สโมสรฟุตบอล ขอนแก่น ยูไนเต็ด ออกแถลงการณ์ผ่านเพจหลักของทีม เสนอให้สมาคมฟุตบอลฯ มีบทลงโทษสถานหนักด้วยการสั่งยุบทีม เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด และ การท่าเรือ เอฟซี เพราะถือว่าสร้างความเสียหายในรัศมีความรับผิดชอบของทีม เช่นเดียวกับที่สั่งลงโทษ “จงอางผยอง”
หลังเกิดเหตุทะเลาะวิวาทของแฟนบอล เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด และ การท่าเรือ เอฟซี ในศึกโตโยต้า ลีกคัพ เมื่อวันที่ 14 กันยายน ที่ผ่านมา ทำให้มีผู้บาดเจ็บและสร้างความเสียหายจำนวนมาก
ล่าสุด สโมสรฟุตบอล ขอนแก่น ยูไนเต็ด ที่ถูกสมาคมฟุตบอลตัดสินโทษให้ยุบทีม หลังจากมีแฟนบอลเข้าไปทำร้ายผู้ตัดสินใน ฟุตบอล ลีกภูมิภาค ดิวิชั่น 2 รอบแชมเปียนส์ลีก 2015 หลังจบเกม สตูล เปิดสนามแพ้ ขอนแก่น ยูไนเต็ด เมื่อวันอาทิตย์ที่ 22 สิงหาคม 2559 ได้ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้สมาคมฯ มีบทลงโทษทั้ง 2 สโมสรที่ก่อเหตุเช่นเดียวกับกรณีของตนเอง
โดยกล่าวว่า สโมสรและแฟนบอลขอนแก่น ยูไนเต็ด ขอแสดงความเสียใจกับผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุทะเลาะวิวาทและตีกันระหว่างแฟนบอลของสโมสรฟุตบอล เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด และสโมสรฟุตบอลการท่าเรือ เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2559 หลังจบเกมการแข่งขันรอบรองชนะเลิศ ในรายการฟุตบอล โตโยต้าลีกคัพ 2016
เหตุการณ์ดังกล่าวสโมสรและแฟนบอลขอนแก่นยูไนเต็ด เห็นว่า เป็นการก่อให้เกิดความเสียหายแก่วงการฟุตบอลไทย และสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯอย่างมาก เพราะเหตุการณ์เกิดขึ้นหลังจากแข่งขัน 20 นาที อยู่ในรัศมีไม่เกิน 700 เมตร ซึ่งถือเป็นเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทของแฟนบอล ที่รุนแรง มีบางรายถึงกับหมดสติจนต้องส่งโรงพยาบาล
เหตุการณ์ดังกล่าวถ้าใช้ความเห็นของเลขาธิการสมาคมกีฬาฟุตบอลฯในปัจจุบัน ที่เคยอ้างเหตุผลในการยุบทีมขอนแก่น ยูไนเต็ด โดยอ้างว่า ถึงแม้ไม่มีพยานหลักฐานใด ๆ แต่ลักษณะของเหตุการณ์น่าเชื่อว่าผู้บริหารสโมสรขอนแก่นยูไนเต็ดรู้เห็นเป็นใจกับผู้ที่ทำร้ายกรรมการอันเป็นเหตุให้มีการเสนอยุบทีมขอนแก่นยูไนเต็ด โดยอ้างว่าเหตุการณ์ดังกล่าวก่อให้เกิดความเสียหายแก่สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ
เหตุการณ์รุนแรงที่เกิดขึ้นเมื่อคืนที่ผ่านมา อยู่ในรัศมีรับผิดชอบของฝ่ายรักษาความปลอดภัย หรือฝ่ายจัดการแข่งขัน ในขณะที่ทีมขอนแก่น ยูไนเต็ด มีแฟนบอล 1 คน ไปทำร้ายกรรมการ ได้รับบาดเจ็บเป็นแผล 2 เซนติเมตร และอยู่ในระยะห่างเกินกว่า 700 เมตร ซึ่งไม่อยู่ในรัศมีที่สโมสรต้องรับผิดชอบ กลับอ้างว่าก่อให้เกิดความเสียหายแก่สมาคมอย่างร้ายแรง และคาดว่า ผู้บริหารสโมสรต้องมีส่วนรู้เห็นหรือรู้เห็นเป็นใจกับผู้กระทำความผิดนั้น โดยไม่ให้โอกาสสโมสรหรือผู้ที่ถูกกล่าวหาได้ชี้แจง
จากข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นสโมสรและแฟนบอลขอนแก่น ยูไนเต็ด เห็นว่า นายกสมาคมฯ และสภากรรมการสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ คิดว่า คงจะใช้มาตรฐานเดียวกันในการพิจารณาและการลงโทษสโมสรขอนแก่น ยูไนเต็ด ในการพิจารณาและลงโทษผู้กระทำความผิด และสโมสรที่เกี่ยวข้องในการกระทำความผิดเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้ มิฉะนั้น นโยบาย FAIR ที่มีการหาเสียงไว้ ก็จะไม่มีความหมาย
จึงแถลงมาเพื่อทราบ ด้วยความเคารพ
สโมสรและแฟนบอล สโมสรฟุตบอลขอนแก่น ยูไนเต็ด
15 กันยายน 2559
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *