คอลัมน์ EYE ON SPORTS โดย กษิติ กมลนาวิน ราชวังสัน
เข้าสู่ทางตรง 100 เมตรสุดท้ายของ การแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก รอบ 2 โซนเอเชีย แล้ว ไทย มีคิวแข่งนัดสุดท้ายกับ อีรัก ที่ พีเอเอ๊ส สเตเดี้ยม ในกรุงเตหะราน ประเทศอีหร่าน ในวันพรุ่งนี้ แต่ผมมองข้ามฉ็อทนัดนี้ไปนานแล้ว เพราะถึงจะออกผลอย่างไร ไทย ก็น่าจะได้เข้ารอบ 3 อย่างแน่นอน เนื่องด้วยเงื่อนไขที่จะทำให้ทีมอื่นๆค่อยๆหมดสิทธิ์นั้นมันเยอะเหลือเกิน จึงลองมาดูว่าอีก 11 ทีมที่เรามีโอกาสต้องเจอเพื่อแย่งสิทธิ์เข้ารอบสุดท้ายที่ รัสเซีย มีทีมใดบ้างดีกว่า
สมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย หรือ เอเอ๊ฟซี วางหลักเกณฑ์คัดเอา 12 ทีมจากรอบ 2 เข้ารอบต่อไป โดยแบ่งการแข่งขันออกเป็น 8 กลุ่มๆละ 5 ทีม แล้วคัดเอาแช้มพ์กลุ่มเข้ารอบ ส่วนอีก 4 ทีมก็ให้สิทธิ์รองแช้มพ์กลุ่มที่ดีที่สุด 4 อันดับแรก ซึ่งที่ผ่านมา ฟีฟ่า ลงโทษแบน อินโดเนเซีย ที่อยู่ในกลุ่ม F กลุ่มเดียวกับ ไทย ดังนั้น เพื่อให้เกิดความยุติธรรมกับทุกกลุ่ม จึงให้นับการแข่งขันเสมือนว่าทุกกลุ่มมีเพียง 4 ทีมเท่าๆกัน โดยตัดผลการแข่งขันที่มีต่อทีมบ๊วยทิ้งไป อันนี้ เพื่อใช้ในการจัดอันดับทีมรองแช้มพ์กลุ่มเท่านั้นนะครับ แต่การหาแช้มพ์กลุ่มยังคงนับรวมการแข่งขันกับทุกทีมในกลุ่ม
กลุ่ม A ซาอูดี อาราเบีย มีโอกาสเป็นแช้มพ์กลุ่ม แต่อาจไปแพ้ ยูเออี ในนัดสุดท้ายและโดนแซงกลายเป็นรองแช้มพ์กลุ่ม อย่างไรก็ตาม การมีคะแนนและผลต่างประตูตุนเอาไว้มากมายจะทำให้ได้เข้ารอบ 3 ทั้งคู่
กลุ่ม B ตามปกติ อ๊อสตราเลีย น่าจะเป็นแช้มพ์กลุ่มและได้เข้ารอบไปทีมเดียว ขออย่างเดียวอย่าไปแพ้ จอร์แดน คาบ้านตนเองในนัดสุดท้ายก็แล้วกัน นั่นจะทำให้ จอร์แดน ได้สิทธิ์นั้นไปแทน และ อ๊อสตราเลีย กลับต้องลุ้นคะแนนในฐานะทีมอันดับ 2
กลุ่ม C กาตาร์ ชนะรวด 6 นัด เป็นแช้มพ์กลุ่มโดยมีคะแนนห่างขาดทีมอื่นไปแล้ว ยังเหลือคิวแข่งกับทั้ง ฮ่องกง และ จีน ที่กำลังช่วงชิงอันดับ 2 ซึ่ง จีน มีโอกาสดีกว่าตรงที่เป็นเจ้าบ้าน อย่างไรก็ตาม รองแช้มพ์ของกลุ่มนี้ คะแนนน้อยจริงๆ ลุ้นยาก ถ้าได้เข้ารอบก็เหลือเชื่อครับ
