“วาร์ริกซ์” สร้างเซอร์ไพรส์พอสมควรกับการแซงหน้าแบรนด์เก่าแก่อย่าง “แกรนด์สปอร์ต” คว้าสิทธิ์ผลิตชุดแข่งขันทีมลูกหนัง “ช้างศึก” ลองมาชม และทำความรู้จักกับแบรนด์ใหม่สไตล์ “นักรบ” กันดีกว่า
ภายหลังจาก บริษัท วาร์ริกซ์ สปอร์ต จำกัด สร้างเซอร์ไพรส์ด้วยการคว้าสิทธิ์การเป็นผู้ผลิตสินค้า และสินค้าที่ระลึก ประกอบด้วย ชุดแข่งขัน ชุดซ้อม ชุดลำลอง ชุดเดินทาง ถุงเท้า รองเท้า ของนักฟุตบอลทีมชาติไทยทุกชุด รวมถึงเสื้อเชียร์ทีมชาติไทย และของที่ระลึก เพื่อออกมาจำหน่ายแทนที่เจ้าของสิทธิ์เดิมอย่าง แกรนด์ สปอร์ต กรุ๊ป จำกัด ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2560 - 31 ธันวาคม 2563
ทั้งนี้ วาร์ริกซ์ สปอร์ต ภายใต้การบริหารงานของ วิศัลย์ วนะศักดิ์ศรีสกุล เริ่มต้นจากการนำนวัตกรรมนาโนลงเส้นใยมาผลิตเสื้อผ้า โดยมีผลงานโดดเด่นอย่าง “เสื้อกันยุง” และ “จีวรกันยุง” ก่อนจะตามมาด้วยเสื้อโปโล และเสื้อกีฬาคุณสมบัติพิเศษสามารถดูดซับเหงื่อ แห้งเร็ว ระบายอากาศได้ดี และป้องกันรังสียูวี ซึ่งตลาดตอบรับอย่างสูง โดยมีจุดเด่นที่เรื่องของ “ราคา” ที่เมื่อเทียบคุณภาพแล้วจะจ่ายเงินน้อยกว่าแบรนด์นอก ทว่า ก็ไม่ถูกจนเกินไปนัก
โดย วาร์ริกซ์ เริ่มต้นก้าวแรกสู่วงการกีฬาด้วยการจับทีมสโมสรในภูมิภาคอย่าง เชียงใหม่ เอฟซี และ นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี เมื่อปี 2557 จากนั้นปีถัดมาจึงมาร่วมมือกับทีมอย่าง สุพรรณบุรี เอฟซี, ศรีสะเกษ เอฟซี และ ราชนาวี เอฟซี ซึ่งการเซ็นสัญญาด้วยเงินจำนวน 8 หลัก กับทีม สุพรรณบุรี เอฟซี ที่มี “ดาวเตะล้านเมีย” ชาริล ชัปปุยส์ มิดฟิลด์รูปงาม เป็นส่วนหนึ่งให้ชื่อของแบรนด์ดังกล่าวเป็นที่คุ้นชินสายตาแฟนบอลทั่วไทยมากยิ่งขึ้น
นอกจาก สุพรรณบุรี เอฟซี แล้วยังมีทีม “นกใหญ่” ชัยนาท ฮอร์นบิล แห่งไทยลีก ที่ใช้แบรนด์ดังกล่าว ในฤดูกาลนี้ ขณะที่ในลีกดิวิชั่น 1 ทีมที่มีแฟนคลับทั้งชาวไทย และเมียนมา อย่าง “ปลาทูคะนอง” สมุทรสงคราม เอฟซี ยังสวม วาร์ริกซ์ ลงสนาม ขณะที่ในวงการฟุตซอลก็ไม่น้อยหน้า เมื่อทีมมหาอำนาจลูกหนังเมืองไทยอย่าง ชลบุรี บลูเวฟ ก็ใช้ชุดแข่งแห่งนักรบเช่นกัน
สำหรับแบรนด์ วาร์ริกซ์ มาจากคำว่า warrior ที่มีความหมายถึง “นักรบ” สื่อถึงการเป็นแบรนด์สัญชาติไทยที่พร้อมทุ่มเทและมุ่งมั่นแข่งขันในทุกสังเวียน รวมถึงบ่งบอกถึงความเป็นเลือดนักสู้ของคนไทยมาตั้งแต่บรรพบุรุษ ในขณะที่ด้านดีไซน์ เน้นให้สากล แต่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทั้งหมดเป็นฝีมือดีไซเนอร์ชาวไทย 100%
