xs
xsm
sm
md
lg

“บิ๊กเสือ” พ่อพระนักกีฬาไทย / แมวดำ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

คอลัมน์ “สกอร์บอร์ด” โดย “แมวดำ”

คำพูดที่ว่า “คนเราจะเห็นน้ำใจกันก็ยามลำบาก” นั้น สำหรับผมเป็นจริงเสมอ โดยเฉพาะวันที่เราได้เห็นนักชกสมชาติชายอย่าง “เอ็ม” วุฒิชัย มาสุข, “สด” ฉัตรชัย บุตรดี แพ้ต่อคู่แข่งในโอลิมปิก ตกรอบแบบที่คนในวงการกีฬาเรียกว่า “แพ้กรรมการ” นั้น ผมเห็นคนชื่อ “เสือ” สกล วรรณพงษ์ เดินเข้าไปโอบกอดปลอบโยนนักกีฬา ไม่ใช่ในฐานะผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย หากแต่ในฐานะคนไทยที่รัก และสงสารนักกีฬาคนบ้านเดียวกัน บอกตรง ๆ ของแบบนี้มันได้ใจมาก

ซึ่งหลังจากนักมวยไทยไม่เหลือให้ได้ลุ้นบนเวทีกีฬาห้าห่วงที่แดนแซมบ้า “บิ๊กเสือ” ก็ใส่เต็มที่ไม่มียั้งเหมือนกัน โดยตั้งข้อสังเกตว่า การตัดสินของกรรมการอาจเป็นเรื่องที่พอวิเคราะห์ได้ว่าน่าจะมีการแบ่งเค้กไว้ล่วงหน้า ถามต่อว่า หากเป็นเรื่องจริง ประเทศไทยของเราเสียประโยชน์สินะ เอาเป็นว่าเราควรมีการผลักดันใครสักคนเข้าไปแนบชิดกับสหพันธ์มวยสากลสมัครเล่นนานาชาติ หรือ “ไอบา” จะได้มีส่วนแบ่งกับเขาด้วยดีไหม “พี่เสือ” ตอบตรง ๆ ว่าไม่ดี ดูแล้วหากว่าเรารับไม่ได้กับการตัดสินแบบนี้ ก็ไม่ควรจะมีส่วนร่วมกับความสำเร็จ หากว่าเรามองว่ามันไม่บริสุทธิ์ผุดผ่อง

ว่าแล้วผู้ว่าการ กกท. ของเราท่านก็แนะนำว่า หากการตัดสินของ “ไอบา” ดูแล้ว มีปัญหามากนัก ก็ควรที่คณะกรรมการโอลิมปิกสากล หรือ “ไอโอซี” จะเข้ามาดูแลบ้าง พร้อมยกตัวอย่าง เทควันโด ที่เมื่อก่อนมีการวิจารณ์มากว่าหลายครั้งก็ตัดสินค้านสายตาคนทั้งสนาม จนมีการพยายามแก้ไขปรับปรุง ถึงขนาดมีการนำเกราะไฟฟ้ามาใช้ เพื่อให้ยุติธรรมและโปร่งใสมากขึ้น แต่ “ไอบา” กลับไม่เห็นจะพยายามทำให้ทุกอย่างดีขึ้นเลย จะว่าไปไม่ใช่ไทยชาติเดียวที่โดน หลายชาติก็โดน กลายเป็นข่าวดังไปทั่วโลก ขณะที่เรื่องนี้ดูเหมือน ชิง กั๋วะ วู ประธานองค์กรมวยอันอื้อฉาว ก็ทำเพียงแค่ส่งผู้ตัดสินที่มีส่วนกับการให้คะแนนค้านสายตากลับบ้านแค่นั้น

ไม่เพียงแค่เรื่องมวยเท่านั้น เรื่องการจัดตั้ง “ไทยเฮาส์” ที่บราซิล ก็เป็นเรื่องน่ายกย่อง ลองคิดดูแค่เราเดินทางไปต่างจังหวัดไม่กี่วัน หาอาหารถูกปากทานก็ลำบากมากแล้ว แถมนี่คนเป็นนักกีฬาเดินทางไปแข่งขันต่างประเทศ อาหารบ้านเขาเราอาจพอทานได้ แต่บ่อย ๆ เข้าทุกวัน มันก็เหลือจะรับเหมือนกัน เกิดเป็นคนไทย ขาดอาหารไทยแล้วอยู่ยาก นักกีฬายิ่งสำคัญจะแข่งพรุ่งนี้ลองกินข้าวไม่อร่อย กระเดือกไม่ลงจะเอาแรงที่ไหนไปสู้พอมี “ไทยเฮาส์” ก็ช่วยเหลือปัดเป่าความหิว รวมถึงความกดดัน เพราะมีนักจิตวิทยาคอยให้คำปรึกษา และยังบรรเทาความคิดถึงบ้านของหลายคนไปได้เยอะ

อีกเรื่องที่อยากจะชม คือ การชงเรื่องเพิ่มเงินรางวัลนักกีฬาที่คว้าเหรียญรางวัลโอลิมปิก จากเหรียญทองละ 10 ล้านบาท, เหรียญเงิน 6 ล้านบาท, เหรียญทองแดง 4 ล้านบาท เพิ่มเป็น 12 ล้าน, 7.2 ล้าน และ 4.8 ล้าน ตามลำดับ รวมถึง พาราลิมปิกเกมส์ ที่จะแข่งขันกันต่อด้วย นอกจากนี้ ก็เป็นเรื่องที่มอบเงินให้กับนักกีฬาที่ไม่ได้เหรียญรางวัล “ริโอเกมส์” คนละ 1 แสนบาท ไม่ใช่ว่ามีเงินเยอะแล้วเที่ยวเอามาใช้สุรุ่ยสุร่าย หากแต่นักกีฬาหลายคนไม่ได้มีฐานะดี การมอบเงิน 1 แสน เพื่อให้เป็นขวัญและกำลังใจให้กับผู้แพ้ที่ทำเพื่อชาติทั้งหลายด้วย

เห็นแบบนี้ก็รู้สึกว่าภาพเก่า ๆ ของ กกท. ที่มีคนชอบอำว่าย่อมาจาก “กินกับเที่ยว” เหมือนจะถูกล้างออกไปได้มาก ทำดีก็ขอให้รักษาคุณภาพต่อไปนาน ๆ แล้วกัน...

* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *


กำลังโหลดความคิดเห็น