถูกปล่อยทิ้ง เพื่อนำรายได้มาโปะสัญญาใหม่มัดใจ เลอบรอน ที่กำลังจะเป็นฟรีเอเยนต์อีกครั้ง
สุดท้ายกลายเป็น เลอบรอน แยกทางแบบเซอร์ไพรส์สุด ๆ เพื่อนำแชมป์มาให้ชาวเมืองคลีฟแลนด์เชยชม ซึ่งก็บรรลุเป้าหมาย ตอนนี้ก็เหลือเพียงสะสมเงินก้อนโต รอวันรีไทร์ จับจ่ายใช้สอยตามวิถี สโลว์ ไลฟ์ ขณะที่ เหว็ด ก็เล่นได้ดีซีซันที่แล้ว แต่ฝ่ายบริหารไม่เห็นคุณค่า แฟรนไชส์ เพลเยอร์ ปล่อยไปให้ ชิคาโก บูลล์ส แบบฟรีเอเยนต์
และแล้วก็ถึงตา “อวตาร” ที่จะต้องอำลาไปอีกราย แม้จะยังไม่มีการยกเลิก, เจรจาซื้อสัญญา หรือใช้กฎนิรโทษกรรม แต่ข้อตกลงที่ยังผูกมัดกัน 3 ปี มูลค่า 76 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 228 ล้านบาท) แน่นอนว่ามันแพงเกินไป หากไม่ได้ใช้งานอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย แถมยิ่งความเห็นไม่ลงรอยกับ แพ็ท ไรลีย์ ประธาน เห็นทีจะจูบปากกันลำบาก
พอยุค “บิ๊กทรี” สิ้นสุดลง ส่องขุมกำลัง ฮีต ปัจจุบัน แทบจะไม่เห็นใครเป็นความหวัง นอกเสียจาก โกรัน ดรากิช การ์ดจ่ายชาวสโลวีเนีย ผลงาน 14.1 แต้ม 5.8 แอสซิสต์ ซีซันที่แล้ว กับ ฮัสซาน ไวท์ไซด์ เซ็นเตอร์ ที่กดค่าเฉลี่ยระดับ “ดับเบิล-ดับเบิล” 14.2 แต้ม 11.8 รีบาวน์ด และเกมรับที่เหนียวแน่น 3.7 บล็อก นอกนั้นแล้วคงพึ่งพาอะไรไม่ได้
พอจะเอะใจอยู่นิดหนึ่งว่า บางทีมไม่เห็นต้องมีซูเปอร์สตาร์คับคั่ง ก็แข็งแกร่งได้ด้วยระบบทีมเวิร์ก อย่าง แอตแลนตา ฮอว์กส เมื่อ 2 ปีก่อน หรือ อินเดียนา เพเซอร์ส ชุดก่อนที่ พอล จอร์จ จะขาหัก, ซาน อันโตนิโอ สเปอร์ส ซึ่ง เกร็ก โพโพวิช เฮดโค้ชรุ่นเก๋า นำส่วนเกินมาปลุกปั้นจนกลายเป็นกำลังสำคัญ และ บอสตัน เซลติกส์ ชุดปัจจุบัน ก็นึกบ้างว่า หรือ ฮีต อาจจะมีเซอร์ไพรส์
ย้อนดูสถิติเก่า ๆ 6 ขุนพล ได้แก่ บอช, เหว็ด, ดรากิช, ไวท์ไซด์, ลูโอล เดง และ โจ จอห์นสัน ที่ค่าเฉลี่ยทำคะแนนเป็นเลข 2 หลัก ระดับใกล้เคียงกัน พอเหลือแค่ ดรากิช กับ ไวท์ไซด์ จะอุดช่องโหว่ที่หายไปของ 4 ตัวหลัก ก็ต้องส่ายหน้า บอกว่า จะไหวหรือ
สรุปง่าย ๆ เลยว่า ฮีต คงต้องหาทางโละ บอช เสียก่อน แล้วอาศัยเพดานเงินเดือนที่กว้างขึ้น รอลุ้นฟรีเอเยนต์เจ๋ง ๆ สัก 2 - 3 ราย เฟ้นหารุกกีที่สามารถดราฟต์เข้ามาแล้วใช้งานได้ทันที ก็น่าจะกลับมาติดกลุ่มท็อป 8 ของสายตะวันออกได้อยู่ ส่วนฤดูกาลที่จะเริ่มเร็ว ๆ นี้น่ะหรือ น่าจะจบตั้งแต่ยังไม่ทิปออฟ แฟนๆทั้งหลายควรไปรอเชียร์กันปีหน้าดีกว่า
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *