สายลม อาดี ลั่นคว้าเหรียญมาครองให้ได้ หลังเข้าแข่งขันโอลิมปิกมาแล้วถึง 2 ครั้ง ด้าน “แสบ” เปี่ยมวิไล เล่าเปี่ยม หวั่นใจเรื่องการให้คะแนนของกรรมการ เพราะมีมาตรฐานที่ต่างกัน แต่ยืนยันจะทำให้เต็มที่
หลังจากทัพกำปั้นไทย สามารถคว้า 4 ที่นั่งในศึกโอลิมปิก 2016 ที่เมืองริโอ เดอ จาเนโร ประเทศบราซิล ประกอบด้วย ชาย 3 คน ได้แก่ สายลม อาดี รุ่น 69 กก., “เอ็ม” วุฒิชัย มาสุข รุ่น 64 กก., “สด” ฉัตร์ชัย บุตรดี รุ่น 56 กก. และ หญิง 1 คน ได้แก่ “แสบ” เปี่ยมวิไล เล่าเปี่ยม รุ่น 51 กก.
ด้าน สายลม อาดี กล่าวถึงการลุยโอลิมปิกครั้งที่ 3 ของตัวเอง เป้าหมายคือการคว้าเหรียญกลับมาฝากคนไทยสถานเดียว “หลังจากที่เราเดินทางไปเก็บตัวที่คิวบา ก็ได้ลงนวมกับนักชกที่มีไอคิวและฝีมือดี แม้ว่าจะไม่ได้ลงนวมกับนักชกชุดเอ ของเจ้าถิ่น แต่ยังได้เห็นฝีมือของนักชกหลายชาติที่เดินทางไปเก็บตัวร่วมกัน จึงถือว่ามีประโยชน์พอสมควร”
“หลังจากนี้ สมาคมแจ้งว่าจะเดินทางไปเก็บตัวที่ประเทศอังกฤษ ซึ่งถือว่ามีอุปกรณ์ที่ครบครัน โดยส่วนตัวตั้งเป้าคว้าเหรียญมาครองให้ได้ แต่ยังต้องฝ่าฟันคู่แข่งสำคัญอย่าง คิวบา ที่เป็นมวยชกยาก อ่านเกมดี นอกเหนือจากนี้ยังต้องอาศัยการแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้าเข้าช่วย” สายลม กล่าว
ด้าน “แสบ” เปี่ยมวิไล เล่าเปี่ยม นักชกหญิงคนแรกของไทยในเวทีโอลิมปิก ยอมรับว่า รู้สึกกดกันกับการแข่งขันอยู่มาก และหวั่นใจกับกรรมการที่อาจตัดสินไม่เข้าข้างเรา “ตอนนี้อยู่ในช่วงปรับสภาพร่างกาย ก่อนซ้อมเข้มงวดในอาทิตย์หน้า ซึ่งน่าจะเก็บตัวอยู่ในประเทศไทยก่อน โดยส่วนตัวไม่มีปัญหาแม้ไม่ได้เดินทางไปต่างประเทศ เพราะก่อนจะไปล่าตั๋วโอลิมปิกก็ลงนวมอยู่ที่นี่ มีคู่ซ้อมหลายสไตล์ และวิทยาศาสตร์การกีฬาเต็มที่”
“ตอนนี้ยอมรับว่า รู้สึกกดดันที่ทุกคนตั้งความหวังไว้ที่เรามาก แต่การคว้าตั๋วโอลิมปิกสำหรับตัวเองก็เป็นเรื่องยากมากอยู่แล้ว จึงตอบไม่ได้ว่าจะคว้าเหรียญมาได้หรือไม่ ทั้งนี้สิ่งที่กังวลใจ คือ เรื่องกรรมการ ซึ่งเราต้องชกให้ถูกใจเขาถึงจะได้คะแนน เพราะกรรมการแต่ละคนมีเกณฑ์ในการให้คะแนนต่างกัน บางคนให้หมัดตรงจุด บางคนชอบลูกขยัน แต่ส่วนตัวจะใช้เทคนิกที่ตัวเองถนัด คือ หมัดตรง และขาก้าวไว ยืนยันว่า จะตั้งใจทำผลงานออกมาให้ดีที่สุด” เปี่ยมวิไล กล่าวทิ้งท้าย