การกีฬาแห่งประเทศไทย หนุนเงินรางวัล “เอไอเอส ฟุตซอล ไทยแลนด์ลีก 2016” เพิ่ม 5 ล้าน เฉพาะแชมป์รับ 2.5 ล้านเตะยาว 10 เดือน ไทยรัฐทีวีจับมือเอไอเอสยิงสดครบทั้ง 182 คู่ พร้อมตั้ง อนุชา มั่นเจริญ ตำนานโต๊ะเล็กทีมชาติเป็นแบนรด์แอมบาสเดอร์
การแถลงข่าวจัดการแข่งขัน “เอไอเอส ฟุตซอล ไทยแลนด์ลีก 2016” เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2559 ณ ห้องวาสนา โรงแรมโกลเด้นทิวลิป ซอฟเฟอริน โดยมี พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมฟุตบอลฯ และนายสกล วรรณพงษ์ ผู้ว่าการ กกท. เป็นประธานร่วมในการแถลงข่าว
โดย “บิ๊กเสือ” สกล วรรณพงษ์ เผยข่าวดีในเรื่องของการเพิ่มเงินรางวัล “ที่ผ่านมา ทีมฟุตซอลทีมชาติไทยสร้างชื่อเสียงให้ประเทศชาติมาโดยตลอด ดังนั้น ในการแข่งขันลีกอาชีพ ที่คอยป้อนผู้เล่นสู่ทีมชาติจึงต้องได้รับการสนับสนุนและผลักดันมากขึ้น ทาง กกท. จึงไม่ลังเลที่จะเพิ่มเงินสนับสนุนประจำฤดูกาล เพื่อให้มีการแข่งขันที่สูงขึ้นและเป็นมืออาชีพมากขึ้น”
ด้าน “บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง แสดงความมั่นใจว่า ฟุตซอลลีก จะได้รับความนิยมไม่แพ้ ฟุตบอลลีก อย่างแน่นอน “สำหรับทีมฟุตซอลของไทยที่ผ่านมานั้น เป็นเรื่องปกติที่ได้ไปเล่นฟุตซอลโลก ดังนั้นเมื่อตนเองเข้ามาเป็นนายกสมาคมฯ ต้องพยายามเต็มที่ในการรักษามาตรฐานระดับโลกไว้ จึงต้องให้ความสำคัญกับลีก เพราะเชื่อมั่นว่าในอนาคตจะได้รับความนิยมไม่แพ้ฟุตบอล ในส่วนของเงินสนับสนุนแต่ละทีมจะได้เพิ่มจากเดิมเป็น 400,000 บาท และมีการถ่ายทอดสดครบทุกคู่ ส่วนในอนาคตทุกทีมจะได้เงินสนับสนุนมากกว่านี้ เพื่อให้ฟุตซอลเป็นอาชีพอย่างแท้จริง”
ขณะที่ “บิ๊กป๋อม” อดิศักดิ์ เบ็ญจศิริวรรณ ประธานพัฒนาฟุตซอลแห่งชาติ เผยถึงการแก้ไขปัญหาต่างๆ จากปีที่ผ่านมา “ปีนี้เป็นการแข่งขันครั้งที่ 9 แล้วก็ครบรอบ 10 ปีในการแข่งขันลีกของไทย ทำให้เห็นปัญหาต่างที่ควรแก้ไข อาทิ กฎระเบียบ ต้องเป็นอาชีพมากขึ้น การจัดโปรแกรมการแข่งขันต้องมีระยะเวลามากพอที่จะจ้างนักเตะได้เต็มปี หรืออย่างน้อย 10 เดือน เพื่อที่นักเตะจะได้ไม่ค้องเดินสาย จึงจัดโปรแกรมการแข่งขันตั้งแต่ 14 พฤษภาคม 2559 - 14 มกราคม 2560 พร้อมตั้ง อนุชา มั่นเจริญ ช่วยประชาสัมพันธ์ฟุตซอลลีก”
ภายในงานแถลงข่าวได้มีการมอบเงินบำรุงทีมให้กับทั้ง 14 สโมสร ทีมละ 400,000 บาท โดยในงวดแรกรับทีมละ 200,000 บาท ด้านเงินรางวัลประจำการแข่งขันโดยการกีฬาแห่งประเทศไทย แชมป์จะได้รับ 2.5 ล้านบาท, รองแชมป์รับ 1 ล้านบาท, อันดับที่ 3 รับ 5 แสนบาท, อันดับที่ 4 รับ 3 แสนบาท, อันดับที่ 5 รับ 2 แสนบาท, อันดับที่ 6 รับ 1 แสนบาท และอันดับ 7 รับ 7 หมื่นบาท รวมเป็นจำนวนทั้งสิ้น 4.67 ล้านบาท