คอลัมน์ “ริงไซด์ ไฟต์คลับ” โดย “ลักษมณ์ นันทิวัชรินทร์”
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 4 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา มีรายการมวยโลกบ่ายสองที่ต้องถือเป็นรายการใหญ่ ณ ศาลากลางจังหวัดชลบุรี เป็นไฟต์ที่นักชกไทย “น็อกเอาท์ ซีพีเฟรชมาร์ท” เจ้าของตำแหน่งแชมป์ “เฉพาะกาล” รุ่นมินิมัมเวท 105 ปอนด์ ของสมาคมมวยโลก WBA และรองแชมป์โลกอันดับ 1 ขึ้นสังเวียนพบกับคู่ปรับเก่าชาวนิคารากัว คาร์ลอส บุยตราโก โดยที่ บุยตราโก มีดีกรีเป็นรองแชมป์โลกอันดับ 2 ในรุ่นเดียวกันสถาบันเดียวกันอยู่ด้วย
ที่บอกว่าเป็นไฟต์ใหญ่ เพราะก่อนการชกมีการประโคมกันเต็มที่ว่าไฟต์นี้เป็นการชกชิงเข็มขัดแชมป์โลก “ของจริง” ในรุ่นนี้ของสมาคมมวยโลก เพราะเจ้าของเข็มขัดแชมป์โลกคนก่อนหน้านี้ เฮคกี บัดเลอร์ ป้องกันตำแหน่งไว้ได้ 4 ไฟต์ทำให้ทางสมาคมมวยโลกยกย่องขึ้นเป็น “ซูเปอร์แชมเปียน” และทำให้ตำแหน่งแชมป์โลก “ปกติ” ว่างลง น็อกเอาท์ ของเราในฐานะแชมป์ “เฉพาะกาล” เลยได้สิทธิ์ขึ้นพบกับรองแชมป์โลกอันดับ 2 เพื่อชิงแชมป์โลกที่ว่างลง (จากการที่แชมป์ตัวจริงได้รับการยกระดับขึ้นดังกล่าว)
ไฟต์ระหว่าง น็อกเอาท์-บุยตราโก เลยกลายเป็นไฟต์ใหญ่ขึ้นมาเพราะเป็นการชิงแชมป์โลกกันจริงๆ ตามข่าวที่ออกมาตอนแรก โดยเฉพาะช่วงนี้สถาบันต่างๆ ก็สร้างสรรค์ตำแหน่งแชมป์ต่างๆ กันเยอะแยะไปหมด การที่จะมีไฟต์ชิงแชมป์โลกจริงๆ ของสถาบันหลักเก่าแก่ที่ได้รับการยอมรับมานานก็ถือเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นขึ้นมาหน่อย ตลอดการชก 12 ยกนักชกไทยทำได้ดีมาก ชิงออกหมัดเข้าเป้าตลอด รวมทั้งอาศัยจังหวะสายตาดึงตัวหลบหมัดของนักชกนิคารากัวได้ชนิดแทบไม่บอบช้ำเลย ครบยกคะแนนเทไปข้างแชมป์เฉพาะกาลชาวไทยเราแบบไร้ข้อกังขา 117-111 สองเสียง และ 119-109 อีกเสียง
จบการชกแฟนมวยชาวไทยเฮกันใหญ่เพราะเชื่อว่าเมืองไทยมีแชมป์โลก “ตัวจริง” เพิ่มอีกรายแล้ว ที่สำคัญทำให้ไทยเรามีแชมป์โลกจากสถาบันหลักที่ได้รับการยอมรับครบทั้ง 4 สถาบัน โดย วันเฮง ซีพีเฟชรมาร์ท จากค่ายเดียวกัน เป็นแชมป์รุ่น 105 ปอนด์ของสภามวยโลก WBC, อำนาจ เกษตรพัฒนา เป็นแชมป์รุ่น 112 ปอนด์ของสหพันธ์มวยนานาชาติ IBF, ผึ้งหลวง ส.สิงห์อยู่ เป็นแชมป์รุ่น 118 ปอนด์ขององค์กรมวยโลก WBO และน็อกเอ้าท์ รุ่น 105 ปอนด์ของสมาคมมวยโลก WBC ถือเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของวงการมวยไทยเลยทีเดียว
แต่ปรากฏว่าข่าวล่าสุดยังเกิดความสับสนอยู่ เพราะเว็บไซต์มวยที่ได้รับความเชื่อถือสูงสุดอย่าง boxrec.com กลับประกาศให้ไฟต์นี้เป็นการป้องกันตำแหน่งแชมป์ “เฉพาะกาล” ของ น็อกเอาท์ เท่านั้น พอเช็คข่าวจาก WBA ก็มีรายงานผลการชก และรายงานว่าเป็นการป้องกันตำแหน่งแชมป์ “เฉพาะกาล” เหมือนกัน จะดูการจัดอันดับมวยก็ยังอยู่แค่เดือนธันวาคม เดือนมกราคมยังไม่มีการประกาศ ถ้าประกาศมาว่าแชมป์ตัวจริงดั้งเดิมอย่าง เฮคกี บัดเลอร์ ได้รับการยกย่องขึ้นเป็นซูเปอร์แชมเปียนแล้ว และตำแหน่งแชมป์จริงว่างลงแล้ว (ณ เดือนมกราคม) ก็พอจะใจชื้นเชื่อได้ว่าพอประกาศอันดับเดือนกุมภาพันธ์จะมีชื่อนักชกไทยเป็นแชมป์แน่นอน แต่ตอนนี้ในเว็บยังอยู่แค่เดือนธันวาคมก็ต้องรอกันหน่อย
ตอนนี้ก็ได้แต่แสดงความยินดีกับฟอร์มการชกที่ยอดเยี่ยมของ น็อกเอาท์ ไปก่อน แล้วไว้ประกาศว่าเป็นแชมป์จริงๆ แล้วแฟนมวยชาวไทยค่อยมาร่วมเฮกันดังๆ อีกครั้ง ที่สำคัญกว่าจะถึงวันนั้นทั้ง ผึ้งหลวง-วันเฮง-อำนาจ อย่าเพิ่งพลาดท่าใครไปซะก่อน จะได้มีวันที่เราปลื้มกันได้จริงๆ ว่ามีแชมป์โลกตัวจริงครบ 4 สถาบันกันได้เต็มปาก
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 4 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา มีรายการมวยโลกบ่ายสองที่ต้องถือเป็นรายการใหญ่ ณ ศาลากลางจังหวัดชลบุรี เป็นไฟต์ที่นักชกไทย “น็อกเอาท์ ซีพีเฟรชมาร์ท” เจ้าของตำแหน่งแชมป์ “เฉพาะกาล” รุ่นมินิมัมเวท 105 ปอนด์ ของสมาคมมวยโลก WBA และรองแชมป์โลกอันดับ 1 ขึ้นสังเวียนพบกับคู่ปรับเก่าชาวนิคารากัว คาร์ลอส บุยตราโก โดยที่ บุยตราโก มีดีกรีเป็นรองแชมป์โลกอันดับ 2 ในรุ่นเดียวกันสถาบันเดียวกันอยู่ด้วย
ที่บอกว่าเป็นไฟต์ใหญ่ เพราะก่อนการชกมีการประโคมกันเต็มที่ว่าไฟต์นี้เป็นการชกชิงเข็มขัดแชมป์โลก “ของจริง” ในรุ่นนี้ของสมาคมมวยโลก เพราะเจ้าของเข็มขัดแชมป์โลกคนก่อนหน้านี้ เฮคกี บัดเลอร์ ป้องกันตำแหน่งไว้ได้ 4 ไฟต์ทำให้ทางสมาคมมวยโลกยกย่องขึ้นเป็น “ซูเปอร์แชมเปียน” และทำให้ตำแหน่งแชมป์โลก “ปกติ” ว่างลง น็อกเอาท์ ของเราในฐานะแชมป์ “เฉพาะกาล” เลยได้สิทธิ์ขึ้นพบกับรองแชมป์โลกอันดับ 2 เพื่อชิงแชมป์โลกที่ว่างลง (จากการที่แชมป์ตัวจริงได้รับการยกระดับขึ้นดังกล่าว)
