ASTV ผู้จัดการรายวัน – สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย กำลังอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ หลังจากที่ สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ “ฟีฟา” แต่งตั้ง คณะกรรมการกลาง 6 ราย เข้ามาดูแลการเลือกตั้งนายกสมาคมฯวาระใหม่ ที่ต้องแล้วเสร็จก่อนวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2559 โดยที่น่าสนใจก็คือ หนึ่งในนั้นมีชื่อของ “นิน” ชื่นชนก ศิริวัฒน์ สุภาพสตรีวัย 25 ปี ที่ได้รับเกียรติให้เข้ามาแก้วิกฤตท่ามกลางการเฉือนคมกันของเหล่าชายหนุ่มเชี่ยวเวที ซึ่งเมื่อดูจากโปรไฟล์ของเธอแล้วต้องบอกว่าไม่ธรรมดาเลยทีเดียว
แม้ชื่อของสาว “นิน” ชื่นชนก จะยังไม่เป็นที่คุ้นหูในวงกว้างของแฟนกีฬามากนัก แต่หากดูที่นามสกุลคงสะดุดตาไม่น้อย เพราะเธอคือลูกสาวของครอบครัว “ศิริวัฒน์” มีคุณพ่อและคุณแม่คือ นายชัยภักดิ์ นายกสมาคมฮอกกี้แห่งประเทศไทย กับ นางนฤมล อดีตประธานคณะกรรมาธิการกีฬาวุฒิสภา สองบุคลากรที่เป็นคีย์แมนในวงการกีฬาไทยมายาวนานทั้ง เทนนิส, บิลเลียด, ฟุตบอล และเน็ตบอล
เธอเผยถึงที่มาของการเข้าร่วมงานในตำแหน่งกรรมการ ของคณะกรรมการกลางชุดนี้ว่า มาจากการเสนอชื่อของ “บิ๊กเจี๊ยบ” พิสัณห์ จุลดิลก หนึ่งในผู้ลงสมัครชิงเก้าอี้นายใหญ่ลูกหนังไทย “คุณพิสัณห์ ได้ติดต่อขอให้เข้ามาช่วยงานในโควตาของท่าน ซึ่งท่านอาจจะเสนอชื่อไปหลายราย แต่สุดท้ายฟีฟาเป็นผู้พิจารณาเลือกเข้ามา โดยอาจดูจากผลงานของเราที่เคยทำวิจัยเกี่ยวกับกีฬาฟุตบอลมาตลอด 4 ปีที่ผ่านมา ที่สำคัญเราโตมาในครอบครัวที่รักกีฬา และมีความชอบในฟุตบอลอยู่แล้ว จึงอยากที่จะเข้ามาช่วย หากความรู้ที่เรามีช่วยเป็นประโยชน์ได้บ้างก็เป็นสิ่งที่ดี”
“หน้าที่ของเราคือสร้างสนามแข่งขันให้เป็นธรรมที่สุดก่อน มีหน้าที่แก้ไขสิ่งต่างๆที่เห็นว่าเป็นปัญหามาตั้งแต่อดีต หลายส่วนอาจต้องการความชัดเจนมากขึ้น เพราะสมาคมฟุตบอลฯเป็นของทุกคน จึงอาจมีคำถามที่อยู่ในใจบางคนเกี่ยวกับที่มาหรือการได้มาของสโมสรที่มีสิทธิ์ออกเสียง เราอยากให้ผู้ลงสมัครและสโมสรสมาชิกเข้ามาด้วยความรู้สึกที่เสรีว่าจะได้รับความเป็นธรรม มากกว่าความรู้สึกต้องเข้าคูหาด้วยความกลัว หรือรู้สึกว่าสโมสรตัวเองอยู่บนเส้นด้ายหรือเปล่า ส่วนกระบวนการได้นายกสมาคมฯจะเป็นอย่างไรก็เป็นเรื่องของสโมสรเป็นผู้ตัดสินใจ คณะกรรมการฯมาร่วมกันครั้งนี้ก็เพื่อทำตามวัตถุประสงค์ของฟีฟาให้ผ่านปัญหาที่มีไปให้ได้” ชื่นชนก เปิดใจ
