เชลซี ของ โชเซ มูรินโญ กลับสู่เส้นทางแห่งชัยชนะอีกครั้ง หลังคืนฟอร์มพังประตู มัคคาบี เทล-อาวีฟ ผู้มาเยือน 4-0 ศึก ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่มนัดแรก ขณะที่ อาร์เซนอล พังพาบเหลือ 10 ตัวแถมแพ้ ดินาโม ซาเกร็บ 1-2
ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก
เชลซี 4-0 มัคคาบี เทล-อาวีฟ
ศึกฟุตบอล ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม เชลซี ตัวแทนจาก พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ เล่นนัดแรกของกลุ่มจีที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ เจอ มัคคาบี เทล-อาวีฟ ผู้มาเยือนจาก อิสราเอล เกมนี้ทีมของ โชเซ มูรินโญ ที่ฟอร์มไม่ดีในช่วงหลังเปลี่ยนตัวหลักหลายคน ไม่มีทั้ง จอห์น เทอร์รี, ดิเอโก กอสตา, บรานิสลาฟ อิวาโนวิช ก่อนเลือกให้โอกาส โลอิค เรมี, รูเบน ลอฟตัส-ชีค ในแนวรุกแทน
เริ่มเกมมา 4 นาที เชลซี ได้จุดโทษก่อนเลยเมื่อ วิลเลียน โดน เปรแดร็ก ราจโควิช เสียบร่วง แต่ เอเดน ฮาซาร์ด คนซัดจุดโทษทำเสียของยิงข้ามคานแบบเหลือเชื่อ แต่แล้ว นาที 14 เจ้าบ้านก็ขึ้นนำอย่างที่ต้องการจากลูกฟรีคิกระยะไกล วิลเลียน เปิดกึ่งยิงกึ่งผ่านบอลตกพื้นแล้ว เปรแดร็ก ราจโควิช มัวแต่เหม่อไม่ทันมองบอลเสียบเสาเป็น 1-0
ผ่านมา 23 นาที ดิเอโก กอสตา ได้ลงมาเล่นแทน วิลเลียน ที่โดนเสียบเจ็บ ก่อนจะมีลุ้นเพิ่ม นาที 24 บอลจากลูกเตะมุม แกรี เคฮิลล์ สลัดตัวประกบวิ่งมาโหม่งหน้าประตูแต่ข้ามคานไปอีก ต่อมา นาที 30 เทล-อาวีฟ มีโอกาสตีเสมอจังหวะลูกฟรีคิก นิโคลา มิโตรวิช เปิดโค้งมาให้ เอราน ซาฮาวี วิ่งโฉบขึ้นมาโหม่งแต่ออกหลังไปก่อน
เชลซี จะเอาลูกที่สอง นาที 37 บอลขลุกขลิกหน้าประตู ดิเอโก กอสตา ได้จังหวะทิ้งตัวตีลังกายิงแต่แป้กเข้าทาง ออสการ์ วิ่งมาซ้ำชนคานไปเสียอีก ก่อนหมดเวลา นาที 45 สิงห์บลูส์ ได้ลูกโทษอีกแล้ว ทาล เบน ฮาอิม เสียบ ดิเอโก กอสตา กลิ้ง แล้วเป็น ออสการ์ ซัดไม่พลาดส่งทีมนำ 2-0 และจบครึ่งแรกด้วยผลดังกล่าว
ครึ่งหลัง มัคคาบี ไม่ยอมแพ้จะตีไข่แตกให้ได้ นาที 55 นิโคลา มิโตรวิช เปิดบอลมาให้ อาวี ไรแคน วอลเลย์ด้วยซ้ายแต่แฉลบออกหลังไปอีก ทว่า นาที 58 สิงห์บลูส์ ก็จัดการดับฝันผู้มาเยือนด้วยประตูที่สาม เชส ฟาเบรกาส เปิดบอลยัดไปให้ ดิเอโก กอสตา ตวัดด้วยขวาในเขตโทษเข้าไปเป็น 3-0
นาที 74 ทีมเยือนยังใจดีสู้เสือบุกขึ้นมา เดยัน ราโดนิช ลากบอลมาถึงเขตโทษแล้วแต่ยิงไม่ดีเข้าซอง แอสเมียร์ เบโกวิช แต่ก็ถึงกับเข่าทรุด นาที 77 จังหวะสวนกลับ เชลซี เร่งเครื่อง โลอิค เรมี ล็อกหนึ่งจังหวะแต่ยิงติดเซฟ ทว่าบอลเด้งเข้าทางปืน เชส ฟาเบรกาส จิ้มเข้าไป ทิ้งห่าง 4-0 เรียบร้อยแล้ว