กลุ่ม D เหลือให้ชิงแช้มพ์กลุ่มกันระหว่าง อีหร่าน กับ โอมาน ซึ่งจะต้องเจอกันเองในนัดสุดท้าย โดย อีหร่าน มีโอกาสดีกว่าเพราะเป็นเจ้าบ้าน แค่ไม่แพ้ ถึงแพ้ก็ตุนผลต่างประตูไว้เยอะมาก น่าจะผ่านเข้ารอบทีมเดียว ส่วนอันดับ 2 ของกลุ่มนี้คะแนนไม่น่าจะเพียงพอที่จะเข้ารอบ
กลุ่ม E ญี่ปุ่น กับ ซีเรีย มีคะแนนสูสีกันมาก แถมนัดสุดท้ายต้องมาชิงแช้มพ์กลุ่มกันเอง ญี่ปุ่น ได้เปรียบตรงที่เป็นเจ้าบ้าน ในกลุ่มนี้ทั้ง 2 ทีมต่างก็มีคะแนนสูงและตุนผลต่างประตูไว้เยอะมาก น่าจะได้เข้ารอบ 3 ทั้งคู่
กลุ่ม F ไทย ต้องเจอกับ อีรัก ในนัดสุดท้าย หากชนะหรือเสมอก็เป็นแช้มพ์กลุ่ม หรือแม้พ่ายแพ้นัดนี้ก็ยังได้เข้ารอบอยู่แล้ว เพราะมีคะแนนตุนไว้เยอะและเงื่อนไขในกลุ่มอื่นเอื้ออำนวยมาก ส่วน อีรัก นั้น ใน 2 นัดที่เหลือควรจะได้เต็มๆ 6 แต้ม ไม่เช่นนั้นอาจหลุดวงโคจร
กลุ่ม G เกาหลีใต้ คะแนนเหลือเฟือ ไม่มีทีมใดตามทัน ได้เข้ารอบในฐานะแช้มพ์กลุ่มแน่นอนแล้ว ส่วนอันดับ 2 คูเวท ซึ่งยังมีปัญหาต้องรอการพิจารณาจาก ฟีฟ่า รวมทั้ง เลบานอน แม้ทั้ง 2 ทีมดังกล่าวยังเหลือแม็ทช์แข่งอีก 2 นัด แต่คะแนนที่สะสมกันไว้มีน้อยมาก ไม่น่าได้ผ่านเข้ารอบต่อไป
กลุ่ม H ทั้ง เกาหลีเหนือ กับ อุซเบกิสถาน ต่างก็มีคะแนนสูง แต่ อุซเบกิสถาน เหลือแข่ง 2 นัด มีโอกาสแซงขึ้นเป็นแช้มพ์กลุ่ม อย่างไรก็ตาม เกาหลีเหนือ แม้หล่นลงมาอยู่อันดับ 2 ก็ยังน่าจะมีคะแนนติดกลุ่มเข้ารอบไปได้
นี่เป็นอีกครั้งที่เราเฉียดเข้าไปใกล้ ฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย มากที่สุด หากมองภาพรวม 12 ทีมในรอบ 3 นั้น ครึ่งหนึ่งจะเป็นแขกจาก เอเชียตะวันตก 4 ทีมเป็น ตี๋เอเชีย และอีก 2 ทีมเป็น ฝรั่ง แม้จะเป็นภารกิจที่ยาก แต่ผมยังมองว่า เราสู้ได้ทุกทีม และสิ่งที่แตกต่างจากครั้งก่อนโน้นก็คือ ยุคนี้เรามีลีกภายในประเทศที่ค่อนข้างแข็งแกร่ง ตัวเลือกย่อมมากขึ้น ทักษะของนักเตะมีพัฒนาการขึ้น วิทยาศาสตร์การกีฬาถูกนำเข้ามาใช้ มีการบริหารจัดการที่เป็นเรื่องเป็นราวมากกว่าแต่ก่อน สรรพสิ่งเอื้ออำนวยหมด จะเหลือก็แต่โค้ชชิ่งที่ต้องดูกันนัดต่อนัดครับ
เข้าสู่ทางตรง 100 เมตรสุดท้ายของ การแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก รอบ 2 โซนเอเชีย แล้ว ไทย มีคิวแข่งนัดสุดท้ายกับ อีรัก ที่ พีเอเอ๊ส สเตเดี้ยม ในกรุงเตหะราน ประเทศอีหร่าน ในวันพรุ่งนี้ แต่ผมมองข้ามฉ็อทนัดนี้ไปนานแล้ว เพราะถึงจะออกผลอย่างไร ไทย ก็น่าจะได้เข้ารอบ 3 อย่างแน่นอน เนื่องด้วยเงื่อนไขที่จะทำให้ทีมอื่นๆค่อยๆหมดสิทธิ์นั้นมันเยอะเหลือเกิน จึงลองมาดูว่าอีก 11 ทีมที่เรามีโอกาสต้องเจอเพื่อแย่งสิทธิ์เข้ารอบสุดท้ายที่ รัสเซีย มีทีมใดบ้างดีกว่า
สมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย หรือ เอเอ๊ฟซี วางหลักเกณฑ์คัดเอา 12 ทีมจากรอบ 2 เข้ารอบต่อไป โดยแบ่งการแข่งขันออกเป็น 8 กลุ่มๆละ 5 ทีม แล้วคัดเอาแช้มพ์กลุ่มเข้ารอบ ส่วนอีก 4 ทีมก็ให้สิทธิ์รองแช้มพ์กลุ่มที่ดีที่สุด 4 อันดับแรก ซึ่งที่ผ่านมา ฟีฟ่า ลงโทษแบน อินโดเนเซีย ที่อยู่ในกลุ่ม F กลุ่มเดียวกับ ไทย ดังนั้น เพื่อให้เกิดความยุติธรรมกับทุกกลุ่ม จึงให้นับการแข่งขันเสมือนว่าทุกกลุ่มมีเพียง 4 ทีมเท่าๆกัน โดยตัดผลการแข่งขันที่มีต่อทีมบ๊วยทิ้งไป อันนี้ เพื่อใช้ในการจัดอันดับทีมรองแช้มพ์กลุ่มเท่านั้นนะครับ แต่การหาแช้มพ์กลุ่มยังคงนับรวมการแข่งขันกับทุกทีมในกลุ่ม
กลุ่ม A ซาอูดี อาราเบีย มีโอกาสเป็นแช้มพ์กลุ่ม แต่อาจไปแพ้ ยูเออี ในนัดสุดท้ายและโดนแซงกลายเป็นรองแช้มพ์กลุ่ม อย่างไรก็ตาม การมีคะแนนและผลต่างประตูตุนเอาไว้มากมายจะทำให้ได้เข้ารอบ 3 ทั้งคู่
กลุ่ม B ตามปกติ อ๊อสตราเลีย น่าจะเป็นแช้มพ์กลุ่มและได้เข้ารอบไปทีมเดียว ขออย่างเดียวอย่าไปแพ้ จอร์แดน คาบ้านตนเองในนัดสุดท้ายก็แล้วกัน นั่นจะทำให้ จอร์แดน ได้สิทธิ์นั้นไปแทน และ อ๊อสตราเลีย กลับต้องลุ้นคะแนนในฐานะทีมอันดับ 2
กลุ่ม C กาตาร์ ชนะรวด 6 นัด เป็นแช้มพ์กลุ่มโดยมีคะแนนห่างขาดทีมอื่นไปแล้ว ยังเหลือคิวแข่งกับทั้ง ฮ่องกง และ จีน ที่กำลังช่วงชิงอันดับ 2 ซึ่ง จีน มีโอกาสดีกว่าตรงที่เป็นเจ้าบ้าน อย่างไรก็ตาม รองแช้มพ์ของกลุ่มนี้ คะแนนน้อยจริงๆ ลุ้นยาก ถ้าได้เข้ารอบก็เหลือเชื่อครับ
กลุ่ม D เหลือให้ชิงแช้มพ์กลุ่มกันระหว่าง อีหร่าน กับ โอมาน ซึ่งจะต้องเจอกันเองในนัดสุดท้าย โดย อีหร่าน มีโอกาสดีกว่าเพราะเป็นเจ้าบ้าน แค่ไม่แพ้ ถึงแพ้ก็ตุนผลต่างประตูไว้เยอะมาก น่าจะผ่านเข้ารอบทีมเดียว ส่วนอันดับ 2 ของกลุ่มนี้คะแนนไม่น่าจะเพียงพอที่จะเข้ารอบ
กลุ่ม E ญี่ปุ่น กับ ซีเรีย มีคะแนนสูสีกันมาก แถมนัดสุดท้ายต้องมาชิงแช้มพ์กลุ่มกันเอง ญี่ปุ่น ได้เปรียบตรงที่เป็นเจ้าบ้าน ในกลุ่มนี้ทั้ง 2 ทีมต่างก็มีคะแนนสูงและตุนผลต่างประตูไว้เยอะมาก น่าจะได้เข้ารอบ 3 ทั้งคู่
กลุ่ม F ไทย ต้องเจอกับ อีรัก ในนัดสุดท้าย หากชนะหรือเสมอก็เป็นแช้มพ์กลุ่ม หรือแม้พ่ายแพ้นัดนี้ก็ยังได้เข้ารอบอยู่แล้ว เพราะมีคะแนนตุนไว้เยอะและเงื่อนไขในกลุ่มอื่นเอื้ออำนวยมาก ส่วน อีรัก นั้น ใน 2 นัดที่เหลือควรจะได้เต็มๆ 6 แต้ม ไม่เช่นนั้นอาจหลุดวงโคจร
กลุ่ม G เกาหลีใต้ คะแนนเหลือเฟือ ไม่มีทีมใดตามทัน ได้เข้ารอบในฐานะแช้มพ์กลุ่มแน่นอนแล้ว ส่วนอันดับ 2 คูเวท ซึ่งยังมีปัญหาต้องรอการพิจารณาจาก ฟีฟ่า รวมทั้ง เลบานอน แม้ทั้ง 2 ทีมดังกล่าวยังเหลือแม็ทช์แข่งอีก 2 นัด แต่คะแนนที่สะสมกันไว้มีน้อยมาก ไม่น่าได้ผ่านเข้ารอบต่อไป
กลุ่ม H ทั้ง เกาหลีเหนือ กับ อุซเบกิสถาน ต่างก็มีคะแนนสูง แต่ อุซเบกิสถาน เหลือแข่ง 2 นัด มีโอกาสแซงขึ้นเป็นแช้มพ์กลุ่ม อย่างไรก็ตาม เกาหลีเหนือ แม้หล่นลงมาอยู่อันดับ 2 ก็ยังน่าจะมีคะแนนติดกลุ่มเข้ารอบไปได้
นี่เป็นอีกครั้งที่เราเฉียดเข้าไปใกล้ ฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย มากที่สุด หากมองภาพรวม 12 ทีมในรอบ 3 นั้น ครึ่งหนึ่งจะเป็นแขกจาก เอเชียตะวันตก 4 ทีมเป็น ตี๋เอเชีย และอีก 2 ทีมเป็น ฝรั่ง แม้จะเป็นภารกิจที่ยาก แต่ผมยังมองว่า เราสู้ได้ทุกทีม และสิ่งที่แตกต่างจากครั้งก่อนโน้นก็คือ ยุคนี้เรามีลีกภายในประเทศที่ค่อนข้างแข็งแกร่ง ตัวเลือกย่อมมากขึ้น ทักษะของนักเตะมีพัฒนาการขึ้น วิทยาศาสตร์การกีฬาถูกนำเข้ามาใช้ มีการบริหารจัดการที่เป็นเรื่องเป็นราวมากกว่าแต่ก่อน สรรพสิ่งเอื้ออำนวยหมด จะเหลือก็แต่โค้ชชิ่งที่ต้องดูกันนัดต่อนัดครับ