ยิ่งย้อนดูโปรไฟล์ของเจ้าตัวแล้วพบว่า สาววัย 25ปีคนนี้ดีกรีไม่ธรรมดาเลยทีเดียว สมัยเด็กเคยเป็นพิธีกรภาคภาษาอังกฤษมาหลายงานตั้งแต่อายุ 13 ปี ทั้ง เอเชียน คัพ, ซีเกมส์, อาเซียนพาราเกมส์ ตลอดจนพิธีกรรายการกีฬาทางโทรทัศน์ และสมาชิกกรรมาธิการกีฬาวุฒิสภา ดูแลการร่างพระราชบัญญัติการกีฬาแห่งประเทศไทย โดยจบการศึกษาชั้นปริญาตรี จากคณะสังคมศาสตร์ เอกเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล ต่อด้วยปริญญาโท ศิลปศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาวิชาการพัฒนาระหว่างประเทศ คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ปัจจุบันเป็นอาจารย์พิเศษ ภาควิชาเศรษฐกิจไทยและวิชาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา มหิดลอินเตอร์เนชันแนล, รองกรรมการศูนย์เพื่อการศึกษาฟุตบอลและชุมชน การวิจัยมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยแมนเชสเตอร์ เมโทรโพลิแทน ประเทศอังกฤษ นอกจากนั้นยังเป็นนักวิชาการที่วิจัยเกี่ยวกับฟุตบอล มีงานวิจัยเรื่อง “Chao Amigos! Hello Thailand: football, migration & sustainability in Thailand” หรือการเมืองท้องถิ่นกับฟุตบอล เรื่องการย้ายถิ่นฐานของนักฟุตบอลอาชีพจากอเมริกาใต้มาเล่นที่ประเทศไทย ซึ่งได้รับการตีพิมพ์ทั่วโลกโดยสำนักพิมพ์เราท์เล็ดจ์ (Routledge) ประเทศอังกฤษ
อย่างไรก็ตามแม้จะการันตีด้วยความสามารถมากมาย แต่การเป็นสุภาพสตรีเพียงหนึ่งเดียวที่ต้องเข้ามาแก้ปัญหาใหญ่มีการแบ่งพรรคแบ่งพวก จึงอดเป็นคำถามไม่ได้ว่าจะรับมือไหวหรือไม่ ซึ่ง “สาวนิน” กล่าวว่า “การเป็นผู้หญิงไม่กดดันอะไร ถือเป็นเกียรติของตัวเองที่ได้เข้ามาร่วมงานกับผู้ใหญ่ที่ทำงานในวงการกีฬามานาน แต่ก็มีหนักใจบ้าง เพราะมีปัญหาเข้ามาพอสมควร หลายฝ่ายมีความต้องการที่ไม่เหมือนกัน เราในฐานะกรรมการกลางทั้ง 6 คนจึงต้องเป็นตัวขับเคลื่อน ให้ทุกอย่างสำเร็จด้วยดี ดังนั้นจึงมีความกดดันในเรื่องของเวลาที่กระชั้นมากกว่า”
พร้อมกันนี้ ชื่นชนก ได้กล่าวถึงเสียงคัดค้านว่าตนมีคุณสมบัติไม่เหมาะสมด้านการมีภาพลักษณ์ของฝ่ายค้านว่า “จริงๆแล้วไม่อยากให้มองตรงจุดนี้ ส่วนเรื่องนามสกุลเป็นสิ่งที่ห้ามกันไม่ได้ถ้าจะคิดว่ามาด้วยเหตุผลอะไร แต่อยากให้ดูที่การทำงานว่าตัวเราไม่มีส่วนได้เสีย เรามีตำแหน่งเป็นรองเลขาฯสมาคมฮอกกี้ จึงอยากขอเวลาทำงาน และขอให้คณะได้ทำงานด้วยความรู้สึกว่าไม่ถูกข่มขู่หรือถูกบีบทางอ้อม รวมถึงไม่อยากให้นำเรื่องการแบนทีมชาติมาเป็นประเด็นด้วยเช่นกัน”