ขอบคุณภาพจากแฟนเพจ warrix
ภายหลังจาก บริษัท วาร์ริกซ์ สปอร์ต จำกัด สร้างเซอร์ไพรส์ด้วยการคว้าสิทธิ์การเป็นผู้ผลิตสินค้า และสินค้าที่ระลึก ประกอบด้วย ชุดแข่งขัน ชุดซ้อม ชุดลำลอง ชุดเดินทาง ถุงเท้า รองเท้า ของนักฟุตบอลทีมชาติไทยทุกชุด รวมถึงเสื้อเชียร์ทีมชาติไทย และของที่ระลึก เพื่อออกมาจำหน่ายแทนที่เจ้าของสิทธิ์เดิมอย่าง แกรนด์ สปอร์ต กรุ๊ป จำกัด ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2560 - 31 ธันวาคม 2563
ทั้งนี้ วาร์ริกซ์ สปอร์ต ภายใต้การบริหารงานของ วิศัลย์ วนะศักดิ์ศรีสกุล เริ่มต้นจากการนำนวัตกรรมนาโนลงเส้นใยมาผลิตเสื้อผ้า โดยมีผลงานโดดเด่นอย่าง “เสื้อกันยุง” และ “จีวรกันยุง” ก่อนจะตามมาด้วยเสื้อโปโล และเสื้อกีฬาคุณสมบัติพิเศษสามารถดูดซับเหงื่อ แห้งเร็ว ระบายอากาศได้ดี และป้องกันรังสียูวี ซึ่งตลาดตอบรับอย่างสูง โดยมีจุดเด่นที่เรื่องของ “ราคา” ที่เมื่อเทียบคุณภาพแล้วจะจ่ายเงินน้อยกว่าแบรนด์นอก ทว่า ก็ไม่ถูกจนเกินไปนัก
โดย วาร์ริกซ์ เริ่มต้นก้าวแรกสู่วงการกีฬาด้วยการจับทีมสโมสรในภูมิภาคอย่าง เชียงใหม่ เอฟซี และ นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี เมื่อปี 2557 จากนั้นปีถัดมาจึงมาร่วมมือกับทีมอย่าง สุพรรณบุรี เอฟซี, ศรีสะเกษ เอฟซี และ ราชนาวี เอฟซี ซึ่งการเซ็นสัญญาด้วยเงินจำนวน 8 หลัก กับทีม สุพรรณบุรี เอฟซี ที่มี “ดาวเตะล้านเมีย” ชาริล ชัปปุยส์ มิดฟิลด์รูปงาม เป็นส่วนหนึ่งให้ชื่อของแบรนด์ดังกล่าวเป็นที่คุ้นชินสายตาแฟนบอลทั่วไทยมากยิ่งขึ้น
นอกจาก สุพรรณบุรี เอฟซี แล้วยังมีทีม “นกใหญ่” ชัยนาท ฮอร์นบิล แห่งไทยลีก ที่ใช้แบรนด์ดังกล่าว ในฤดูกาลนี้ ขณะที่ในลีกดิวิชั่น 1 ทีมที่มีแฟนคลับทั้งชาวไทย และเมียนมา อย่าง “ปลาทูคะนอง” สมุทรสงคราม เอฟซี ยังสวม วาร์ริกซ์ ลงสนาม ขณะที่ในวงการฟุตซอลก็ไม่น้อยหน้า เมื่อทีมมหาอำนาจลูกหนังเมืองไทยอย่าง ชลบุรี บลูเวฟ ก็ใช้ชุดแข่งแห่งนักรบเช่นกัน
สำหรับแบรนด์ วาร์ริกซ์ มาจากคำว่า warrior ที่มีความหมายถึง “นักรบ” สื่อถึงการเป็นแบรนด์สัญชาติไทยที่พร้อมทุ่มเทและมุ่งมั่นแข่งขันในทุกสังเวียน รวมถึงบ่งบอกถึงความเป็นเลือดนักสู้ของคนไทยมาตั้งแต่บรรพบุรุษ ในขณะที่ด้านดีไซน์ เน้นให้สากล แต่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทั้งหมดเป็นฝีมือดีไซเนอร์ชาวไทย 100%
ขอบคุณภาพจากแฟนเพจ warrix