รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ และ รัฐพงษ์ วิไลโรจน์ สองพี่น้องนักบิดชื่อดังแห่งวงการมอเตอร์สปอร์ตของไทย เผยพร้อมแล้วที่จะลงสนามแสดงความสามารถบนแทร็ก พร้อมจิตใจและร่างกายอันแข็งแกร่งในการแข่งขันรถจักรยานยนต์ชิงแชมป์รายการระดับตำนาน ซูซูกะ 8 ชั่วโมง ที่ญี่ปุ่น ช่วงสุดสัปดาห์นี้
ศึกรถจักรยานยนต์ทางเรียบระดับตำนาน “Suzuka 8hours FIM Endurance World Championship” จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 30 - 31 กรกฎาคม นี้ ณ สนาม ซูซูกะ เซอร์กิต ประเทศญี่ปุ่น งานนี้ บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด ได้ส่งตัวแทนนักบิดจากเมืองไทย เข้าร่วมรายการระดับตำนานนี้ถึง 2 รายคือ รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ และ รัฐพงษ์ วิไลโรจน์ โดยใช้รถ HONDA CBR1000RR เข้าร่วมในการแข่งขัน
สำหรับ “เจ้าฟิล์ม” รัฐภาคย์ ที่มีประสบการณ์ลงแข่งขันรายการนี้มาแล้ว ลงเป็นตัวแทนด้วยเบอร์ 104 ของ TOHO Racing with MORIWAKI ร่วมกับ ทัตสึยะ ยามากูชิ ทีมเมทจาก ญี่ปุ่น ขณะที่ “เจ้าโฟลท” รัฐพงษ์ จะลงแข่งด้วยเบอร์ 22 ให้ Honda Team Asia โดยมี ดิมาส เอ็คคี ปราตามา จาก อินโดนีเซีย และ ซากวาน ไซดี จาก มาเลเซีย เป็นเพื่อนร่วมทีม
โดยก่อนลงสนามช่วงสุดสัปดาห์นี้ รัฐภาคย์ ที่เพิ่งเสร็จสิ้นภารกิจการแข่งขัน โมโตทู ครึ่งฤดูกาลแรก กล่าวว่า รู้สึกดีใจมากที่ได้กลับมาลงแข่งรายการนี้อีกครั้ง หลังจากเคยเข้าร่วมประลองความเร็วเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งเมื่อจบการแข่งขันที่ เยอรมนี ก็ได้กลับมาเตรียมสภาพร่างกายให้ฟิตพร้อมสำหรับการดวลความเร็วที่ต้องใช้พละกำลัง และความมุ่งมั่นเป็นพิเศษ ส่วนอาการบาดเจ็บที่ข้อมือก็ดีขึ้นมาก เชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบใด ๆ เมื่อลงสนาม และขอมุ่งสมาธินำผลการแข่งขันที่ดีกลับมาฝากคนไทยให้ได้
ด้าน รัฐพงษ์ ที่เดินทางมาที่ญี่ปุ่น ล่วงหน้าก่อนพี่ชาย กล่าวว่า รู้สึกตื่นเต้นที่จะได้ลงสนามแข่งขันรายการเดียวกับพี่ชาย โดยส่วนตัวเคยมีประสบการณ์ลงแข่งขันที่สนาม ซูซูกะ มาแล้ว ดังนั้น จึงมีข้อมูลเกี่ยวกับตัวสนามอยู่พอสมควร และก่อนแข่งก็มีการเตรียมสภาพร่างกายมาเป็นอย่างดี ซึ่งเป้าหมายของตนก็คือลงสนามทำให้ดีที่สุด เพื่อให้แฟน ๆ มอเตอร์สปอร์ตชาวไทยได้ภาคภูมิใจ
สำหรับการแข่งขัน ซูซูกะ 8 ชั่วโมง ที่ญี่ปุ่น วันที่ 30 - 31 กรกฎาคม นี้ รูปแบบการแข่งขัน 1 ทีมจะมีนักแข่งได้ไม่เกิน 3 คน แต่ละทีมจะต้องวางแผนเซตรถ, จัดลำดับนักแข่งให้สมบูรณ์แบบที่สุด ก่อนส่งลงแข่งขัน โดยสลับกันลงสนามไปชิงชัยกับคู่แข่งทีมอื่น ซึ่งระหว่างแข่งนั้นหากรถมีปัญหาหรือน้ำมันหมด สามารถวิ่งกลับมาแก้ไขที่พิตเลนได้ทุกเวลา แต่ต้องใช้รถเพียงคันเดียวเท่านั้น ส่วนการตัดสินแชมป์ ทีมใดที่สามารถวิ่งได้จำนวนรอบมากที่สุดในเวลา 8 ชั่วโมง ก็จะได้แชมป์ไปครอง
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *