ผู้จัดการสุดสัปดาห์ 360 - จบแบบพลิกความคาดหมายสำหรับเมเจอร์แรกของปีเมื่อคนที่ได้สวมเสื้อเขียวคือ แดนนี วิลเล็ตต์ คว้าแชมป์ไปด้วยสกอร์ 5 อันเดอร์พาร์ ส่วนแชมป์เก่าอย่าง จอร์แดน สปีธ ชาวอเมริกันตกม้าตายในวันสุดท้าย ส่งให้กลายเป็นโปรอังกฤษรายแรกที่ได้แชมป์ ณ ออกัสตา รอบ 20 ปีต่อจาก นิค ฟัลโด ถือว่าศึกนี้มีเหตุไม่คาดฝันตั้งแต่วันแรก ดังนั้น “เดลี เมล” สื่อดังเมืองผู้ดีจึงรวบรวมเรื่องที่เป็นเหมือน “ฝันร้าย” วงการกีฬามาฝากกันทั้งจากกอล์ฟ, ฟุตบอล, กีฬาความเร็ว ฯลฯ
เออร์นี เอลส์ (กอล์ฟ) - ศึกเมเจอร์แรกของฤดูกาล 2016 “เดอะ มาสเตอร์ส” ที่ ออกัสตา เนชันแนล กอล์ฟ คลับ มีสกอร์เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ที่ต้องบันทึกเอาไว้ ซึ่ง เอลส์ อดีตมือ 1 จากแอฟริกาใต้และมีประสบการณ์คว้าแชมป์มาแล้ว 4 เมเจอร์ แต่กลับออกสตาร์ทแย่ที่สุดตั้งแต่หลุมแรกพาร์ 4 โดยทำไป 5 โอเวอร์พาร์รวม 9 ช็อตจากการที่พัตต์ระยะ 3 ฟุตไม่ลงรวมพัตต์ไปถึง 6 ครั้ง ทว่าถ้ารวมจริงๆ ก็ 7 พัตต์เพราะก่อนหน้านั้นพัตต์ระยะไกลมาเกาะใกล้หลุม (ถ้าเห็นในคลิปแค่ 6 ครั้ง) จากนั้นก็คงไม่มีสมาธิเล่นแล้วจบวันเกิน 8 โอเวอร์พาร์รวม 2 รอบเกิน 9 โอเวอร์พาร์ไม่ผ่านตัดตัวกลับบ้านไปเลียแผลใจ ซึ่งดูเหมือนจะไม่มีโชคกับรายการใหญ่นี้ เพราะที่ผ่านมาก็ไม่เคยได้สวม “กรีน แจ๊คเก็ต” ผลงานดีที่สุดคือที่ 2 เมื่อปี 2000 กับ 2004
ฌอง ฟาน เดอ เวลเด (กอล์ฟ) - เชื่อเหลือเกินว่าไม่มีใครอยากประสบชะตากรรมเช่นนี้ เพราะเสมือนฝันร้ายไม่มีวันตื่นหลอกหลอนไปจนวันตาย ย้อนไปศึก “ดิ โอเพน” เมื่อปี 1999 โอกาสคว้าแชมป์เมเจอร์แรกของโปรชาวฝรั่งเศสอยู่แค่เอื้อม เพราะนำอยู่ 3 สโตรกขณะที่กำลังที-ออฟหลุมสุดท้าย แต่เหมือนฟ้าผ่าเสียทริปเปิลโบกีชนิดต้องถลกขากางเกงไปลุยน้ำที่สนาม คานุสตี ทำให้ต้องเพลย์ออฟกับ พอล ลอว์รี (สกอตแลนด์) และ จัสตัน เลียวนาร์ด (สหรัฐอเมริกา) ทั้งหมดสกอร์เท่ากัน 6 โอเวอร์พาร์ เมื่อเผชิญสถานการณ์เช่นนี้ก็คงไม่มีใจไปทำอะไรแล้ว สุดท้าย ลอว์รี ได้ชูถ้วย “คลาเร็ต จัก” ส่วนผู้เล่นที่ปัจจุบันวัย 49 ปีก็ไม่เคยได้แชมป์เมเจอร์มาประดับตู้โชว์ที่บ้าน เกียรติยศอื่นๆ ที่พอนำไปคุยได้ก็แค่แชมป์ ยูโรเปียน ทัวร์ 2 รายการ
ลูอิส แฮมิลตัน (ฟอร์มูลา วัน) - เจ้าของตำแหน่งแชมป์โลก 3 สมัยปี 2008, 2014 และ 2015 แต่เมื่อปี 2007 ที่ปรากฎตัวในวงการ เอฟวัน ในฐานะรุคกี ซึ่งก็เกือบคว้าแชมป์ได้ตั้งแต่ปีแรกกับการซิ่งให้ แม็คลาเรน แต่เหตุการณ์ไม่คาดฝันที่เหมือนการรับน้องเกิดขึ้นที่สนามรองสุดท้าย “ไชนีส กรังด์ ปรีซ์” โดยเตรียมที่จะเข้าพิตเปลี่ยนยาง ทว่าดันพลาดจมลงไปในบ่อกรวดไม่สามารถขึ้นมาได้จึงต้องรีไทร์จากการแข่งขันไปโดยปริยายพร้อมส่งให้ คิมี ไรค์โคเนน มนุษย์เยือกแข็งจากฟินแลนด์ค่ายเฟอร์รารีคว้าชัย 2 เรซซ้อนเข้าป้ายแชมป์โลกโดยเฉือนนักขับชาวอังกฤษแต้มเดียว
