“Telegraph” สื่ออังกฤษ จัดอันดับ 10 นักเตะที่ปรากฏตัวได้น่าประทับใจ หลังจาก อองโตนี มาร์กซิยาล หอกทีมชาติฝรั่งเศส ซัดประตูสุดสวย “วันแดงเดือด” เมื่อวันเสาร์ที่ 12 กันยายน ที่ผ่านมา ดังนั้น ลองไปดูกันว่ามีคนไหนบ้างที่ยังติดตราตรึงใจอยู่ในความทรงจำของคอลูกหนัง
เวย์น รูนีย์ - ก่อนหน้านี้ ได้รับบาดเจ็บกระดูกเท้าแตกจากการรับใช้ทีมชาติอังกฤษลุยศึก ยูโร 2004 รอบ 8 ทีมสุดท้าย ทว่า หอก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คืนสนามหลังจากนั้น 3 เดือน คือศึก ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม โดยใช้เวลา 37 นาทีซัดแฮตทริกชนะ เฟเนร์บาห์เช 6-2 ภายใต้ยูนิฟอร์มหมายเลข 8 นับตั้งแต่ย้ายจาก เอฟเวอร์ตัน
เซร์คิโอ อกูเอโร - แข้งที่ย้ายจาก แอตเลติโก มาดริด ลงมาเป็นตัวสำรองช่วงครึ่งชั่วโมงสุดท้ายเกม พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ โดยตอนนั้นทีมนำ สวอนซี ซิตี 1-0 ก่อนที่จะช่วยให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี ยิงได้อีก 3 ประตูถล่มไปแบบท่วมท้น 4-0 เมื่อปี 2011 ซึ่งหอกทีมชาติอาร์เจนตินาเหมาคนเดียว 2 ประตู
อองโตนี มาร์กซิยาล - นักเตะวัยทีนค่าตัวแพงที่สุดในประวัติศาสตร์ย้ายจาก โมนาโก 36 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,980 ล้านบาท) นัดแรกที่หอกชาวฝรั่งเศสลงมาสำรองก็ฉายาแวว “นิว เธียร์รี อองรี” ฉีกกองหลัง ลิเวอร์พูล เป็นริ้ว ๆ ซัดตอกฝาโลงให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดบ้านชนะในศึก “วันแดงเดือด” พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ 3-1
จิมมี กรีฟส์ - ถือเป็นจอมปรากฏตัวอย่างแท้จริง เพราะยิงประตูได้ตั้งแต่นัดแรกที่ลงเล่นให้ เชลซี, เอซี มิลาน, ท็อตแนม ฮอตสเปอร์, เวสต์ แฮม ยูไนเต็ด, ทีมชาติอังกฤษทั้งชุดใหญ่และยู 23 แต่ที่เด่นสุดเห็นจะเป็นภายใต้สีเสื้อ สเปอร์ส เมื่อปี 1961 โดยครั้งนั้นกองหน้าจอมลีลาจัดการ “ซิสเซอร์ส-คิก” ยิงก่อนจบเกมทำแฮตทริกเหนือ แบล็กพูล 5-2
ฟาบริซิโอ ราวาเนลลี - มิดเดิลสโบรช์ คว้าหอกชาวอิตาเลียนฉายา “เจ้าหงอก” มาด้วยค่าตัว 7 ล้านปอนด์ (ประมาณ 385 ล้านบาท) หลังคว้าแชมป์ยุโรปกับ ยูเวนตุส ซึ่งแน่นอนดีกรีระดับนี้ไม่ทำให้ผิดหวังซัดแฮตทริกตั้งแต่นัดแรกของศึก พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ เมื่อปี 1996 เปิดบ้านเสมอกับ ลิเวอร์พูล 3-3
รอย เอสซานโดห์ - หนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์ของศึก เอฟเอ คัพ เมื่อลงมาเป็นตัวสำรองให้กับ วีคอมบ์ วันเดอเรอร์ส ก่อนที่กองหน้าไอร์แลนด์เหนือ จะซัดประตูชัยช่วงท้ายเกมบุกเอาชนะ เลสเตอร์ ซิตี รอบ 8 ทีมสุดท้ายเมื่อปี 2001 ไปแบบสุดดรามา 2-1 แน่นอนถือเป็นมาตรฐานของฟุตบอลถ้วยเก่าแก่ที่สุดในโลกมักมีเซอร์ไพรส์เสมอ
อลัน เชียเรอร์ - แบล็กเบิร์น โรเวอร์ส เซ็นสัญญาดึงตัวจาก เซาแธมป์ตัน เมื่อปี 1992 ด้วยค่าตัวสูงเป็นสถิติตอนนั้นคือ 3.6 ล้านปอนด์ (ประมาณ 198 ล้านบาท) ซึ่งระดับตำนาน “สิงโตคำราม” ย้อนไปครั้งนั้นเหมา 2 ประตูรวมลูกวอลเลย์สุดงามเต็มข้อระยะ 20 หลาช่วยให้บุกไปแบ่งแต้มเสมอกับ คริสตัล พาเลซ 3-3
อลัน สมิธ - ลงมาเป็นตัวสำรอง แต่หลังจากนั้นเพียงแค่ 3 นาทีกองหน้าพันธุ์ระห่ำย้อนไปวัย 18 ปี ก็ซัดประตูบุกตีเสมอ ลิเวอร์พูล ปี 1998 ซึ่งถือเป็นการจุดประกาย เพราะหลังจากนั้น จิมมี-ฟลอยด์ ฮัสเซลเบงค์ หอกเลือดดัตช์ก็มาซัด 2 ประตูท้ายเกมช่วยให้ ลีดส์ ยูไนเต็ด บุกคว้าชัยถึง แอนฟิลด์ 3-1
เจอร์เกน คลินส์มันน์ - หอกดีกรีแชมป์โลกกับทีมชาติเยอรมนีเมื่อปี 1990 ย้ายจาก โมนาโก ปี 1994 สร้างความฮือฮาให้กับ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ ซึ่งแค่นัดแรกเจ้าของฉายา “ฉลามขาว” ก็ซัดประตูช่วยให้บุกเอาชนะ เชฟฟิลด์ เวนส์เดย์ แบบสุดมัน 4-3 พร้อมกับดีใจท่าเอกลักษณ์พุ่งถลาไปกับพื้นสนาม
เฟเดริโก มาเคดา - เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ส่งหอกชาวอิตาเลียนวัย 17 ปี ลงสนามช่วง 29 นาที สุดท้ายท่ามกลางความหวัง เพราะเล่นในบ้านตามหลัง แอสตัน วิลลา 1-2 ก่อนหน้านี้เจ้าหนูก็ซัดแฮตทริกให้กับทีมสำรองไปแล้ว จากนั้นทีมตีเสมอได้จาก คริสเตียโน โรนัลโด และเป็นซูเปอร์ซับที่มาหมุนตัวยิงเสียบมุมเป็นประตูชัย 3-2 เมื่อปี 2009
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!***