ไฟต์ระหว่าง น็อกเอาท์-บุยตราโก เลยกลายเป็นไฟต์ใหญ่ขึ้นมาเพราะเป็นการชิงแชมป์โลกกันจริงๆ ตามข่าวที่ออกมาตอนแรก โดยเฉพาะช่วงนี้สถาบันต่างๆ ก็สร้างสรรค์ตำแหน่งแชมป์ต่างๆ กันเยอะแยะไปหมด การที่จะมีไฟต์ชิงแชมป์โลกจริงๆ ของสถาบันหลักเก่าแก่ที่ได้รับการยอมรับมานานก็ถือเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นขึ้นมาหน่อย ตลอดการชก 12 ยกนักชกไทยทำได้ดีมาก ชิงออกหมัดเข้าเป้าตลอด รวมทั้งอาศัยจังหวะสายตาดึงตัวหลบหมัดของนักชกนิคารากัวได้ชนิดแทบไม่บอบช้ำเลย ครบยกคะแนนเทไปข้างแชมป์เฉพาะกาลชาวไทยเราแบบไร้ข้อกังขา 117-111 สองเสียง และ 119-109 อีกเสียง
จบการชกแฟนมวยชาวไทยเฮกันใหญ่เพราะเชื่อว่าเมืองไทยมีแชมป์โลก “ตัวจริง” เพิ่มอีกรายแล้ว ที่สำคัญทำให้ไทยเรามีแชมป์โลกจากสถาบันหลักที่ได้รับการยอมรับครบทั้ง 4 สถาบัน โดย วันเฮง ซีพีเฟชรมาร์ท จากค่ายเดียวกัน เป็นแชมป์รุ่น 105 ปอนด์ของสภามวยโลก WBC, อำนาจ เกษตรพัฒนา เป็นแชมป์รุ่น 112 ปอนด์ของสหพันธ์มวยนานาชาติ IBF, ผึ้งหลวง ส.สิงห์อยู่ เป็นแชมป์รุ่น 118 ปอนด์ขององค์กรมวยโลก WBO และน็อกเอ้าท์ รุ่น 105 ปอนด์ของสมาคมมวยโลก WBC ถือเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของวงการมวยไทยเลยทีเดียว
แต่ปรากฏว่าข่าวล่าสุดยังเกิดความสับสนอยู่ เพราะเว็บไซต์มวยที่ได้รับความเชื่อถือสูงสุดอย่าง boxrec.com กลับประกาศให้ไฟต์นี้เป็นการป้องกันตำแหน่งแชมป์ “เฉพาะกาล” ของ น็อกเอาท์ เท่านั้น พอเช็คข่าวจาก WBA ก็มีรายงานผลการชก และรายงานว่าเป็นการป้องกันตำแหน่งแชมป์ “เฉพาะกาล” เหมือนกัน จะดูการจัดอันดับมวยก็ยังอยู่แค่เดือนธันวาคม เดือนมกราคมยังไม่มีการประกาศ ถ้าประกาศมาว่าแชมป์ตัวจริงดั้งเดิมอย่าง เฮคกี บัดเลอร์ ได้รับการยกย่องขึ้นเป็นซูเปอร์แชมเปียนแล้ว และตำแหน่งแชมป์จริงว่างลงแล้ว (ณ เดือนมกราคม) ก็พอจะใจชื้นเชื่อได้ว่าพอประกาศอันดับเดือนกุมภาพันธ์จะมีชื่อนักชกไทยเป็นแชมป์แน่นอน แต่ตอนนี้ในเว็บยังอยู่แค่เดือนธันวาคมก็ต้องรอกันหน่อย
ตอนนี้ก็ได้แต่แสดงความยินดีกับฟอร์มการชกที่ยอดเยี่ยมของ น็อกเอาท์ ไปก่อน แล้วไว้ประกาศว่าเป็นแชมป์จริงๆ แล้วแฟนมวยชาวไทยค่อยมาร่วมเฮกันดังๆ อีกครั้ง ที่สำคัญกว่าจะถึงวันนั้นทั้ง ผึ้งหลวง-วันเฮง-อำนาจ อย่าเพิ่งพลาดท่าใครไปซะก่อน จะได้มีวันที่เราปลื้มกันได้จริงๆ ว่ามีแชมป์โลกตัวจริงครบ 4 สถาบันกันได้เต็มปาก
