แพ้ “ญี่ปุ่น” ทั้งใน-นอกสนาม / หญิงตอด

คอลัมน์ “ตอดทุกเรื่อง” โดย “หญิงตอด”

สัปดาห์ที่ผ่านมา แฟนบอลไทยได้รวมใจเป็นหนึ่งเพื่อส่งเสียงเชียร์ทีมชาติไทยของเราในทัวร์นาเมนต์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดอย่างฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก ที่ลงสนามพบกับญี่ปุ่น ทีมชั้นนำของเอเชีย แม้ว่าสุดท้าย “ทัพช้างศึก” จะพ่ายไป 0-2 แต่ก็ทำให้ได้เห็นแล้วว่าการก้าวเข้าสู่ระดับเอเชีย ยังมีสิ่งที่ต้องปรับปรุงอีกมาก

ทีมช้างศึกภายใต้การนำของ “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง สามารถผ่านเข้ามาเป็น 1 ใน 12 ทีมที่ดีที่สุดของเอเชีย ที่จะต้องห้ำหั่นกันในด่านสุดท้ายก่อนตีตั๋วไปรัสเซีย

เชื่อว่า แฟนบอลไทยทุกท่านก็คงจะทราบดีว่าเรานั้นเป็นรองหลายชาติใน 12 ทีม แต่ก็เชื่ออีกเช่นเดียวกันว่าทุกคนก็แอบคิดเล็ก ๆ ว่า อาจจะมีเซอร์ไพรส์ หรือทำผลงานได้ดี ไม่ได้เป็นหมูให้เขาต้อนได้ง่าย ๆ แม้ 2 เกมที่ผ่านมาเราจะยังเก็บแต้มไม่ได้ แฟนบอลไทยก็ยังถือว่าได้กำไรจากการเห็นฝีเท้าของนักเตะระดับโลกแบบใกล้ชิด โดยเฉพาะญี่ปุ่นที่ยกพลมาถึงบ้านเรา แต่ละคนล้วนมีฝีเท้าเทียบเท่าแข้งยุโรปทั้งนั้น

นอกจากฝีเท้าของแข้งซามูไรที่เราต้องยอมรับแล้ว วัฒนธรรมของชาวญี่ปุ่นที่มาเยือนบ้านเราก็น่ายกย่องเช่นกัน ซึ่ง “หญิงตอด” อยากจะแชร์ประสบการ์ณของตัวเองในการร่วมงานกับนักข่าวญี่ปุ่นให้ทุกคนได้ฟัง

เริ่มจากวันแถลงความพร้อมของทั้งสองทีม ซึ่งเวลาที่นัดแนะเริ่มงาน คือ 14:00 แต่ก่อนเริ่มงาน 1 ชั่วโมง บรรดาสื่อจากแดนปลาดิบก็เข้ามาจับจองที่นั่งกันจนเต็มความจุ ต่างคนต่างก้มหน้าก้มตาทำงานของตัวเองกับโน้ตบุ๊กบนตัก จนจบงานแถลงข่าวก็ลุกแยกย้ายกันออกไป ไม่มีเสียงพูดคุยรบกวนคนที่ยังไม่เสร็จงานแม้แต่น้อย

จนถึงวันคิกออฟ ทุกคนมาพร้อมหน้ากันที่ห้องพักสื่อมวลชน นักข่าวส่วนมากสวมสูท ใส่เสื้อเชิ้ต ซึ่งไม่ค่อยเห็นได้บ่อยนักสำหรับนักข่าวบ้านเรา กระทั่งถึงเวลากินข้าว ทางฝ่ายจัดก็เตรียมแม่บ้านมาคอยทำความสะอาดดูแลความเรียบร้อยอย่างดี หลังจากกินเสร็จทุกคนก็นำภาชนะของตัวเองไปทิ้งในถังขยะที่ตั้งอยู่ด้านข้าง มีพูดคุยกันระหว่างกินข้าวแต่เสียงแทบไม่ดังมาถึงโต๊ะข้าง ๆ เลยสักนิด และทันทีที่ประตูสนามราชมังคลากีฬาสถานแง้มออก 16:00 ทั้งช่างภาพและนักข่าวก็มุ่งเข้าสู่ด้านในสนามเพื่อปฏิบัติหน้าที่ของตนทันที

รอบนอกสนามแฟนทีมเยือนจำนวนมากยืนต่อแถวเรียงหนึ่งเพื่อเข้าสู่สนามแข่ง นอกจากนี้ ยังต่อแถวซื้อน้ำที่มีเพียงจุดเดียวหน้าประตูทางเข้าแต่ละโซน รวมทั้งห้องน้ำก็จะเห็นการเข้าคิวอย่างเรียบร้อย คนมาทีหลังเข้าไปสอบถามคนยืนอยู่ก่อนว่าหางแถวอยู่ไหน ทุกคนปฏิบัติอย่างเป็นระเบียบจนคนไทยอย่างเราอดอมยิ้มไม่ได้

ตัดมาที่เจ้าของบ้าน.. ขอไม่พูดว่าเป็นยังไง แต่ภาพการเบียดเสียดแย่งชิงเพื่อให้ได้เข้าสู่ภายในสนาม กับกองขยะในอัฒจันทร์และบริเวณจอยักษ์ที่จัดให้ชมด้านนอก คงจะตอบคำถามทั้งหมดได้ดี

ทั้งหมดที่กล่าวไปไม่ได้ต้องการตำหนิคนไทยด้วยกัน เพียงแต่อยากจะยึดชาติอันดับต้น ๆ ของเอเชีย เป็นต้นแบบให้ก้าวไปถึงจุดเดียวกันทั้งในสนามและนอกสนาม ส่วนผลการแข่งขันนั้น ส่วนตัวยอมรับว่าไม่ได้หวังถึงทีมชาติไทยของเราจะเป็น 1 ใน 4 ของเอเชียไปลุยฟุตบอลโลก แต่สิ่งที่อยากเห็นก็คือพัฒนาการของทีมชาติไทยว่าเราจะสู้กับทีมคู่แข่งในรอบนี้ได้หรือไม่ ถ้าสู้ได้ดีก็ถือว่าสอบผ่าน เรื่องผลการแข่งขันเป็นอีกเรื่องหนึ่ง

สำหรับเกมนัดต่อไปเราจะยกพลไปเยือนสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ วันที่ 6 ตุลาคม ไม่ว่าจะออกมาอย่างไรก็ตาม ณ เวลานี้ ก็อยากเห็นทีมชาติไทยสร้างเซอร์ไพรส์เก็บแต้มกลับออกมาให้ได้ และหวังว่า คนไทยจะไปสร้างความประทับใจในต่างแดนเหมือนกับญี่ปุ่น ที่ได้มาฝากความทรงจำไว้ ณ ราชมังคลากีฬาสถาน