ท้ายเกม นาที 84 ทีมของ โชเซ มูรินโญ ยังไม่พอใจจะเอาลูกที่ห้า เบอร์ทรานด์ ตราโอเร ได้โอกาสยิงแล้วแต่พลาดออกหลังไปเฉย สุดท้ายไม่มีประตูเพิ่ม จบเกม เชลซี ปิดจ๊อบเก็บ 3 แต้มแรกเข้าบ้านในรายการนี้ได้สำเร็จ พร้อมกับขึ้นนำเป็นจ่าฝูงกลุ่มจีไปเลย
ส่วนผลอีกคู่ในกลุ่มเอฟ อาร์เซนอล อีกทีมจากลีกสูงสุดเมืองผู้ดี ลงเล่นนัดแรกกลุ่มเอฟ ทว่าต้องกลับบ้านแบบมือเปล่าสุดชอกช้ำ หลังบุกไปพ่าย ดินาโม ซาเกร็บ 1-2 จากการทำเข้าประตูตัวเองของ อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน นาที 24 กับ จูเนียร์ เฟอร์นานเดซ นาที 58 ขณะที่ ธีโอ วัลคอตต์ มาช่วยตีไข่แตก นาที 79 แถมต้องเล่นแค่ 10 คนเมื่อ โอลิวิเยร์ ชิรูด์ โดนใบแดงไล่ออกตอนนาที 40
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
เชลซี - แอสเมียร์ เบโกวิช, เคิร์ต ซูมา, บาบา ราห์มัน, แกรี เคฮิลล์, เซซาร์ อัสปิลิกูเอตา, เชส ฟาเบรกาส, ออสการ์, เอเดน ฮาซาร์ด, วิลเลียน, รูเบน ล็อฟตัส-ชีค, โลอิค เรมี
มัคคาบี เทล-อาวีฟ - เปรแดร็ก ราจโควิช, ยูวิล ชีพูกิน, ไอตัน ติบี, ออมรี เบน ฮารุช, ทาล เบน ฮาอิม, กัล อัลเบอร์แมน, ทาล เบน อาอิม 2, อาวี ไรแคน, นิโคลา มิโตรวิช, โนซา ไอกีเบอร์, เอราน เซฮาวี
ผลฟุตบอล ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม
ไบเออร์ เลเวอร์คูเซน 4-1 บาเต โบริซอฟ
[1-0 อัดเมียร์ เมห์เมดี น.4, 1-1 เนามานยา มิลูโนวิช น.13, 2-1 ฮาคาน คัลฮาโนกลู น.47, 3-1 ฮาเวียร์ เฮร์นานเดซ น.58, 4-1 ฮาคาน คัลฮัลโนกลู น.75]
โรมา 1-1 บาร์เซโลนา
[0-1 หลุยส์ ซัวเรซ น.21, 1-1 อเลสซานโดร ฟลอเรนซี น.31]
ดินาโม ซาเกร็บ 2-1 อาร์เซนอล
[1-0 อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน (เข้าประตูตัวเอง) น.24, 2-0 จูเนียร์ เฟร์นานเดซ น.58, 2-1 ธีโอ วัลคอตต์ น.79]
โอลิมเปียกอส 0-3 บาเยิร์น มิวนิก
[0-1 โทมัส มุลเลอร์ น.52, 0-2 มาริโอ เกิตเซ น.89, 0-3 โทมัส มุลเลอร์ น.92]
ดินาโม เคียฟ 2-2 ปอร์โต
[1-0 โอเล็ก กูเซฟ น.20, 1-1 วินเซนต์ อบูบาการ์ น.23, 1-2 วินเซนต์ อบูบาการ์ น.81, 2-2 วิตาลี บูยัลสกี น.89]
เชลซี 4-0 มัคคาบี เทล-อาวีฟ
[1-0 วิลเลียน น.15, 2-0 ออสการ์ น.45, 3-0 ดิเอโก กอสตา น.58, 4-0 เชส ฟาเบรกาส น.78]
บาเลนเซีย 2-3 เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก
[0-1 ฮัล์ค น.9, 0-2 ฮัล์ค น.44, 1-2 อาเซล วิตเซล (ทำเข้าประตูตัวเอง) น.54, 2-2 อังเดร โกเมส น.73, 2-3 อาเซล วิตเซล น.76]
เกงค์ 1-1 โอลิมปิก ลียง
[0-1 คริสตอฟ แยนเล็ต น.58, 1-1 ดาเนียล มิลิเซวิช น.68]
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!***