จอห์น เทอร์รี (ฟุตบอล) - ศึกสายเลือดสโมสรอังกฤษอุบัติขึ้นนัดชิง ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก ปี 2008 ที่ ลุซนิกี สเตเดียม กรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย เมื่อครบ 120 นาทีทั้งคู่เสมอกัน 1-1 ต้องตัดสินขั้นฎีกาด้วยการดวลจุดโทษ คริสเตียโน โรนัลโด พลาดคนเดียวจากทั้งหมด 5 คนของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทำให้ความกดดันมาตกอยู่กับคนสุดท้ายของ เชลซี คือ จอห์น เทอร์รี หากยิงเข้าจะเป็นฉากที่สมบูรณ์แบบสุดๆ ในฐานะกัปตันทีมที่จะได้ชูถ้วยยุโรปครั้งแรกของสโมสร แถมประสบการณ์ก็พอตัวน่าจะพลาดยาก แต่ฝนเจ้ากรรมทำให้ลื่นลูกยิงบานออกไปชนเสา จากนั้นสถานการณ์เปลี่ยน “ผีแดง” ยิงเข้าอีก 2 คนตรงกันข้าม “สิงโตแห่งกรุงลอนดอน” พลาดอีกคนคือ นิโกลาส์ อเนลกา ส่งให้ถ้วยลูกลำเลียงไปยังเมืองแมนเชสเตอร์ชนะไปด้วยสกอร์ 6-5
แกเร็ธ เซาธ์เกต (ฟุตบอล) - จุดโทษกับนักเตะคือของแสลงถ้าไม่สมัครใจห้ามบังคับกันอย่างเด็ดขาด แต่บางสถานการณ์ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้เช่นเมื่อเพชฌฆาตซัดไปครบ 5 คน อย่างในศึก ยูโร 1996 รอบรองชนะเลิศเจ้าภาพ อังกฤษ เสมอกับ เยอรมนี 1-1 เมื่อพ้น 120 นาทีและดวลเป้ากันไป 10 คนไม่มีใครพลาด เซาธ์เกต แนวรับจอมแกร่งออกมาซัดถูก อันเดรียส ค็อปเค เซฟเอาไว้ได้ จากนั้นเป็น อันเดรียส โมลเลอร์ ยิงลูกสำคัญพร้อมส่ง “อินทรีเหล็ก” ชนะไปด้วยสกอร์ 6-5 ก่อนที่จะได้แชมป์ในบั้นปลายด้วยการต่อเวลาชนะ สาธารณรัฐเช็ก 2-1
ลิเวอร์พูล (ฟุตบอล) - “หงส์แดง” เคยทำแสบใส่ เอซี มิลาน ไล่ตีเสมอ 3-3 ก่อนชนะจุดโทษ 3-2 คว้าแชมป์ ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก เมื่อปี 2005 ที่ อิสตันบูล ดังนั้นเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นใน พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2013-14 จึงถูกเรียกว่า “คริสตัลบูล” ย้อนไปตอนนั้น ลิเวอร์พูล ใกล้จะคว้าแชมป์ลีกครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1990 แม้ว่าจะแพ้ เชลซี คาถิ่นมาก่อน 0-2 โดยบุกไปนำห่าง คริสตัล พาเลซ 3-0 ภายในระยะเวลาแค่ 11 นาที แต่กลับถูกตีเสมอแชมป์จึงเรียกได้ว่าหลุดลอยไปเลยพร้อมส่งให้กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี คว้าแชมป์ในปีนั้นไปครองหน้าตาเฉย
อูเซน โบลต์ (วิ่ง) - ชายผู้วิ่งเร็วที่สุดในโลกเจ้าของสถิติโลก 100 กับ 200 เมตรรวมถึง 6 เหรียญทอง โอลิมปิก แต่กลับถูกดิสควอลิฟายจากการแข่งขันชิงแชมป์โลกเมื่อปี 2011 ประเภท 100 เมตรรอบชิงชนะเลิศ ณ แดกู เกาหลีใต้ เพราะออกตัวเร็วเกินไป ซึ่งแน่นอนชายจากจาไมกาลงเวทีไหนคือตัวเต็งทำให้เจ้าตัวรู้สึกผิดหวังเป็นอย่างยิ่งถึงกับถอดเสื้อออกในทันที เพราะประสบการณ์เลวร้ายนี้เกิดขึ้นใครก็ทำตัวไม่ถูก
เรื่อง สรเดช เพชรแสงใสกุล